ที่มา มติชน
อิลลา อิลลาช : เรื่อง
2 คนที่ว่าไม่ใช่ใครอื่น คนแรก พงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สถาปนิกหนุ่มรูปหล่อ แฟนของ "เอม-พินทองทา" ว่าที่ลูกเขย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ณัฐพงศ์เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับสาวชาวปักษ์ใต้นัยน์ตาคม "พิชชากร มีศักดิ์ หรือจ้าน"
ทั้ง คู่ได้ร่วมกันทำบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในการเข้าไปดูแลโครงการ "เฮ้าส์ 23 รัชดา-ลาดพร้าว" จนประสบความสำเร็จเกินคาดมาแล้ว
มาถึงโครงการคอนโดฯ มิลเลนเนียมฯ บริษัท Pitchman consultant ก็ได้รับคัดเลือกให้เป็นที่ปรึกษาอีกเช่นกัน
ฉะนั้นหากสามารถจับโครงการอภิโปรเจ็กต์ได้ ผู้บริหารย่อมไม่ธรรมดา
ทั้ง สองคนเคยร่วมงานกันมาในบริษัท พร็อพเพอร์ตี้ คอนซัลต์แห่งหนึ่ง ก่อนจะออกมาร่วมกันตั้งบริษัทของตัวเอง เพราะเห็นตรงกันว่า "ทำไมเราไม่ทำงานหนักเพื่อให้เงินมาเป็นของเรา" จึงตัดสินใจมาเปิดบริษัทพีเอ็มแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก เนื่องจากเราถูกชะตากันและทำงานด้วยกันได้ดี
พิชชากร หรือจ้าน เรียกหุ้นส่วนคนสำคัญของเธอว่า พี่พงศ์ คือคนที่เธอยกย่องว่า
"เป็นสุภาพบุรุษหรือชายในฝันของผู้หญิง"
สำหรับเธอแล้ว พงศ์ คือพี่ชายที่แสนดีและเป็นเจนเทิลแมนที่สุดเท่าที่เธอลองวัดจากผู้ชายที่เคยพบเห็นทั่วไป
"พี่ พงศ์เป็นคนเก่ง รอบคอบ ใจเย็น แต่ไม่ได้เฉื่อยนะ ส่วนจ้านเป็นคนใจร้อน ทำงานเร็ว แต่ไม่ค่อยรอบคอบ ดังนั้นพี่พงศ์จะเป็นคนที่คอยช่วยตบให้ทุกอย่างลงตัว ตามมาชี้แนะว่า ต้องทำยังไง จ้านกับพี่พงศ์ห่างกันไม่เยอะ แต่เรายอมรับในฝีมือเขามาก เพราะว่าเขาเก่งจริง ๆ สนิทสนมทำงานร่วมกันเมื่อ 5 ปีที่แล้ว"
ส่วน บุคลิกและอุปนิสัยใจคอ หากสาว ๆ ได้ยินจากปากหุ้นส่วนสาวคนนี้จะต้องอิจฉาแน่ ๆ นอกจากมีหน้าตาเป็นทรัพย์แล้ว ยังมีจิตใจอ่อนโยน ดูแลเพศหญิงได้เป็นอย่างดี ไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใด
"จ้านไม่ใช่น้องที่เขาจีบ แต่เป็นน้องที่เขาด่าได้ เวลาไปไหนด้วยกันเขาจะเปิดประตูให้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นประตูลิฟต์ ประตูรถ ประตูทุกอย่าง และทำทุกครั้งตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกันจนถึงวันนี้ ถ้ามีเขาอยู่ด้วยไม่เคยจะต้องเปิดประตูรถเองแน่นอน
พี่พงศ์เป็นคนดี ประนีประนอมกับทุกคน จ้านจะเป็นฝ่ายที่ไปตีกับคนอื่น แล้วพี่พงศ์ก็จะมาเตือนจ้านให้คิดอีกมุม ลองใจเย็น ๆ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างคิดบวก ก็ทำให้เราเลิกด่าคนไปทั่ว มาทำงานกับพี่พงศ์ทำให้เป็นคนที่ใจเย็นขึ้น แต่ถ้าเวลาต้องเด็ดขาดก็เด็ดขาดอย่างน่ากลัว น่ากลัวเลย" น้ำเสียงที่ย้ำว่าเป็นจริงพร้อมกับเสริมอีกว่า
"ทุกคนบอกว่า พี่พงศ์โชคดีที่ได้เอมเป็นแฟน แต่จ้านจะบอกว่า เอมโชคดีที่ได้พี่พงศ์เป็นแฟน" เธอบอกในฐานะเพื่อนที่รู้จักทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย
เมื่อถามถึงสาวเอมบ้าง เจ้าตัวก็รีบออกตัวทันทีว่า ไม่ขอพูดถึง เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่บอกได้อย่างเดียวว่า "เอมเป็นคนนิสัยดี"
พยายาม จะสอบถามถึงความรักของทั้งคู่อยู่หลายครั้ง แต่แหล่งข่าวท่านนี้ก็ให้เกียรติทั้งคู่ ไม่ยอมเปิดเผยใด ๆ ขอให้ไปถามกับเจ้าตัวเอง บอกเพียงแต่ว่า ทั้งคู่พบรักกันระหว่างที่ไปเรียนคอร์สอสังหาริมทรัพย์ RE-CU จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มาถึงขั้นนี้แล้วก็ถามต่ออีกนิดเรื่อง ประวัติการศึกษาของณัฐพงศ์ที่ดูมึนงงสับสนกันมาก รวมทั้งทรัพย์สินและกิจการที่เผยแพร่อยู่ในขณะนี้ไม่ตรงกันเลยสักเรื่อง
จึง ได้ความกระจ่างว่า หนุ่มโสด รูปหล่อ มาดเข้ม เคยได้รับโหวตให้เป็นขวัญใจไฮโซฯของนิตยสารคลีโอในปี 2007 เป็นทายาทนักธุรกิจส่งออกเสื้อผ้ารายใหญ่ จบปริญญาตรี คณะสถาปัตย์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโทบริหารจากชิคาโก สหรัฐอเมริกา และเรียนหลักสูตรอสังหาริมทรัพย์ RE-CU เป็นที่พบรักกับแฟนสาว เอม-พินทองทา
ส่วน ที่ว่าเป็นเจ้าของคอนโดมิเนียมระดับหรูที่ถนนสุขุมวิท คือดี 65 และ Hive ในย่านใกล้เคียงกันนั้น ก็เป็นเพียงเจ้าของห้องคอนโดฯที่ซื้อไว้เก็งกำไรตามประสาคนมีสตางค์เหลือ เท่านั้นเอง
สำหรับโปรเจ็กต์จริงที่ณัฐพงศ์จะทำและเป็นเจ้าของ คือ โครงการ Lemontea ขอที่ดินเสี้ยวหนึ่งย่านประตูน้ำจากพ่อที่มีอยู่เยอะแยะมากมาย มาสร้างโรงแรมแบบประหยัดไว้บริการชาวต่างชาติ เป็นการดำเนินของบริษัท Koon development ซึ่งมีณัฐพงศ์เป็นประธาน อันนี้สืบจากนามบัตรที่ได้รับแจกเมื่อครั้งเปิดตัวคอนโดฯเฮ้าส์ 23 ก่อนที่จะกลายเป็นคนดังที่ต้องคอยหลบสื่อ เนื่องจากต้องไปดองกับคนดังของบ้านเมือง
กลับมาที่การร่วมหุ้นในบริษัทพีเอ็มว่าประสบความสำเร็จมากแค่ไหน
พิช ชากรถึงได้เล่าแบบเต็มคำได้ว่า ณ จุดที่เราอยู่คิดว่าประสบความสำเร็จ เราไม่ได้เป็นบริษัทใหญ่ มีคนอยู่ไม่กี่คน ทุกอย่างต้องลงมือทำเอง ทุกรายละเอียด กระทั่งการดูอีเวนต์ทำเองเหมด
"เหมือนตอนที่ทำคอนโดฯเฮ้าส์ 23 พี่พงศ์ก็ไปยืนกดสไลด์เอง"
ตอน นี้เราดูแลด้านสื่อ ดูคอมมูนิ เคชั่น ทำการตลาด ซื้อสื่อด้วย เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ ทุกอย่างในโครงการเฮ้าส์ จึงถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของเราเหมือนกัน เพราะเริ่มตั้งแต่ต้น และเน้นการทำงานแบบทีมเวิร์กมาก
หากพูดถึงเรื่องการทำงานแล้ว ต้องยอมรับว่า ทั้งคู่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จและมีผลงานที่น่าติดตาม
เรื่อง ราวทั้งหมดนี้เป็นการเล่าผ่านปากหุ้นส่วนที่สนิทชิดเชื้อกับณัฐพงศ์เป็น อย่างดี แต่ก็ย้ำว่า อย่างไรให้ไปคุยกับเจ้าตัวอีกที แต่เมื่อต่อสายไปแล้ว ถึงว่าที่เจ้าบ่าวจะรับสายแต่ขอสงวนสิทธิ์ที่จะพูดในตอนนี้
ที่ลุ้น กันว่าพิธีวิวาห์จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่นั้น มีการคอนเฟิร์มจากคอลัมนิสต์ชื่อดังหนังสือพิมพ์หัวสียืนยัน ว่าที่เจ้าสาวพิน ทองทาเตรียมพร้อมทั้งเสื้อผ้าหน้าผม และเตรียมตัวไปฟิตติ้งชุดเจ้าสาวของ เวร่า แวง แต่ก็มีเรื่องเดียวที่ไม่มั่นใจว่าจะพร้อมคือ เรื่องพูดบนเวทีที่ "เอม-พินทองทา" สารภาพว่าประหม่ามาก...
(ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่19-21 เมษายน 2554)