WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Wednesday, November 23, 2011

จับตาคดีสลายแดงสาวถึงคนสั่ง?

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ รายงานพิเศษ


กรณี พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และอดีตโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นตัวแทนของกองทัพให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีสลายการชุมนุมช่วง เดือนเม.ย.-พ.ค.53 ยืนยันทหารไม่ปฏิบัติหน้าที่โดยพลการ แต่จะทำตามคำสั่งศอฉ. ซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศอฉ.ขณะเกิดเหตุ เป็นผู้สั่งการ

คำให้การดังกล่าวจะเป็นประโยชน์มากน้อยแค่ไหน สาวไปถึงผู�สั่งการได�หรือไม� มีความเห็นจากผู้ติดตามคดี ดังนี้



สิริพรรณ นกสวน สวัสดี

อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ


คำ ให้การของ พ.อ.สรรเสริญเป็นข้อมูลเดิมว่า การสั่งการทุกครั้งใน คำสั่งของศอฉ.เป็นของนายอภิสิทธิ์ โครงสร้างของศอฉ.นั้นเห็นชัดเจนถึงสายการบังคับบัญชาว่าใครสั่งการเรื่อง อะไร

การยืนยันของพ.อ.สรรเสริญจึงทำให้ข้อมูลเดิมเหล่านั้นชัดเจน ขึ้น หนักแน่นขึ้น ประเด็นหลักจึงอยู่ที่การนำตัวคนผิดมาลงโทษได้หรือไม่ และเป็นประเด็นต่อไปคือ คนที่จะมาตรวจสอบใช้หลักฐานที่มาจากไหน

มอง ในทางการเมือง เรื่องนี้น่าจะเป็นภาพของทหารที่กันตัวเองออกมาจากความผิด กันตัวเองออกมาจากรัฐบาลในช่วงนั้น อีกทั้งเป็นภาพของการประนีประนอมระหว่างทหารและรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์มาก ขึ้น

คนที่ต้องรับผิดชอบทุกคำสั่งการต้องเป็นรัฐบาลชุดนั้นๆ อยู่แล้ว แต่ต้องมาดูว่าทหารทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ เช่น หากรัฐบาลสั่งให้ยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วมีคนเสียชีวิต ตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องมาพิสูจน์กัน

ในส่วนคดีที่มีผู้เสียชีวิต จากการสลายการชุมนุม ต้องเร่งดำเนินการให้รวดเร็ว เพราะเวลาล่วงเลยมานานมากแล้ว รัฐบาลจึงต้องดูว่าควรให้หน่วยงานใดรับผิดชอบ

อย่างคณะกรรมการค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่ตั้งขึ้นในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ก็ให้ทำต่อไปได้ แต่เนื่องจากการทำงานดูช้าไปหมด รัฐบาลจึงควรตั้งตัวแทนเข้าไปร่วมงานอีก ให้การค้นหาความจริงรวดเร็วขึ้น

คนเหล่านี้หากไม่ถูกกระตุ้นจะทำไป เรื่อยๆ เหมือนรอดูท่าที แต่รัฐบาลจะรอดูท่าทีไม่ได้ ประชาชนคาดหวังว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ได้รวดเร็วกว่ารัฐบาลชุดที่แล้ว

ยิ่งช่วงน้ำท่วมรัฐบาลต้องสร้างกระแสของตัวเองให้มาก แต่จะทำด้วยวิธีไหนอยู่ที่พิจารณาของรัฐบาลเอง



ธิดา โตจิราการ

รักษาการประธานนปช.


พ.อ.สรรเสริญให�การเป็นประโยชน์ในการนำตัวคนผิดมาลงโทษ แต่ยังวางใจอะไรไม่ได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้

นปช.จึงมี 2 เป้าหมาย เป้าหมายแรกคือ การทำความจริงให้ประชาชนรับรู้ เป้าหมายที่สองคือ การนำคนผิดมาลงโทษให้ได้

เป้า หมายที่ 2 ยังไม่แน่ใจว่าทำได้หรือไม่ เบื้องต้นจึงต้องทำความจริงให้ปรากฏเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ 2 คือนำคนผิดมาลงโทษ ก่อนจะมีเป้าหมายสุดท้าย คือ ไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก แต่การจะทำให้สำเร็จต้องทำไปทีละขั้น

พ.อ.สรรเสริญยอมรับว่าทำจริง แต่เป็นไปตามคำสั่งของรัฐบาลนั้น เราเชื่อ ทหารมีหลักอยู่ว่า ถ้าไม่ได้สั่งจะทำไม่ได้ ส่วนคำสั่งนักการเมืองที่มีมาถึงทหาร เป็นข้อมูลที่ถูกเปิดเผยมาก่อนหน้านี้ เป็นข้อมูลเดียวกับที่พ.อ.สรรเสริญให้ปากคำ เช่น การสั่งสลายการชุมนุม 19 พ.ค.53 ที่มีลายเซ็นของนายสุเทพ ในฐานะ ผอ.ศอฉ.

แต่กรณีพล.อ.อนุพงษ์ ผบ.ทบ. ขณะนั้น ไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุมเลย เชื่อว่า พล.อ.อนุพงษ์ และทหารรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้

สุดท้ายรัฐบาลที่เป็นผู้สั่งการต้องรับผิดชอบทั้งทางกฎหมายและการเมือง เราจึงต้องนั่งดูต่อไปว่าเรื่องจะจบลงอย่างไร

คำ ให้การของพ.อ.สรรเสริญจึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการค้นหาความจริง ทุกคนต้องจับตาว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้



จาตุรนต์ ฉายแสง

อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย


ประเด็น ของผู้สั่งการนั้น ยังตอบไม่ได้ว่าจะเกิดผลอย่างไรในทางกฎหมาย ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เรารู้กันโดยทั่วไปว่า นายอภิสิทธิ์ในฐานะ ผู้บังคับบัญชาสูงสุด และนายสุเทพในฐานะผอ.ศอฉ. เป็นผู้ตัดสินใจสั่งการให้เกิดการดำเนินการต่างๆ ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.53

โดยเหตุสลายการ ชุมนุมดังกล่าวไม่เป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล ไม่มีการดำเนินการที่เป็นขั้นตอน ดำเนินการเกินกว่าเหตุ มีการข้ามขั้นโดยใช้อาวุธสงครามร้ายแรงเพื่อสลายการชุมนุมจนนำไปสู่ความสูญ เสีย กระทั่งมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพต้องเป็นผู้รับผิดชอบในฐานะผู้สั่งการ

เรื่อง นี้จะต้องขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของกระบวนการยุติธรรมอีกครั้งหนึ่งด้วย นายอภิสิทธิ์และนายสุเทพจะมีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ ต้องมาพิสูจน์กันอีกว่าการสั่งการของบุคคลดังกล่าวนำไปสู่ความสูญเสียที่ เกิดขึ้นหรือไม่

แต่ส่วนตัวมองว่าเหตุการณ์การชุมนุมเฉพาะวันที่ 10 เม.ย.53 ก็ชัดเจนแล้วว่าทั้งนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพมีความผิด ยากที่จะหลีกเลี่ยงแก้ข้อกล่าวหานี้ไปได้

อย่างไรก็ตาม ต้องให้โอกาสทุกฝ่ายได้ชี้แจงและว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม



สมบัติ บุญงามอนงค์

บ.ก.ลายจุด


เป็นเรื่องที่ดีมาก จะทําให้ข้อเท็จจริงต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์คลี่คลายลง

รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่า การสลายการชุมนุมครั้งนั้นไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุ และต้องพิสูจน์คนตายทั้ง 91 ศพ ให้ได้เช่นกันว่า คนเหล่านี้เป็นผู้ก่อการร้าย หรือกลุ่มชายชุดดํา หรือผู้ก่อความไม่สงบ ต้องสั่งให้ทหารนําสไนเปอร์เข้ามาในพื้นที่

ต้องอธิบายให้ได้ว่าการใช้สไนเปอร์ยิงพวกเขานั้น เพื่อต้องการแค่หยุดยั้งหรือจงใจ

คดี 91 ศพ ที่กำลังดําเนินการอยู่ในขณะนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะได้มาสะสาง ให้เสร็จสิ้น หลังจากที่สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลายลง



ดิเรก ถึงฝั่ง

อดีตส.ว.นนทบุรี


การ ออกมาให้ปากคำของพ.อ.สรรเสริญเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ทางออกไม่ใช่การมาตั้งคณะกรรมการ คอป. มันไม่ได้ความจริง เมื่อมีคนตาย ผู้ที่ทำหน้าที่คือตำรวจที่ต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนฆ่า

จึง ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ตรวจสอบและหาข้อเท็จจริง ตรงนี้จะเป็นความจริงที่ชัดเจน อดีตนายกฯ อภิสิทธิ์ก็เคยพูดว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมาย แล้วท้ายที่สุดเราจะรู้เองว่าใครคือคนทำความผิด แล้วหาตัวมาลงโทษ

พ.อ.สรรเสริญ พูดชัดเจนว่า ทำตามคำสั่งศอฉ. ของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพที่ต้องปฏิบัติภารกิจพิเศษ ทหารจึงต้องทำตามคำสั่ง เขาก็ทำถูกต้อง เมื่อผู้บังคับบัญชาสั่งก็ต้องปฏิบัติตาม ในส่วนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครคือคนผิด

ต้องดำเนินการต่อข้อ เท็จจริง สอบสวนกันต่อ ตามกระบวนการยุติธรรมไปเรื่อยๆ จนในที่สุดข้อเท็จจริงปรากฏชัดด้วยหลักฐาน เหตุผลต่างๆ จะนำมาสู่กระบวนการลงโทษได้

เพราะเมื่อมีผู้สั่งก็ต้องมีผู้รับผิด ชอบ ขั้นตอนจะใช้ระยะเวลานานก็ไม่เป็นไร เคยมีเหตุการณ์ที่ประธานาธิบดีต้องถูกลงโทษ เพราะเหตุผลเหล่านี้มาแล้ว

ระหว่าง นี้ยังอยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นค้นหาข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่เมื่อกระบวนการยุติธรรมเสร็จสิ้น ใครก็ปฏิเสธไม่ได้ ต้องเป็นไปตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ขั้นตอนต่อไปต้องเชิญผู้ที่ ถูกพาดพิงหรือมีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติม อย่าลืมว่าสังคมทั้งประเทศมองอยู่ คนไทยไม่ใช่คนโง่ อย่าเบี่ยงเบนหรือปัดให้ข้อมูล อาจถูกสังคมทักท้วงและคัดค้าน จึงไม่ควรทำลายกระบวนการสอบสวน โดยนำระบบพวกมาก-ลากไปมาใช้

กระบวนการยุติธรรมยังมีอีกหลายขั้นตอน เพียงแต่ทุกคนต้องพูดความจริง ยอมรับความจริงกันให้ได้