WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, September 29, 2009

‘เทือก’ แบไต๋ไม่พร้อมเลือกตั้ง!

ที่มา บางกอกทูเดย์

เจอการเมือง e ที่สะท้อนภาพของความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาการเมือง ด้วยการยื้อสุดฤทธิ์ ไม่ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับหน้าแหลม ฟันดำ 2550 ได้ง่ายๆ อย่างที่หลายฝ่ายเรียกร้องพรรคประชาธิปัตย์ โชว์ฟอร์มดิ้อเหมือนกับกรณแต่งตั้งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)ไม่มีผิดเพี้ยนแม้ว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี จะประกาศลั่นเอาไว้ว่า กลับมาจากทัวร์สหรัฐอเมริกาเที่ยวนี้ รับรองตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ได้แน่!!!แต่เมื่อทำท่าว่า พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจ ทำท่าว่า...ราหูไม่ยอมยกออกจากดวงไปง่ายๆ นายอภิสิทธิ์ ซึ่งเทหน้าตักชนิดไม่สนใจใครทั้งสิ้น จะต้องยื้อให้ พล.ต.อ.ปทีปเป็นให้ได้ก็เลยต้องรีบออกตัวกลัวเสียคำพูดไว้ก่อนว่าถ้าไม่ทัน 30 กันยายน ก็ไม่เป็นไร ใช้เกมตั้งรักษาราชการแทนไปเรื่อยๆ ก็ได้นี่แหละสไตล์ “อภิสิทธิ์ ศิษย์ออกซฟอร์ด” และประชาธิปัตย์ขนานแท้ล่ะเหมือนกับเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขณะนี้เดินหน้าเล่นเกมสุดชีวิตเมื่อประชาธิปัตย์ออกแรงยื้อ จะต้องทำประชามติให้ได้ หากต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 โดยไม่สนใจพรรคคร่วมรัฐบาล อย่างพรรคภูมิใจไทยที่มีซีอีโอใหญ่ ชื่อว่า เนวิน ชิดชอบ เลยแม้แต่น้อยเพราะพรรคภูมิใจไทยเองยังไม่เห็นด้วยกับการยื้อเวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยการทำประชามติอย่างที่นายอภิสิทธิ์ต้องการแต่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่า นายอภิสิทธิ์เล่นเกมนี้ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว!!!อาการฝ่ายหนึ่งขัดใจ อีกฝ่ายไม่ยี่หระ ก็เลยสะพัดกระพือขึ้นมาอีกรอบคนกลางอย่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งเมื่อ7-8 เดือนที่แล้วทำหน้าที่เป็นผู้จัดการรัฐบาล เชื่อมกลุ่มนั้นกลุ่มนี้มาทั้งหมดเพื่อให้หนุนนายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯก็เลยกลุ้มหนักจนผมหงอกขึ้นเยอะแถมยังโดนพรรคร่วมลำเลิกทวงสัญญาอยู่เรื่อยๆผมก็เลยยิ่งบางยิ่งรั้งขึ้นไปมากขึ้น เพราะไม่คิดว่าเป็นผู้จัดการรัฐบาลเที่ยวนี้จะสาหัสขนาดนี้การเมืองในเวลานี้ จึงมีสภาพที่ไร้เอกภาพเป็นอย่างมาก รอยแตกแยกปริทั่วไปหมดซํ้าร้ายที่รัฐบาลพยายามสร้างความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจ ก็ยังไม่สามารถที่จะทำให้เกิดการยอมรับที่เป็นรูปธรรมได้จนกลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจกดดันหนักอย่างยิ่งในปัจจุบันประเทศใดก็ตาม หากโสเภณี และยาเสพติดเกลื่อนเมือง นั่นคือวิกฤติเศรษฐกิจกำลังกดดันหนักอย่างชัดเจนที่สุด เพราะเมื่อคนไม่รู้ว่าจะทำมาหากินโดยสุจริตอย่างไร ก็จำใจหันเข้าหายาเสพติด หันเข้าหาอาชีพที่สังคมรังเกียจแต่เพื่อปากท้อง เพื่อความอยู่รอดก็จำเป็นต้องทำผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนบอกชัดเจนว่าหากบ้านเมืองใดโสเภณีทั้งสวยและราคาถูกสะท้อนว่าเศรษฐกิจแย่มาก!!!

เพียงแต่นายอภิสิทธิ์ยังไม่ยอมที่จะรับความจริง และเดินหน้าคืนอำนาจกลับไปให้ประชาชนด้วยการยุบสภาเลือกตั้งใหม่เท่านั้น ... เพราะกลัวแพ้จึงปล่อยให้สังคมไทยเต็มไปด้วยยาเสพติด และโสเภณีแม้แต่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยังกล้ายอมรับเลยว่า สาเหตุที่ยาเสพติดกลับมาแพร่ระบาดอย่างหนัก และสาเหตุที่มีผู้ค้าและผู้เสพเพิ่มมากขึ้น ต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจมีผล“เมื่อเศรษฐกิจไม่ดี คนที่มีปัญหาเรื่องเงินจึงคิดหาทางออกด้วยวิธีง่ายๆ กล้าเสี่ยง เพื่อหวังจะได้เงิน” นายสุเทพพูดชัดการเมืองก็เดี้ยงเดินหน้าไม่ได้ เศรษฐกิจก็พัง ปัญหาสังคมก็เยอะเจอข้อเท็จจริงชัดๆ แบบนี้ ความเชื่อมั่นก็วูบหาย แค่เห็นเกมดื้อยื้อแบบไม่สนใจใครของพรรคประชาธิปัตย์ เปิดตลาดหุ้นวันที่ 28 กันยายน ตลาดหุ้นไทยก็ติดลบไปร่วม 10 จุดแล้ว ลงไปตํ่าสุดที่ 711.45ทั้งๆ ที่ปิดตลาดหุ้นปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตอนที่นายอภิสิทธิ์ไปจ้อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนฟัง ที่สหรัฐฯ นั้นดัชนีหุ้นไทยยังอยู่ที่ 721.57 อยู่เลยพอกลับมาสู่โลกของความเป็ฯจริงความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นก็ม่วนเสื่อเพราะก่อนหน้านี้ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์สารภาพเองว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้าเที่ยวในประเทศไทยในรอบ 8 เดือนแรกของปี 2552 มีจำนวนเพียงแค่ 8.9 ล้านคนลดลง 14.1% ต่อปี ถือว่าหดตัวมาก!!!แต่ด้วยสไตล์ประชาธิปัตย์คงเส้นคงวา ก็เลยโยนบาปไปให้คนอื่นหมดว่ามีปัญหาการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009บ้างล่ะ ปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาบ้างล่ะโทษไปได้ทั่ว แต่ไม่เคยโทษตัวเองเลยสักนิดว่าหลังจากเดือนเมษายนเรื่อยมาจนจะสิ้นกันยายนอยู่รอมร่อแล้ว ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันบ้าง ภาคธุรกิจท่องเที่ยวแหกปากร้องจนปากจะฉีก เสียงแหบเสียงแห้งไปตามๆ กันวันนี้ธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยยังไม่ฟื้นเสียทีดังนั้นวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ เดินมาถึงทาง3 แพร่ง ที่ต้องตัดสินใจแล้ว...ว่า จะเลือกเล่นเกมแบบใด เพื่อให้ “วันตัดสินชะตา” มาถึงช้าที่สุดเพราะวันนี้ ผู้จัดการรัฐบาล ที่ชื่อ “สุเทพเทือกสุบรรณ” แบไต๋ออกมาแล้วว่า ปชป.ไม่พร้อมเลือกตั้ง!!! 

ทาง 3 แพร่ง รัฐบาลมาร์ค
1.เลือกที่จะซื้อเวลาไปเรื่อยๆ เพราะกลัวการเลือกตั้ง เพราะรู้อยู่แล้วว่า หากเลือกตั้งในช่วงนี้...โอกาสพ่ายแพ้นั้นมีสูง จึงต้องยื้อให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

2.เตรียมหาพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใหม่เอาไว้แทนที่ พรรคภูมิใจไทย ในเมื่อเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ดันไปเห็นด้วยกับพรรคฝ่ายค้านว่าไม่ควรทำประชามติ... แบบนี้เป็นเรื่องที่ต้องทบทวนแล้วว่า จะเก็บไว้เป็น“หอกข้างแคร่” ต่อไปได้อีกนานแค่ไหนยิ่งนายเนวิน ผู้ที่เล่นบทเป็น ซีอีโอ ภูมิใจไทย ด้วยแล้ว วางใจได้ยากมากที่สุด

3.อาศัยแนวร่วมนอกสภาฯ คือ กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งประกาศแล้วว่าจะไม่ยอมให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 โดยเด็ดขาด ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม

โดยใช้ให้มาเป็นแรงกดดันปะทะกับพรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยประชาธิปัตย์เล่นบทลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ตีกรรเชียงซื้อเวลาไปเรื่อยๆ 