WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 2, 2008

อดีต ส.ส.ร. 40 ชี้ รธน.ปี 50 ให้อำนาจตุลาการฯ มากเกินไป

โรงแรมมิราเคิลฯ 2 พ.ค.- “พนัส ทัศนียานนท์” ชี้รัฐธรรมนูญปี 2550 ให้อำนาจตุลาการเป็นใหญ่ ระบบเลือกตั้งทำให้ประชาชนมีสิทธิไม่เท่าเทียมกัน ด้าน “เสรี สุวรรณภานนท์” เตือน ส.ส.ลงชื่อยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญระวังถูกถอดถอน เพราะเป็นการทำเพื่อตัวเองมากกว่าส่วนรวม ขณะที่ “สุริยะใส” แนะให้สังคมเป็นเจ้าภาพเพื่อลดความแตกแยก

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจัดสัมมนา “เรื่องสถานการณ์รัฐธรรมนูญไทย” โดยผู้ร่วมอภิปรายในภาคเช้า ประกอบด้วย นายเสรี สุวรรณภานนท์ อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ปี 2550 นายพนัส ทัศนียานนท์ อดีต ส.ส.ร.ปี 2540 และอดีต ส.ว.ปี 2543 นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.)

นายพนัส กล่าวว่า รัฐธรรมนูญถือเป็นประเด็นที่ขณะนี้มีความคิดเห็นแตกแยกอย่างมากในสังคม และตนไม่มีความคิดว่าควรแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะเดียวกันไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ เพราะไม่เชื่อว่าจะนำไปสู่ประชาธิปไตย และเห็นว่า มาตรา 309 ของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ให้ประชาชนยอมรับการทำรัฐประหารและการนิรโทษกรรม ส่วนระบบการเลือกตั้งที่เปลี่ยนไปในรัฐธรรมนูญ 2550 ไม่ทำให้เกิดความเสมอภาค เพราะในแต่ละจังหวัดเลือก ส.ส.ได้จำนวนไม่เท่ากัน ซึ่งขัดกับหลักการเท่าเทียมกันในรัฐธรรมนูญ

นายพนัส กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นองค์กรอิสระในรัฐธรรมนูญปี 2550 ให้อำนาจตุลาการในการสรรหา ซึ่งมองได้ว่าเป็นการปกครอง โดยตุลาการเป็นใหญ่ ที่เราเรียกว่า “ตุลาการภิวัตน์” ซึ่งสหรัฐได้เรียนรู้ในเรื่องนี้มาแล้ว เขาจึงเริ่มจำกัดอำนาจตุลาการ ดังนั้น อยากฝากเรื่องนี้ไว้ให้คิดกัน

ด้านนายเสรี กล่าวว่า จุดยืนของชมรม ส.ส.ร. 2550 ไม่ได้ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การแก้ไขต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวม และขณะนี้ประชาชนสับสนว่า แก้เพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือส่วนรวม โดยฝ่ายรัฐบาลบอกว่า ต้องการแก้รัฐธรรมนูญตามที่หาเสียงไว้ แต่มีอีกฝ่ายระบุว่า เป็นการแก้ไขเพื่อตัวเอง และส่วนตัวเห็นว่า เจตนาแก้รัฐธรรมนูญของรัฐบาลเป็นการทำเพื่อตัวเองให้พ้นจากคดียุบพรรค และพ้นจากคดีความต่าง ๆ และทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระ รวมถึงการแก้รัฐธรรมนูญให้อัยการสูงสุดกลับมาอยู่ภายใต้นักการเมือง

“เราพยายามส่งสัญญาณโดยไม่ต้องการให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง แต่ต้องการให้หลังเลือกตั้งสงบเรียบร้อย ไม่ใช่ยังทะเลาะกันอยู่เหมือนปัจจุบัน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองมากที่สุด การร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 ยึดรัฐธรรมนูญปี 2540 ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2540 เป็นฉบับที่ดีมีการป้องกันเรื่องความไม่โปร่งใส แต่ผิดที่ผู้ที่นำไปใช้ไม่ดี จึงเป็นที่มาของรัฐธรรมนูญปี 2550” นายเสรี กล่าว

นายเสรี กล่าวว่า ขณะนี้มีเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้น เพื่อทำลายรัฐธรรมนูญปี 2550 เมื่อ 2-3 วันก่อนมีคนออกมาบอกว่า การร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 56 เป็นโมฆะ เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งเรื่องนี้ผ่านกระบวนการมาหมดแล้ว การออกมาท้วงติงตอนนี้เป็นเรื่องไม่สมเหตุผล และอยากส่งสัญญาณเตือนว่า หากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญจะทำผิดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 122 เพราะไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ดังนั้น ส.ส.ที่จะลงชื่อเพื่อยื่นญัตติดังกล่าวอาจจะถูกถอดถอนได้ ทำให้การทำงานของสภาต้องหยุดชะงัก

ส่วนนายสุริยะใส กล่าวว่า ไม่ได้คัดค้านหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องสมเหตุผลและถูกต้องตามวิธีทางประชาธิปไตย โดยต้องไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง หากพบว่าความขัดแย้งเกิดขึ้นในสังคมก็ต้องหยุด ซึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลต้องทำให้เสร็จภายใน 1-2 เดือน และการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ของรัฐบาล ทำให้เกิดความหวาดระแวง เพราะมีประเด็นที่นอกเหนือรัฐธรรมนูญ ทำไมไม่เร่งแก้ไขปัญหาด่วน คือ เรื่องปากท้องของประชาชน

“ทางออกเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 5 พรรค สะกิดพรรคพลังประชาชนว่า ถ้าทำเรื่องนี้แล้วแตกแยก ควรออกแบบการแก้รัฐธรรมนูญให้สังคมเป็นเจ้าภาพ จะลดเรื่องความแตกแยกได้ ไม่เช่นนั้นเมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น พรรคร่วมรัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ฐานการแก้รัฐธรรมนูญต้องทำให้เกิดความชอบธรรมแต่ต้น จะไม่เกิดการชุมนุมต่อต้าน การทำประชามติจะทำให้วิวาทะเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเป็นวาระทางสังคม และทำให้การแก้รัฐธรรมนูญไม่เป็นเงื่อนไขของการทำรัฐประหารอีกครั้ง และมีความชอบธรรม” นายสุริยะใส กล่าว.-สำนักข่าวไทย


อัพเดตเมื่อ 2008-05-02 14:53:29