WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 2, 2008

เปิดคดีใบแดง “ยงยุทธ” ดึงพยาน 50 ปากสู้คดี ไต่สวนนัดแรก 8 พ.ค.

ศาลฎีกาฯ สอบข้อเท็จจริงคดีใบแดง “ยงยุทธ” หลัง กกต. ยื่นคำร้องให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง รวมไปถึง “ละออง” น้องสาว นัดไต่สวนพยานนัดแรก 8 พ.ค. ขณะที่ ทีมกฎหมายดึงพยาน “กำนัน – จนท.รัฐ” 50 ปากสู้ชั้นศาล ชี้พยานฝ่ายผู้ร้องไม่น่าเชื่อถือ อ้างสร้างสถานการณ์เกินความเป็นจริง เจ้าตัวยันบริสุทธิ์ มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม

วันนี้ (2 พ.ค.) ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง สนามหลวง เวลา 09.00 น.นายกำธร โพธิ์สุวัฒนากุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา พร้อมองค์คณะรวม 3 คน ออกนั่งบัลลังก์ตรวจสอบพยานหลักฐาน คดีหมายเลขดำที่ ลต.38 /2551 ระหว่าง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้ร้อง และ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนกลุ่มที่ 1 และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และ น.ส.ละออง ติยะไพรัช น้องสาวนายยงยุทธ ส.ส.แบ่งเขต 3 จ.เชียงราย พรรคพลังประชาชน ผู้คัดค้านที่ 1-2 กระทำผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) พ.ศ.2550 ด้วยการทุจริตการเลือกตั้งด้วยการแจกเงินให้กับกลุ่มกำนัน อ.แม่จัน จ.เชียงรายซึ่งเป็นตัวแทน (หัวคะแนน) ของนายยงยุทธ แจกเงินซื้อเสียงเพื่อให้มีการลงคะแนนเลือกผู้สมัครของพรรคประชาชน โดย กกต.ยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ซึ่งให้ถูกใบแดง และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ในเขต 3 จังหวัดเชียงราย ที่ น.ส.ละออง ถูกให้ใบเหลือง

ทางฝ่าย กกต.โดยมี พ.ต.อ.นัฐศักดิ์ นานาวัน ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัยของ กกต. และคณะ ได้นำแผ่นวีซีดี จำนวน 8 แผ่น และคำวินิจฉัยส่วนตนของ กกต.ทั้ง 5 คน มาส่งมอบให้กับศาลตามที่ทนายความฝ่ายผู้คัดค้านของนายงยุทธ และ น.ส.ละออง ร้องขอไว้

อย่างไรก็ดี นายยงยุทธ และน.ส.ละอองไม่ได้เดินทางมาที่ศาลด้วยตนเอง แต่ได้มอบอำนาจให้ นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความและคณะมาดำเนินการแทน

ทั้งนี้ ศาลได้ส่งวีซีดีจำนวน 8 แผ่น และคำวินิจฉัยส่วนตนของ กกต.ทั้ง 5 คน ให้ทนายความของนายยงยุทธแล้ว เพื่อให้ไปตรวจสอบเนื้อหาในวีซีดี ว่า ตรงกับเนื้อหาซึ่ง กกต.ถอดมาจากวีซีดี ยื่นเป็นพยานเอกสารแล้วในสำนวนดังกล่าวหรือไม่ ในประเด็นที่ทนายความต้องการทราบถึงกรณีที่พันเอกธนัชย์ ปัญญา รอง ผอ.กอ.รมน.จ.เชียงราย เรียกกำนันใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย จำนวน 10 คน ไปให้การในวันที่ 11 และ 17 ธันวาคม 2550 ซึ่ง พ.ต.อ.นัฐศักดิ์ ได้ยืนยันต่อศาลว่า วีซีดี 8 ทั้งแผ่นมีเนื้อหาครบถ้วนทั้งในส่วนของรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางที่มีการทุจริตจ่ายเงินซื้อเสียง รวมทั้งรายละเอียดที่มีการเรียกกำนันใน อ.แม่จัน ทั้ง10 คน มาสอบถาม

จากนั้นศาลได้สอบข้อเท็จจริงจากคำร้องและคำคัดค้านของทั้งสองฝ่ายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งทั้งสองฝ่ายรับกันได้สรุปว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2550 หลังจากมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง มีส.ส. กำนันใน อ.แม่จัน จ.เชียงราย จำนวน 10 ประกอบด้วย นายไชยวัฒน์ ฉางข้าวคำ นายอดิศร เรือนคำ นายพัฒน์ จางตาอ่อน นายบุญคำ กำพระ นายจรินทร์ วงศ์ธานี นายพรชาติ สุวรรณรัตน์ นายชด บุตรชา นายสมบูรณ์ อรินต๊ะทราย เดินทางจากจังหวัดเชียงรายด้วยสายการบินแอร์เอเชีย มาลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ

พร้อมกับนายบรรจง ยางยืน นายก อบจ.เดินทางมาด้วย นอกจากนี้ ยังมี ด.ต.มานิตย์ สุฉายา ด.ต.สุเทพ ศรีสุข พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล นางกัณรส ชาภู่พวง เป็นคณะติดตามข้อเท็จจริงของ กกต. ติดตามมาด้วย จากนั้นกำนันทั้ง 10 คน ได้เดินทางขึ้นรถตู้ไปยังที่ทำการพรรคพลังประชาชน ถนนเพชรบุรี กรุงเทพฯ และไปพบกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค และ มีการพูดคุยกัน กำนันทั้ง 10 คนพักค้าง 1 คืน และเดินทางกลับ จ.เชียงราย

ต่อมา กกต.จัดการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ผู้ร้องทั้งสองได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.และ กกต.ประกาศรับรอง แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2550 ก่อนวันลงคะแนนเลือกตั้ง นายวิจิตร ย่อสุวรรณ ผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง เขต 3 จ.เชียงราย พรรคชาติไทย ได้ยื่นคำร้องโดยกล่าวหาว่า การที่กำนันใน อ.แม่จัน จ.เชียงรายทั้ง 10 คน เดินทางไปพบกับนายยงยุทธ ผู้คัดค้านที่ 1 ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน ที่กรุงเทพฯ เชื่อว่า น่าจะมีการเสนอให้ สัญญาว่าจะให้ ทรัพย์สินที่สามารถประเมินราคาได้ เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนให้กับผู้สมัครพรรคพลังประชาชน งดเว้นการลงคะแนนให้พรรคการเมืองอื่น เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง มีผลทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม

ต่อมาคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต.สอบสวนแล้วเสนอ กกต.ผู้ร้อง ว่า ผู้คัดค้านทั้งสองกระทำผิด ม.53 (1) และ ม.57 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.พ.ศ.2550 เห็นควรให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง นายยงยุทธ ผู้คัดค้านที่ 1 และจัดการเลือกตั้งในเขต 3 จ.เชียงราย ใหม่ โดย กกต.ผู้ร้องวินิจฉัยชี้ขาดแล้วมีมติว่า นายยงยุทธ ผู้คัดค้านที่ 1

กระทำผิด ม.53 พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการกระทำของนายยงยุทธ ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นเหตุให้การเลือกตั้ง เขต 3 จ.เชียงราย ในส่วนของน.ส.ละออง ผู้คัดค้านที่ 2 ไม่เที่ยงธรรม เห็นควรให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญา นายยงยุทธ ผู้คัดค้านที่ 1 ตาม ม.53 และ 57 พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และจัดให้มีการเลือกตั้งเขต 3 จ.เชียงรายใหม่ แทน น.ส.ละออง ผู้คัดค้านที่ 2

ภายหลังศาลสอบข้อเท็จจริงคู่ความทั้งสองฝ่ายเสร็จสิ้น จึงนัดไต่สวนพยานฝ่าย กกต.ผู้ร้อง ในวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.และนัดไต่สวนพยานผู้คัดค้านในวันที่ 12 พฤษภาคม เวลา 09.00 น.

ด้าน นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้นำพยานหลักฐาน ประกอบด้วย บัญชีรายชื่อพยานบุคคล 50 ปาก ที่มีทั้งกำนัน และเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงพยานเอกสารมายื่นให้ต่อศาล ส่วนประเด็นที่จะใช้ต่อสู้ในชั้นศาลนั้นจะชี้ให้เห็นถึงความไม่น่าเชื่อถือของพยานฝ่ายผู้ร้อง เนื่องจากมีข้อบกพร่อง ที่เป็นความเชื่อมโยงของพยานหลักฐานในส่วนของเจ้าหน้าที่รัฐกับผู้ร้อง มันเกินความเป็นจริง ขณะที่นายยงยุทธเองได้ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตนเอง และ น.ส.ละออง พร้อมมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม