WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, May 1, 2008

กกต.ยื้อหลักฐานโกงบัตร แก้เกมสอบอำนาจดีเอสไอ

กกต. ดึงเรื่องคดีโกงเลือกตั้ง ไม่ส่งเอกสารจัดซื้อจัดจ้างให้ดีเอสไอตามร้องขอ อ้างสำนักกฎหมายชี้ไม่มีอำนาจสอบ ยันซ้ำในแต่ละสัญญามีมูลค่าไม่เกิน 100 ล้าน จวก“พ.ต.อ.สุชาติ” ให้ข่าวสื่อมั่ว ทำภาพลักษณ์เสียหาย เตรียมเชิญมาทำความเข้าใจกันใหม่ ระบุตอนนี้ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ด้าน “ธาริต” มั่นใจ ก.ม.ให้อำนาจเต็มที่

ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างในการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง เพื่อไปประกอบการพิจารณาในคดีฮั้วประมูลบัตรเลือกตั้ง แต่จนถึงขณะนี้ ทาง กกต. ก็ยังไม่ได้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับคดีมาให้ทางดีเอสไอ แต่อย่างใด ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการประวิงเวลาการสอบสวน ส่งผลให้คดีดังกล่าวไม่คืบหน้า และยังไม่มีความชัดเจน

ขณะเดียวกัน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องดังกล่าว ว่า กกต.มีมติให้สำนักงานดำเนินการ 2 แนวทาง คือ ในกรณีที่ดีเอสไอขอให้ส่งเอกสารสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดการและเอกสารทุกประเภทให้ดีเอสไอนั้น กกต. มีมติให้สำนักกฎหมายและคดีตรวจสอบอำนาจหน้าที่ของ กกต. และดีเอสไอว่า มีอำนาจตรวจสอบคดีฮั้วจัดซื้อบัตรเลือกตั้งหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่า แต่ละสัญญาของ กกต. มีมูลค่าไม่ถึง 100 ล้านบาท ดังนั้น เรื่องนี้จึงอยู่นอกเหนือการตรวจสอบของดีเอสไอ

อีกทั้ง จากที่ พล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย อดีตผู้บังคับการตำรวจป่าไม้ อ้างว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยละเว้นไม่ดำเนินการตรวจสอบการร้องคัดค้านทั้งที่ยื่นเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะหลังจากนั้น ฝ่ายสืบสวนสอบสวนฯ ของ กกต. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดำเนินการแล้วถึง 4 ชุด

เลขาธิการ กกต. กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ กกต. จะเชิญ พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ผู้บัญชาการสำนักกิจการต่างประเทศ และคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ ของดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้ากรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว มาหารือเพื่อทำความเข้าใจ เพราะที่ผ่านมา พ.ต.อ.สุชาติ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนมีข้อมูลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง จนทำให้ภาพลักษณ์ กกต. เสียหาย ประกอบกับ กกต. มีมติห้ามตอบโต้ ดังนั้น การเชิญมาครั้งนี้จึงจะทำให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น

“เราคงไม่ขอให้ดีเอสไอยุติการสืบสวนสอบสวน แต่จะทำความเข้าใจเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการให้ข้อมูลแก่ประชาชน หากประชาชนเข้าใจผิดก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ กกต. ที่ยากต่อการแก้ไข ขณะนี้ กกต.ถือว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นจำเลย และไม่เคยกลัวการตรวจสอบจากดีเอสไอ แต่อยากให้การสื่อสารข้อมูลถึงประชาชนเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง” เลขาธิการ กกต. กล่าว

ส่วนที่ดีเอสไอได้ตั้ง นายโคทม อารียา และ นายยุวรัตน์ กมลเวช อดีต กกต. มาร่วมเป็นที่ปรึกษาอนุกรรมการของดีเอสไอ ถือเป็นเรื่องดี เพราะทั้ง 2 คนเป็นอดีต กกต.ที่เป็นผู้วางระบบภายในสำนักงาน กกต. ซึ่งการจัดการภายในสำนักงานหลายๆ อย่างของกกต.ชุดนี้ก็เดินตามแนวทางของ กกต.ชุดแรก

ในขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะผู้รับผิดชอบการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ให้สัมภาษณ์โต้ในเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้ก็คงต้องให้ทาง กกต. ดำเนินการไป คงไม่สามารถไปห้ามได้ แต่ทางดีเอสไอมั่นใจว่า มีอำนาจสามารถดำเนินการเรื่องได้อยู่แล้ว เนื่องจากอยู่ในขอบเขตของกฎหมายที่มีกรอบระบุไว้ชัดเจน

ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เคยให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ดีเอสไอมีอำนาจในการตรวจสอบ กกต. อาศัย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 รวมทั้งอาศัยอำนาจของประกาศ และระเบียบของดีเอสไอ ที่สามารถตรวจสอบองค์กรอิสระได้

รองอธิบดีดีเอสไอ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนในคดีนี้ว่า หลังจากได้เชิญนายโคทมและนายยุวรัตน์ มาเป็นที่ปรึกษาในคดีนี้นั้น ทำให้ดีเอสไอเข้าใจระเบียบข้อบังคับแนวทางปฏิบัติในหลายประเด็นที่ กกต.กำหนดไว้ ทั้งนี้เพื่อนำมาพิจารณาตรวจสอบว่าตรงกับข้อเท็จจริงในสิ่งที่ กกต. ชุดปัจจุบันทำนั้นถูกต้องหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพิมพ์บัตรเลือกตั้งเกินจำนวน หรือการเปิดให้บริษัทเข้ามาประมูลงานพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ซึ่งทางดีเอสไอกำลังดำเนินการ ในส่วนของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พร้อมที่จะตรวจพิสูจน์ในเรื่องของบัตรเลือกตั้งที่รั่วไหลออกมาว่าเป็นของจริงหรือของปลอม

อย่างไรก็ดี ขณะนี้กำลังรอให้ กกต. ส่งเอกสารหลักฐานที่ร้องขอไปมาให้ดีเอสไอตรวจสอบ หาก กกต.ไม่รีบส่งมาก็จะเรียกติดตามต่อไป