ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ต้องติดตามกันต่อไปว่าผลจากการสัมมนา
จะ ช่วยให้ประชาธิปัตย์หลุดพ้นจากความพ่ายแพ้ซ้ำซาก ไปสู่จุดหมายในการชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป อย่างที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวไว้ได้หรือไม่
ขณะที่ในสายตาบุคคลภายนอกมองว่า ประชาธิปัตย์พลาดโอกาสในการ'เดินหน้า'ครั้งสำคัญไปแล้ว ตั้งแต่ตัดสินใจเลือกนายอภิสิทธิ์ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคสมัยสอง
ก่อน การเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์เชื่อว่าผลแพ้-ชนะระหว่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยจะออกมาแบบ สูสี 4-5 ที่นั่ง แต่ปรากฏของจริงห่างกันกว่า 100 ที่นั่ง
เท่ากับนายอภิสิทธิ์ อ่านสถานการณ์ผิดพลาดร้ายแรง ประเมินตัวเองสูงเกินไป ประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำเกินไป จนทำให้พรรคแพ้พังยับ
เคราะห์ กรรมจากความพ่ายแพ้ ยังส่งผลให้ตอนนี้'ขยะ' ต่างๆ ที่กวาดซุกไว้ใต้พรมในสมัยเป็นรัฐบาล เริ่มฟุ้งกระจายขึ้นมาให้เห็นกันบ้างแล้ว
ทั้งเรื่องงบน้ำท่วม ที่รัฐบาลปัจจุบันแฉว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้งบส่วนนี้ไปจนเกือบหมด
ที่สำคัญคือมีชาวบ้านบางจังหวัดยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือ 5 พันบาท ที่ตกค้างมาตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน
เอาแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ไม่ควรมาสั่งสอนหรือบอกว่ารัฐบาลชุดนี้ควรต้องทำอะไร อย่างไร
หรือ ถ้าใครยังข้องใจต่อ'ความฉับไว'ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย น้ำท่วม ให้ไปถามจากพิธีกรข่าวอย่าง 'สรยุทธ สุทัศนะจินดา' เป็นดีที่สุด
กับ อีกเรื่องที่คลุมเครือ คือกรณีการปิโตรเลียมกัมพูชาแฉเรื่องอดีตรองนายกฯสุเทพ เทือกสุบรรณ เคยแอบไป 'เจรจาลับ' กับนายซกอาน รองนายกฯกัมพูชา เพื่อแบ่งปันผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
นายสุเทพเอง ยอมรับว่ามีการเจรจากันจริงแต่ไม่ใช่เรื่อง'ลับ' เพราะมีบันทึกหลักฐานว่าตนเองได้รับมอบหมายจากที่ประชุมครม.
ซึ่ง จะว่าไปแล้วกรณีนายสุเทพ มีความลับๆ ล่อๆ ไม่ต่างจากกรณีนายพนิช วิกิตเศรษฐ์ เคยถูกจับกุมในพื้นที่เขตกัมพูชา ภายใต้การรับรู้ของอดีตนายกฯอภิสิทธิ์
ฉะนั้น ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องใหญ่ๆ อย่างกรณี 91 ศพ เอาแค่เรื่องน้ำท่วมกับเรื่องกัมพูชา เท่านี้ก็พอมองเห็นอนาคตของประชาธิปัตย์บนเส้นทางการ เป็น'ฝ่ายค้าน'แล้วว่า
ต้องทอดยาวไปไกลแน่นอน