WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, August 19, 2012

Thailand Mirror: สัมภาษณ์"หงา" ผมไม่ชอบสีแดงเท่าไหร่ ไม่ชอบวิธีการที่เขาทำอยู่

ที่มา ประชาไท

 
สุรชัย จันทิมาธร : ผมไม่อยากเป็นอะไร  เพราะการพูดกับการทำมันไม่แมทช์กัน ปรองดองมานานแล้ว เผยเสื้อแดงเคยมาขอโทษชี้เหลืองแตกแยกทำลายกันเอง ส่วนแดงก็ทำลายตัวเอง ย้ำชาวบ้านเขาปรองดองกันได้แต่เหตุที่ปรองดองไม่ได้เพราะนักการเมือง
THAILAND MIRROR(http://www.youtube.com/watch?v=_vwL57tTQyc) สัมภาษณ์ หงา คาราวาน หรือ สุรชัย จันทิมาธร "สหายพันตา" อาจารย์ใหญ่แห่งวงการเพลงเพื่อชีวิต เผยว่าคนเรียกตนเองว่าสีเหลือง “แต่ผมก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับสีของผมเท่าไหร่ กับพวกสีแดงผมก็เจอ ตอนหลังผมก็ไปเล่นให้วันเกิดกำนันโน้นกำนันนี่มันก็แดงทั้งเทือก ผมก็เล่นได้เขาก็เชิญผมไป”



VDO Clip วงการวรรณกรรมไม่มีสี : หงา คาราวานโดย THAILAND MIRROR
 
“ผมไม่อยากเป็นอะไร ผมก็ไม่ชอบสีแดงเท่าไหร่ ไม่ชอบวิธีการที่เขาทำอยู่ ถึงแม้ว่าหลายๆคนก็เป็นเพื่อนกัน แต่การพูดกับการทำมันไม่แมทช์กันเท่าไหร่ เอาเรื่องเผาเมืองกันนะ เราก็เข้าใจว่าเผาทำไม เราเข้าใจว่าจะปฏิวัติจะโค่นล้มอะไรกันล่ะ จะยึดเมืองล่ะ แต่มันไม่สำเร็จขึ้นมาแล้วก็บอกว่าตัวเองไม่ได้เผา พูดอย่างนี้มันไม่ถูก ก็ใครเผาล่ะงั้น” หงา คาราวาน กล่าว
 
สำหรับเรื่องการปรองดอง สุรชัย กล่าวว่าตนเองปรองดองมานานแล้ว เจอคุยหมดทุกคน บางคนในซีกของเสื้อแดงที่เคยทำงานร่วมกันมา เขียนรูปก็ดี เขียนหนังสือก็ดี บางคนมาขอโทษ เพราะตลอดมาตนเองไม่เคยไปใช้สื่อ หรือว่าให้สัมภาษณ์ไปด่าเขา พยายามหลีกเลี่ยงตรงนี้มากที่สุด ไม่ใช่เพราะไม่กล้าแตะ แต่ไม่ได้ใช้สื่อ เขียนข้อความก็ดี เขียนหนังสือพิมพ์ก็ดี ออกวิทยุออกทีวีแล้วก็ด่า ตนเองไม่ทำ แต่เพื่อนตนเองกลับทำกับตนโดยที่ตนไม่สนใจ
 
อาจารย์ใหญ่แห่งวงการเพลงเพื่อชีวิต มองว่าสรรพสิ่งทุกอย่างมันมีเกิดมันก็ต้องมีล่วง เหมือนๆกับสถานการณ์ทางการเมือง มีสีเหลืองในที่สุดเหลืองก็มาแตกแยกทำลายกันเอง พอมีแดงในที่สุดถึงจุดพีคก็มานั่งทำลายตัวเอง พรรคคอมมิวนิสต์ก็เหมือนกันก่อตัวตั้งปฏิวัติเสร็จเรียบร้อยในที่สุดก็ทำลาย ตัวเอง
สุรชัย ยังได้เสริมเรื่องการปรองดองด้วยว่า ชาวบ้านเขาปรองดองกันได้ ชาวบ้านจริงๆ ถึงแม้ว่าจะเคยด่ากันจะเคยตีกัน แต่ก็คุยกันได้กินเหล้ากันได้ แต่ที่ปรองดองกันไม่ได้คือการเมือง คือการเมืองของพรรคการเมือง ชี้นำชาวบ้านให้แบ่งพวกแบ่งฝ่าย “ผมว่านักการเมืองมีปัญหา” หงา คาราวาน ย้ำ
 
ทั้งนี้เกี่ยวกับเรื่องสีกับการเมือง สุรชัย ได้แต่งกลอน ทวงคืนสีแดง และ facebook  เพจ “วารสารฯ ต้านนิติราษฎร์” (https://www.facebook.com/photo.php?fbid=403889876323815 )ได้นำมาเผยแพร่เมื่อ 26 มิ.ย.55 ที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้เกิดวิวาทะผ่านบทกลอนเพื่อโต้บทกลอนของหงาอีกจำนวนมาก
 
 
บทกลอน ทวงคืนสีแดง ของ หงา คาราวาน
 
“ขอเรียนศาลแห่งสีที่เคารพ
สีต้องใช้ไม่ครบกระบวนสี
มีกลุ่มคนผูกขาดในชาตินี้
ยึดสีแดงไปย่ำยีเป็นของตน
ทำให้สีแดงแย่มีแต่ยุ่ง
จะแต่งปรุงงานศิลป์ก็สับสน
ศิลปินเดือดร้อนเกินจะทน
เพราะสีแดงถูกปล้นขโมยไป
เอาสีแดงคืนมาให้ข้าเถิด
ก่อนจะเกิดสงครามห้ามไม่ได้
ทุกวันนี้พวกข้าไม่กล้าใช้
เพราะว่าใจไม่มีให้สีแดง…”
 
ตัวอย่างบทกลอนที่โต้บทกลอนของหงา เช่น บทกวี “จึงเรียนมาด้วยความไม่เคารพศาลแห่งสี” ของ “วิสา คัญทัพ” ที่ว่า
 
“ขอเรียนศาล เลือกข้างสี ที่ไม่เคารพ
สีไม่ครบ เพราะถูกใช้ เติมใส่สี
ไประบาย เลือดไพร่ หาไม่ดี
สาดกระสุนส่องวิถีดับชีวิต
สีแดงคือเลือดมหาประชาชน
ผู้ทุกข์ทนคนไทยผู้ไร้สิทธิ์
ใช่คนปล้นสีไปไร้ความคิด
เขาถูกปลิดชีพเชือดจนเลือดริน
กระหายดื่มสีแดงแห่งเลือดข้น
จึงไล่ยิงกลางถนนคนใจหิน
เนาวรัตน์ สุรชัย ไม่ได้ยิน
จึงลืมดิน ไม่มีใจ ให้สีแดง”
 
ขณะที่ “เกษียร เตชะพีระ” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก็ได้เขียนบทกลอนมีเนื้อหาเกี่ยวกับการผูกขาด "สีเหลือง" ผ่าน facebook ส่วนตัว “Kasian Tejapira(https://www.facebook.com/photo.php?fbid=4217639842157 )” ด้วยว่า


“ขอเรียนศาลแห่งสีที่เคารพ
สีต้องใช้ไม่ครบกระบวนสี
มีกลุ่มคนผูกขาดในชาตินี้
ยึดสีเหลืองไปย่ำยีเป็นของตน
ทำให้สีเหลืองแย่มีแต่ยุ่ง
จะแต่งปรุงงานศิลป์ก็สับสน
ศิลปินเดือดร้อนเกินจะทน
เพราะสีเหลืองถูกปล้นขโมยไป
เอาสืเหลืองคืนมาให้ข้าเถิด
ก่อนจะเกิดสงครามห้ามไม่ได้
ทุกวันนี้พวกข้าไม่กล้าใช้
เพราะเหลืองแคบเหลือใจไม่ฟังมิตร”