ที่มา ข่าวสด
วัน ที่ 13 มิ.ย. ที่อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่อุปทูตฝ่ายการเมืองและเศรษฐกิจ สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเข้าพบเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า อุปทูตต้องการให้กำลังใจเพราะที่ออสเตรเลียก็มีนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิง เช่นกัน ส่วนที่อุปทูตหลายประเทศกังวลว่าพรรคเพื่อไทยอาจจะซ้ำรอยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนทุกภาคส่วนขานรับ ทำให้การเลือกตั้งน่าจะเรียบร้อยและทุกฝ่ายน่าจะเคารพกติกา
ส่วนกรณีที่กรุงเทพโพลพบว่าชาว กทม.เลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยเพิ่มมากขึ้นนั้น ขณะนี้ยังเหลือเวลา 20 กว่าวันก่อนถึงวันลงคะแนนเลือกตั้ง แต่ผลโพลออกมาอย่างนี้ก็รู้สึกดีใจที่ชาวกทม.ให้การตอบรับ ซึ่งจะเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ ดังนั้นต้องรอผลการเลือกตั้งดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เสนอแนวคิดในการแก้ไขเอกสิทธิ์คุ้ม ครองส.ส. ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องไปถึงหลังการปรองดองที่คนผิดต้องมารับโทษก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบในรายละเอียด แต่ส่วนตัวคิดว่าหากใครทำอะไรผิดกฎหมายก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย แต่ก็อยากให้มีการแยกแยะ ในรายละเอียดต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาศึกษาดูอีกครั้ง ดูทั้งกระบวนการ หลักการลงโทษที่เป็นธรรม หลังเหตุการณ์ 19 ก.ย.49 ก็ต้องมาดูการบังคับใช้กฎหมายเป็นไปตามหลักนิติธรรม เป็นธรรม ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการหรือไม่ นี่ไม่ใช่การทำผิดให้เป็นถูก แต่เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแลความเสมอภาคต่อทุกส่วน
เมื่อถามว่าพรรคฝ่ายตรงข้ามยังโจมตีว่าเล่นการเมืองเพื่อวาระครอบครัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า สื่อมวลชนและประชาชนติดตามการปราศรัยของตนทุกครั้งก็จะเห็นอยู่แล้วว่าตน เน้นย้ำมาตลอดว่าพรรคเพื่อไทยเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ ส่วนคำว่านอมินีนั้นคงไม่ใช่ เพราะตนอาสาเข้ามาทำงานต้องคำนึงถึงประชาชนส่วนใหญ่ ส่วนคำว่าโคลนนิ่งความหมายน่าจะเป็นเรื่องของความคิด สไตล์การทำงาน การบริหารมากกว่า ไม่ใช่ให้คนอื่นมาตัดสินใจแทน
ต่อมาเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้กลยุทธ์หาเสียงโดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ลงพื้นที่่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เพื่อช่วยลูกพรรคคือนายวิทยา ทรงคำ เขต 4 เชียงใหม่ ปราศรัย 2 เวที คือที่ตลาดถนนคนเดินวันจันทร์หน้าที่ว่าการอำเภพร้าว และห้องประชุมสหกรณ์การเกษตรพร้าว จำกัด เยี่ยมสมาชิกสหกรณ์ฯ พร้อมยืนยันกับเกษตรกรว่าจะมีกองทุนเพื่อเกษตรกร 1 จังหวัด 100 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ก่อนขึ้นฮ.ไป อ.จอมทอง
