ที่มา ประชาไท
Tue, 2012-08-21 23:05
พ.อ.สรรเสริญ ให้สัมภาษณ์ กองทัพบก เชิญ บก.
คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ ทีวี ทานอาหารเย็น แลกเปลี่ยนกับผู้บริหารระดับสูง
แจงกรณีฟ้องอัมสเตอร์ดัม ไม่ใช่เรื่องบุคคล
21 ส.ค.55 เว็บไซต์มตินออนไลน์รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ พ.อ.สรรเสริญ
แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) กรณีกองทัพบกเตรียมเชิญ บรรณาธิการและ
คอลัมนิสต์
หนังสือพิมพ์และโทรทัศน์มาร่วมหารือทำความเข้าใจการทำงานของกองทัพบกว่า
สำนักงานเลขานุการกองทัพบกได้ทำหนังสือเชิญบรรณาธิการ
คอลัมนิสต์ของหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์เพื่อมาร่วมรับประทานอาหารเย็น
พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหารระดับสูงกองทัพบก ในวันที่ 27
สิงหาคม เวลา 18.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์
โดยจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลในปัจจุบันที่สื่อสนใจ เช่น
การบริหารภายในกองทัพบก การปรับย้าย จังหวัดชายแดนภาคใต้
การปฏิบัติการทหารต่อกรณีปราสาทเขาพระวิหาร การเมือง
การจัดซื้อจัดหายุทโธปกรณ์ ดังนั้น กองทัพจึงอยากเชิญบรรณาธิการ คอลัมนิสต์
มาพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น
เพราะกองทัพบกเชื่อว่าบางส่วนที่คอลัมนิสต์เขียนเป็นประโยชน์ต่อกองทัพ
ในหลายมุมมองจะนำข้อมูลทั้งหลายไปเป็นข้อสังเกตในการปรับประยุกต์หรือ
บูรณาการใช้กับงานที่ทำ ในขณะเดียวกัน หากใครที่เขียนแบบกว้างลอยๆ
และไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงกองทัพบกจะได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับท่าน
ขณะที่เว็บไซต์เดลินิวส์ รายงานคำให้สัมภาษณ์ของ พ.อ.สรรเสริญ กรณี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
ได้ให้นายทหารกรมพระธรรมนูญดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อนายโรเบิร์ต
อัมสเตอร์ดัม ทนายความกลุ่มคนเสื้อแดงในข้อหาหมิ่นประมาท
ทำให้กองทัพบกเสียหายว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้แนวทางกรณีนี้ว่า
ไม่เฉพาะตัวบุคคล กลุ่มบุคคล
หรือเป็นอะไรก็แล้วแต่ที่นำเสนอข้อมูลผ่านทางสื่อที่แต่งแต้มสีสัน
ใส่ข้อมูลเพิ่มเติม ใส่ความคิดเห็นบิดเบือน
จนทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิดในการปฏิบัติงานของกองทัพ
หรือกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.)
“ผบ.ทบ.จะ ให้ผู้ที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามเรื่องต่างๆ
และตรวจสอบกระบวนการของการทำงานว่า ส่งผลต่อภาพลักษณ์กองทัพบกหรือไม่
หากส่งผลและทำให้เกิดความเสียหาย ก็จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
เช่นกัน” พ.อ.สรรเสริญ กล่าวและว่า
กลไกของกองทัพบกสำนักงานพระธรรมนูญทหารบก
มีหน้าที่ในการติดตามข้อมูลข่าวสารร่วมกับสำนักงานเลขานุการกองทัพบก
โดยจะติดตามข่าวสารทั้งหลายที่เกิดขึ้นในสังคม หากข้อมูลข่าวสารที่ปรากฏ
ทำให้องค์กรเสียหาย อาทิ ผู้บังคับหน่วย
ผู้นำที่ส่งผลกระทบต่อองค์กรในทางเสียหาย
เขามีหน้าที่ต้องนำเรียนพิจารณาผ่านการกลั่นกรองผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้ให้สัมภาษณ์ในฐานะที่เป็นผู้นำองค์กร
เมื่อหน่วยเสนอขึ้นมาก็จำเป็นต้องอนุมัติเพื่อดำเนินการ
จะเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ
โฆษก ทบ.กล่าวต่อว่า กองทัพบกไม่ได้ทำงานตามความรู้สึก
ไม่ได้ทำงานตามความคิดเห็น แต่ทำงานตามระบบ ดังนั้นที่บอกว่า ช้าแก้เกี้ยว
คงไม่ใช่ เป็นไปตามขั้นตอน ไม่เหมือนสื่อบางสื่อที่คิดแล้วเขียนเลย
คิดปุ๊บแล้วก็นำเสนอหรืออยากให้สถานการณ์บ้านเมืองเป็นอย่างไรก็เขียนไป
กองทัพบกไม่ได้ทำงานตามความรู้สึก
แต่ทำงานโดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง
ที่มา : เรียบเรียงจากเว็บไซต์มติชน และเว็บไซต์เดลินิวส์