ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
อาจต้องตั้งคำถามเดียวกันว่าทั้ง 2 เรื่องถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง
เมื่อถึงจุดต่ำสุดแล้วจะกระเด้งขึ้นเป็นรูปตัววี(V) หรือไม่ อย่างไร
ในเรื่องของเศรษฐกิจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เที่ยวไปปาฐกถาไว้หลายแห่งยืนยันว่าไตรมาสสุดท้ายปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปีหน้า
เศรษฐกิจไทยจะฟื้นเป็นตัววีแน่นอน
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักมองต่างกันออกไป
บ้างก็ว่าเศรษฐกิจไทยเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงเหมือนตัวดับเบิ้ลยู(W) บ้างก็ว่าจะเป็นเหมือนตัวยู(U) คือตกแล้วจะไม่ฟื้นขึ้นทันทีแต่จะค่อยๆ ฟื้น
ส่วนที่มองในแง่ร้ายจะบอกว่าเป็นรูปตัวแอล(L) คือลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้วก็ฟุบยาวจนมองไม่เห็นอนาคต
ก็เป็นเรื่องต้องจับตาดูกันต่อไปว่าใครชัวร์หรือมั่วนิ่ม
แต่ที่อยากรู้ตอนนี้คือนอกจากด้านเศรษฐกิจแล้ว
ในด้านการเมือง นายกฯอภิสิทธิ์ได้ประเมินสถาน การณ์ของตัวเองไว้อย่างไร
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กรุงเทพโพลเปิดเผยผลสำรวจคะแนนนิยมในตัวนายกฯอภิสิทธิ์ เนื่องในโอกาสเข้าดำรงตำแหน่งครบ 3 ไตรมาส
ปรากฏว่านายกฯ สอบตกด้วยคะแนน 4.62 จากเต็ม 10
โพลไม่ได้ระบุแต่เชื่อว่าน่าจะเป็นคะแนนที่แตกต่างจากตอนเข้าดำรงตำแหน่งใหม่ๆ มากพอควร
จริงอยู่ที่ผลสำรวจในลักษณะนี้ไม่ว่าโพลของสำนักใดก็ตาม คะแนนมักจะมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา แล้วแต่เงื่อนเวลาว่าสำรวจช่วงไหน
หรือกำลังมีเรื่องอะไรมากระทบต่อภาพลักษณ์ผู้นำขณะนั้นหรือไม่
แต่ปัญหาสำหรับนายอภิสิทธิ์ คือคะแนนนิยมที่ลดฮวบฮาบลงมาในขณะที่ปัญหาหลายอย่างยังสะสางไม่ออกนั้น
ลงมาถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือยัง
อย่าว่าแต่ท่าทีของนายอภิสิทธิ์ต่อการแก้ไขปัญหาบางเรื่อง เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแต่งตั้งผบ.ตร. การตัดตอนทุจริตชุมชนพอเพียง
รวมทั้งการทุจริตงบโครงการไทยเข้มแข็งที่เริ่มมีโผล่ให้เห็นบ้างแล้ว
ยังเป็นตัวฉุดคะแนนนิยมให้ดำดิ่งลงไปอีก ไม่มีวี่แววว่าจะพุ่งขึ้นเป็นตัววีสักที
ความรู้สึกประเภทที่ว่าคนไทยโชคดีที่ได้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ
ผ่านไป 9 เดือนหลายคนชักจะเบลอๆ เริ่มไม่แน่ใจว่าโชคดีจริงหรือไม่
หรือว่ากำลังโชคร้ายโดยไม่รู้ตัวกันแน่