ที่มา thaifreenews
โดย bozo
รมว.ยุติธรรม ตั้งคณะทำงานศึกษาชี้ขาดฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ"ทักษิณ"
ชี้ ยึดหลักกฎหมายในการดำเนินการ ย้ำถวายความจงรักภักดีมาตลอดชีวิต...
วันที่ 5 ก.ย. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม กล่าวถึง
ความคืบหน้าการพิจารณาฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
หลังกรมราชทัณฑ์ส่งผลการพิจารณาเบื้องต้นกลับมาให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามขั้นตอนว่า
การอภัยโทษเป็นพระราชอำนาจตามรัฐธรรมนูญปี 2550 และรัฐธรรมนูญปี 2540 ได้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า
พระมหากษัติย์ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจพระราชทานอภัยโทษ
จากนั้นจะมีกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้บัญญัติไว้เพิ่มเติม ภาค 9
เรื่องอภัยโทษ
เรื่องโทษหนักเป็นเบา
และกรณีการยกเว้นโทษ
โดยสาระของกฎหมายมีอยู่ว่า ผู้มีสิทธิ์ขออภัยโทษเฉพาะราย มีอยู่ 3 สถานะ
1. ผู้ต้องคำพิพากษา
2. ผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง
3. รมว.ยุติธรรม กรณีไม่มีผู้ใดถวายเรื่องราว และ รมว.ยุติธรรม เห็นว่าเป็นการสมควร
ส่วนเรื่องที่กรมราชทัณฑ์ส่งมา เรื่องยังไม่ถึงตน จึงไม่สามารถให้ความเห็นได้
ต้องขอตรวจสอบอีกครั้งทั้งนี้
หากได้รับเรื่อง จะตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ ว่าเรื่องนี้ควรเป็นอย่างไร
แต่โดยหลัก ไม่มีใครยับยั้งได้เรื่องอภัยโทษ ส่วนการเสนอความเห็นเรื่องทูลเกล้าฯเฉพาะราย
ก็เป็นหน้าที่ของ รมว.ยุติธรรม จะเป็นผู้ทำความเห็น
"ขอดูเนื้อหาก่อนว่า มีความสมบูรณ์เพียงใด มีหลายประเด็นที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน
จึงต้องตั้งทำงานตรวจสอบให้รอบคอบ ผมจะยึดหลักเกณฑ์กฎหมายเป็นหลัก
และเรื่องการฎีกาอภัยโทษเป็นเรื่องอภัยโทษเท่านั้น
ผมก็อ่านเฟซบุ๊กของอดีต รมว.ยุติธรรม ก็ขอขอบคุณที่ให้ความห่วงใย
แต่อยากเรียนว่า ไม่ต้องห่วงใยผม ไม่ต้องมากังวลเรื่องความจงรักภักดีของผม
ซึ่งได้ถวายความจงรักภักดีตลอดชีวิตรับราชการร่วม 40 ปีมาแล้ว
และผมมีจุดยืนของผม จะยึดหลักกฎหมายเป็นสำคัญ" รมว.ยุติธรรม กล่าว.
http://www.thairath.co.th/content/pol/199511