ที่มา บางกอกทูเดย์
อดโซ โก้หรูของชาวบ้าน สะท้อนถึงฐานะของชาติ เราก้าวผ่านปี 2551 สู่ปี 2552 มาด้วย “ความเสียวปนความกล้า” ไม่ต่างกับการเดินผ่าน “สะพานแขวนผุๆ” ที่กำลังจะหมดความ “แข็งแกร่ง” ปี 2552 เอาง่ายๆ และชัดๆ คือ ภาพวุ่นวายของพ่อแม่ผู้ปกครองเร่งเปียแชร์ ตั้งหน้าตั้งตากู้ยืมเงิน ส่วนหนึ่งต้องเข้าโรงรับจำนำของรัฐและเอกชนเพื่อเอาของใช้ส่วนตัวไปแลกเปลี่ยนเป็นเงิน สำหรับค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายในการศึกษาของบุตรหลาน ปีนี้ เป็นปีที่มีผู้ใช้บริการโรงรับจำนวนมากที่สุดในรอบ 10 ปี เพราะเศรษฐกิจเป็นพิษ แม้โรงรับจำนำเตรียมเงินสำรองไว้มากมาย แต่ก็ยังไม่พอกับผู้มาใช้บริการที่เพิ่มขึ้น 25-30% จากปีก่อน ดัชนีชี้วัดอีกตัวหนึ่ง คือ คนตกงานมากขึ้น เพราะธุรกิจถึงทางตีบตัน ทางออกคือ การปลดคนงานเพื่อความอยู่รอด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอาหารจานหลักของคนบางกลุ่ม.. โดยปกติต้นเดือนกินร้านอาหาร ปลายเดือนกินบะหมี่สำเร็จรูป แต่เดี๋ยวนี้กินบะหมี่สำเร็จรูปกันตั้งแต่ต้นเดือน แสดงว่าคนจนลง หรือต้องประหยัดมากขึ้นการก่ออาชญากรรม ปล้น จี้ชิงวิ่งราว ตามด้วยการเสี่ยงโชค เสี่ยงตายเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว วัยรุ่นเริ่มติดยาและเข้าสู่เส้นทางค้า ผู้ปกครองหลายรายหวัง “มีเงิน” จาก “ดวง” เรือประมงต้องหยุดหาปลา เจ้าของเรือหลายรายขายเรือเพื่อนำรายได้ไปทำธุรกิจอย่างอื่น รถทัวร์จำนวนไม่น้อยรอให้ธนาคารและเจ้าของเงินกู้มายึด ทั้งหมดเป็นเพราะสู้ราคาน้ำมันไม่ไหว ภาคธุรกิจก็จุกหนักเพราะความสามารถในการทำกำไรลดลง ความสามารถในการชำระหนี้ลดลง เป็นผลมาจากการบริโภคของประชาชนลดลงเมื่อ “เงิน” ไม่มี งานหมด สตางค์หด คนหยุดใช้จ่าย..รายได้หลักของกระทรวงการคลังจากภาษีแวต 7% ก็พลอยหดหาย ถังที่ปริร้าวอาจแตกกระจายก็คราวนี้ ทั้งหมดเป็น “วังวน วงเวียน” ที่น่าหดหู่ของ “ปากท้องคนไทย” แต่รัฐบาลกลับใช้จ่ายสะเปะสะปะ! กระบวนการบริหาร “วุ่นวาย” บ้างขี้ข้าทำตัวเป็นเจ้านาย บ้างก็ดื้อหัวชนฝา ศึกนอก-ศึกใน..มาทักทายรัฐบาลให้ “ตั้งรับ” หนักหน่วง..ก็อย่างว่า มัวแต่เอ่อ เอ่อ!! อ้าปากค้างเน้นตั้งรับ ไม่พร้อมรุกสักที!!! อีกไม่กี่ปีก็คงสบาย เพราะกระอักเลือดตาย.. อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า กายสลายคือ การพ้นทุกข์