WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, July 1, 2010

รับไม่รับ! องค์คณะพิจารณาอุทธรณ์คดียึดทรัพย์ทักษิณ ยื่นความเห็นที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาแล้ว

ที่มา มติชน

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ เปิดเผย ผู้สื่อข่าว"มติชนออนไลน์" ว่า เมื่อไม่นานมานี้ องค์คณะพิจารณาอุทธรณ์ 5 คน ได้ ทำบันทึกความเห็น คดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินจำนวน 46,373 ล้านบาทเศษตกเป็นของแผ่นดินว่า สมควรจะรับหรือไม่อุทธรณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยองค์คณะพิจารณาอุทธรณ์ ได้ส่งบันทึกความเห็นไปยังที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา


ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2553 นายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา ได้เรียกประชุมใหญ่ผู้พิพากษาในศาลฎีกา 142 คนเพื่อลงมติเลือกองค์คณะพิจารณาอุทธรณ์


ผลการเลือกผู้พิพากษาในศาลฎีกาปรากกฏว่าที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้ลงมติเลือกองค์คณะพิจารณาอุทธรณ์ 5 คนคือ นายพีรพล พิชยวัฒน์ รองประธานศาลฎีกา นายสมศักดิ์ จันทรา ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา นายมานัส เหลืองประเสริฐ ประธานแผนกคดีพาณิชย์และเศรษฐกิจในศาลฎีกา นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานแผนกคดีแรงงานในศาลฎีกา และนายฐานันท์ วรรณโกวิท ประธานแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา


ทั้งนี้ หน้าที่ของ องค์คณะดังกล่าว คือ การพิจารณาอุทธรณ์ว่ามีพยานหลักฐานใหม่ที่ไม่เคยเกิดปรากฏในชั้นไต่สวนตามกฎหมายกำหนดที่ศาลฎีกาสามารถรับอุทธรณ์ไว้พิจารณาได้หรือไม่ โดยองค์คณะจะทำบันทึกความเห็นเสนอความเห็นที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อพิจารณาลงมติเสียงส่วนใหญ่ว่าจะรับอุทธรณ์ไว้พิจารณาหรือไม่ต่อไป หากที่ประชุมใหญ่ลงมติไม่รับอุทธรณ์ถือเป็นการสิ้นสุดกระบวนการ คดีเป็นอันยุติ


ผู้สื่อข่าว ได้สอบถามความเห็น อาจารย์สอนกฎหมาย จาก คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เคยวิเคราะห์และวิพากษ์วิจารณ์ คำพิพากษาคดียึดทรัพย์ของศาลฎีกาฯ หลายท่าน และส่วนใหญ่ ยืนยันตรงกันว่า ศาลฎีกาฯ จะยกอุทธรณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างแน่นอน เพราะไม่มีพยานหลักฐานใหม่ และเหตุผลอีกประการคือ หากรับอุทธรณ์ จะเป็นการหักล้าง คำพิพากษาของศาลฎีกา ฯ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์


สำหรับ ทีมทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้แก่ นายฉัตรทิพย์ ตัณฑประศาสน์ และนายสมพร พงษ์สุวรรณ เป็นทนายความของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ และนายกิตติพร อรุณรัตน์ ทนายความของ นายพานทองแท้ และนางสาวพิณทองทา ชินวัตร บุตรชายและบุตรสาว พ.ต.ท.ทักษิณ


แนวอุทธรณ์ของตระกูลชินวัตร ยืนยันว่า นโยบายทั้ง 5 ของรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ขณะนั้นไม่ได้เอื้อประโยชน์ธุรกิจครอบครัว พร้อมยื่นบัญชีพยานบุคคลใหม่ พยานบุคคลที่ศาลยังไม่ได้ไต่สวน ทั้งนี้ ทีมทนายความได้อ้างบทวิเคราะห์คำพิพากษาศาลฎีกาฯคดียึดทรัพย์ของ ดร. วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นความเห็นทางวิชาการที่โต้แย้งคำพิพากษาศาลฎีกาหลายประเด็น