กกต. 2 พ.ค. - “สุเมธ อุปนิสากร” ถามดีเอสไอมีอำนาจอะไรเรียก กกต.แจงกรณีมีการร้องเรียนฮั้วประมูลบัตรเลือกตั้ง ด้านเลขาฯ กกต.แจงการจัดซื้อจัดจ้างการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ยืนยันเป็นไปตามระเบียบปฏิบัติการจัดซื้อจัดจ้าง นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ กกต.ส่งเอกสารเพื่อประกอบการสอบสวนกรณีที่ถูกร้องเรียนว่าฮั้วบัตรเลือกตั้งภายใน 30 วัน และจะออกหมายเรียกให้ กกต.ไปชี้แจง ว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และเห็นว่าดีเอสไอไม่มีอำนาจในการเรียกเอกสารจาก กกต. และไม่มีอำนาจในการตรวจสอบ กกต. หากดีเอสไอออกหมายเรียกให้ไปชี้แจง ต้องถามว่าดีเอสไอมีอำนาจหรือไม่ เรื่องนี้ควรมีคนกลางมาตัดสินอำนาจระหว่างองค์กร เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าดีเอสไอมีอำนาจตรวจสอบ กกต.หรือไม่ “ผมนึกไม่ออกว่า กกต.จะฮั้วบัตรเลือกตั้งได้อย่างไร เพราะตั้งแต่เข้ามาทำงานที่ กกต. และมีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้ง เรามีการเปิดประมูล ซึ่งเมื่อได้ 2 บริษัทที่จะมาพิมพ์บัตรเลือกตั้งแล้ว เราก็ได้แยกสัญญาออกเป็น 2 สัญญา ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกหนึ่งชุดเพื่อติดตามการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งเป็นการเฉพาะ ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการฮั้วบัตรเลือกตั้ง” นายสุเมธ กล่าว ด้านนายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่ดีเอสไอระบุพบหลักฐานในการจัดซื้อจัดจ้างการพิมพ์บัตรเลือกตั้งของ กกต.ที่ใช้งบเกินกว่า 130 ล้านบาท ว่า ดีเอสไอเข้าใจผิด เพราะความจริงแล้วในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งของ กกต.จะต้องปฏิบัติตามระเบียบปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างของสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งในการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งจะแบ่งสัญญาเป็น 2 ส่วน คือ สัญญาการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบแบ่งเขต และสัญญาการจัดพิมพ์บัตรเลือกตั้งแบบสัดส่วน โดยทั้งสองส่วนจะนำวงเงินมารวมกันไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีคณะกรรมการบริหารพัสดุคอยควบคุมไม่ให้ราคาเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนด ซึ่งหลังจากนี้คณะกรรมการ 4 ชุดที่ กกต.ตั้งขึ้นมาสอบสวนคู่ขนานกับดีเอสไอจะเดินหน้าสอบสวนให้ข้อเท็จจริงปรากฏ และจะเชิญดีเอสไอเพื่อมาหารือในข้อเท็จจริงด้วย นายสุทธิพล กล่าวถึงการตรวจสอบอำนาจของดีเอสไอในการออกหมายเตือนให้ กกต.ปฏิบัติตามคำสั่งพนักงานสอบสวน เนื่องจาก กกต.ไม่ให้ความร่วมมือในการจัดส่งเอกสารว่า การที่ กกต.ตรวจสอบอำนาจดีเอสไอ ถือว่าเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ เพราะเมื่อคนที่ไม่ใช่เจ้าของบ้านจะมาขอข้อมูล เราก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าคนที่มาขอข้อมูลนั้นมีอำนาจหรือไม่ “ถ้าดีเอสไอบริสุทธิ์ใจ ก็ควรถอยออกมาก้าวหนึ่ง และควรดูว่าตัวเองมีกรอบอำนาจแค่ไหน ไม่ใช่เอาแต่บอกว่าตนเองมีอำนาจ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่จำเป็นต้องทักท้วงดีเอสไอก็ได้ ปล่อยให้ดีเอสไอทำผิดไป แล้วค่อยมาเล่นงานภายหลัง แต่ กกต.ไม่อยากทำ และยืนยันว่า กกต.ไม่ได้ดึงเรื่องให้ยืดเยื้อ เพราะ กกต.ได้แต่ตั้งรับ ไม่ได้จู่โจม” นายสุทธิพล กล่าว.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-05-02 15:08:04