ที่มา thaifreenews
โดย Maquid
หากแตกแยกครั้งนี้คงเกินกว่าเยียวยา
โดย พระพยอม กัลยาโณ
การปลุกระดมมวลชนออกมาเพื่อเรียกร้องและกดดันรัฐบาลให้แสดงความชัดเจนว่าจะรักษาอธิปไตยในดินแดนที่ยังเป็นข้อพิพาทระหว่างไทย-เขมรในครั้งนี้ถูกมองว่ากำลังจะสร้างความร้าวฉานให้เกิดกับประชาชนทั้ง 2 ประเทศหรือไม่
การปลุกม็อบสร้างกระแส ก่อมวลชนขึ้นมาในวันนี้ แน่ใจหรือว่ากระแสจะไม่เป็นกระสวนที่จะพัดผวนเล่นงานผู้ที่สร้าง เพราะการแย่งมวลชนหรือการช่วงชิงมวลชนในครั้งที่ผ่านมาได้สร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทยอย่างที่เห็นกันว่าเป็นอย่างไร ในขณะที่วันนี้การปลุกกระแส สร้างมวลชนขึ้นมาเพื่อกดดันรัฐบาลกำลังจะสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคมระหว่างประเทศหรือสังคมระหว่างเพื่อนบ้านมากขึ้น
การเรียกร้องของม็อบในครั้งนี้แม้จะมีเจตนาหวังดีต่อประเทศชาติ ไม่ต้องการให้เสียดินแดน แต่ผลที่ออกมาจะตอบสนองตามความหวังของม็อบด้วยหรือไม่ก็ต้องตามดูกันไป ส่วนผลอันเกิดจากความระหองระแหงระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศนั้นกระแสถูกจุดติดแล้ว
อาตมาได้อ่านบทความในคอลัมน์ของคุณพญาไม้ในหนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์ ทำให้รู้สึกสงสาร พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และกลุ่มพันธมิตรฯพอสมควร เพราะคุณพญาไม้เล่นหนัก เล่นแรง ทำให้เห็นปมด้อยของกลุ่มพันธมิตรฯทันที ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีแต่ปมเด่น โดยเฉพาะการปูดข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม แต่วันนี้กลับต้องมาถูกปูดเองอย่างที่เรียกว่าหอกเจ๊กตำเจ๊ก
ในขณะที่คุณกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งในพันธมิตรฯ วันนี้ก็โดนอัดจนเละจากฝ่ายพันธมิตรฯ รวมทั้งสื่อสีเหลืองก็ออกมาสัพยอกกันอย่างสนุกปากว่าเป็นวัวลืมตีน กิ้งก่าได้ทอง สรุปแล้วคุณกษิตโดนไปเยอะ เรียกว่าสรรพสัตว์มากันเพียบ แม้แต่ดีเจในรายการเพลงยังหยิบเอาคุณกษิตมาวิจารณ์กันอย่างเมามัน ไม่ต้องพูดถึงบนเวทีพันธมิตรฯว่าจะโดนขนาดไหน เพราะคงหนักกว่าทางอื่นแน่
เราได้เห็นความแตกแยกของคนในกลุ่มเดียวกันที่เคยร่วมกันสู้เพื่อโค่นล้มรัฐบาลทักษิณ สมัคร และสมชาย จนตัวเองได้มาเป็นรัฐบาล แต่วันนี้กลับต้องมาทะเลาะกับคนที่เคยร่วมสู้ด้วยกัน ไม่ว่าจะถูกกดดันขับไล่ให้ลาออกหรือยุบสภาย่อมต้องเหนื่อยเป็นธรรมดา
เหนื่อยเพราะคนที่เคยเป็นมิตรแต่วันนี้ต้องกลายเป็นศัตรู ซึ่งย่อมรู้ไส้รู้พุงกัน และเมื่อถูกถล่มก็ต้องโดนชนิดที่ว่ามีแรงตีกลับมาเป็น 2-3 เท่าตัว สาวไส้กันจนอีกาได้อิ่ม ต่างจากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแล้วมาเป็นศัตรูกัน แม้ว่าอาจรู้ลึกหนักหนาบ้างแต่ความสะเทือนจะไม่เท่ากัน
มีนักข่าวอาวุโสท่านหนึ่งพูดแซวว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ไล่ ใครทำอะไรไม่ถูกใจก็ไล่ ถามตัวเองบ้างหรือเปล่าว่าอยากได้ใครมาเป็นรัฐบาล เอ่ยชื่อนายกฯในฝันที่อยากได้ให้ประชาชนรู้หรือยัง
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์ม็อบสีนี้มากนัก เห็นมีแต่เชียร์ให้ล้มล้างรัฐบาลให้ได้ อีกทั้งยังช่วยกันสนับสนุนทั้งทุน ทั้งกำลังคน ซึ่งต่างจากม็อบ 14 ต.ค. 2516 ที่คราวนั้นฝูงชนมากันโดยจิตที่บริสุทธิ์ เพราะไม่มีทุน ไม่มีปัจจัยอื่นให้การสนับสนุน มากันด้วยใจ
แต่ม็อบในยุคนี้เป็นม็อบที่ชิงมวลชน เพราะต่างพยายามที่จะดึงมวลชนให้มาเข้ากับฝ่ายตน ใช้ทุกวิธีทั้งสื่อ ทั้งทุน เรียกว่าดึงกันไปดึงกันมาเดี๋ยวก็มาชนกันเอง
เห็นมวลชนออกมากดดันรัฐบาลในครั้งนี้ก็รู้สึกเป็นห่วงว่ากำลังจะแตกร้าวทั้งข้างนอกและข้างใน เพราะแม้แต่คนที่เคยเป็นพวกเดียวกัน ร่วมกันสู้เพื่อให้กลุ่มอื่นออก ก็ยังแตกคอกัน อันที่จริงความแตกแยกในลักษณะนี้ไมใช่เกิดขึ้นเฉพาะพันธมิตรฯ ม็อบกลุ่มอื่นก็เป็น จนคนที่เป็นแกนนำต้องขอลาออกก็มี
จึงเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงว่าความแตกแยกอย่างที่แล้วๆมายังไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับครั้งนี้ เพราะครั้งนี้จะร้าวลึกจนยากที่จะประสานกลับมาให้เหมือนเก่าได้ และอย่างที่อาตมาได้บอกเป็นประจำว่าม็อบที่สามารถไล่รัฐบาลลงได้ย่อมเกิดความย่ามใจ การจะออกมาไล่อีกรัฐบาลจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ
เพียงแต่คราวนี้ต้องออกมาไล่คนที่ร่วมไล่รัฐบาลอื่นมาด้วยกัน สำหรับรัฐบาลที่เคยมีส่วนร่วมในการไล่รัฐบาลที่แล้ว วันนี้ถูกไล่บ้าง ถึงจะรู้สึกไม่ดีแต่ก็ยังสามารถเอาตัวรอดได้ เพราะรู้ทิศทาง รู้จังหวะว่าทำอย่างไรจึงจะรักษาตัวให้รอด สิ่งเหล่านี้นับว่าน่าเป็นห่วงมากในยามนี้ของบ้านเมือง
เจริญพร