“อภิชาต - สุเมธ” กกต.เสียงข้างมาก แจงเหตุยกคำร้องคดี “พปช.-สมัคร” พ้นข้อกล่าวหา นอมินี ทรท. ไม่มีกม.เอาผิด ระบุหลักฐานชัดพลังประชาชนจดทะเบียนตั้งพรรค 41 ซัด “วีระ” มั่วข้อกล่าวหา ย้อนกลับ ใครว่าผิด เอากม.มายัน หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติ 3 : 1 : 1 เห็นว่าพลังประชาชนเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทย แต่ไม่มีกฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิด โดย 3 เสียงข้างมากประกอบด้วย นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. นายสุเมธ อุปนิสากร กกต. ด้านการมีส่วนร่วม นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง
ส่วน กกต. 1 เสียงที่เห็นควรให้นายทะเบียนพรรคการเมืองเป็นผู้ดำเนินการต่อไปคือ นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง และ กกต.อีก 1 เสียงที่เห็นควรให้ยกคำร้องทั้ง 2 สำนวน เนื่องจากเห็นว่าไม่มีพฤติการณ์เป็นนอมินี และไม่มีกฎหมายมหาชนบัญญัติให้กรณีดังกล่าวเป็นความผิดคือ นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย
นายสุเมธ หนึ่งใน กกต. เสียงข้างมาก เผยความเห็นว่า ตามมาตรา 95 เรื่องยุบพรรคน่าเป็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง ไม่ใช่ กกต. เรียนว่าทั้งคำร้อง 2 เรื่องจุดประสงค์คือขอให้ยุบพรรคพลังประชาชน และให้ดำเนินคดีกับ นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่กระทำความผิด ทั้งนี้ กรณียุบพรรค ตามมาตรา 94 เราดูแล้วก็ไม่น่าจะเข้าข่าย ก็เห็นด้วยที่คณะอนุกรรมการสอบสวนบอกว่าควรจะยกคำร้องไป
“คดี นอมินี ท้ายคำร้องขอให้ยุบพรรค แต่มีคำร้องหนึ่งขอให้ดำเนินคดีกับนายสมัครด้วย โดยประเด็นยุบพรรคเมื่อดูมาตรา 94 ไม่เข้าเงื่อนไข อีกทั้งพรรคพลังประชาชนจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2541 ก่อนพรรคไทยรักไทยจะจดเสียอีก เราดูกันแล้ว ซึ่งเขาก็มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการเท่านั้นเอง จะมาบอกว่าเป็นนอมินีก็ยาก ผมก็พยายามบอกว่า ใครบอกว่าผิด เป็นนอมินีข้อไหน ช่วยบอกหน่อยสิ ส่วนประเด็นที่กล่าวหานายสมัครเป็น นอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ (ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) ก็ยิ่งไม่มีกฎหมายห้าม เพราะนายสมัครไม่ได้อยู่ใน 111 คนที่ต้องห้าม” นายสุเมธกล่าว
ส่วนกรณีที่นายวีระ สมความคิด 1 ในผู้ร้องบอกว่าจะพุ่งเป้าเอาผิดไปที่คณะอนุกรรมการชุดนายไพฑูรย์ เนติโพธิ ที่มีธงให้หลุดจากคดี นายสุเมธ กล่าวว่า “คงไม่ถูกมั้งครับ เพราะคณะของนายไพฑูรย์เห็นว่าเป็นนอมินีของไทยรักไทย แต่พรรคพลังประชาชนจดทะเบียนปี 2541 จึงบอกว่า ไม่มีกฎหมายเข้า หากใครคิดว่าเข้ากฎหมายใด ก็ช่วยบอกมาหน่อย”
ส่วนคดีการปลอมลายเซ็นนายสิทธิชัย โควสุรัตน์ นั้น นายสุเมธ กล่าวว่า เราดูแล้วว่าไม่ปลอม ต้องรอการพิสูจน์จากกองปราบปรามว่าลงความเห็นว่าอย่างไร เรื่องการพิสูจน์ลายมือชื่อ มันต่างจากที่ศาลฎีกาตัดสิน ซึ่งเราก็ต้องดูกันอีกที ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คงยุ่งพอสมควร เบื้องต้นอนุกรรมการสอบสวนพิจารณาแล้ว เห็นว่าไม่ใช่เป็นการปลอมลายเซ็น ส่วนนายสิทธิชัยจะเจอความผิดอะไรหรือไม่ ก็ต้องว่ากันอีกทีว่าจะเข้าข่ายฟ้องเท็จแจ้งเท็จหรือไม่
เช่นเดียวกับ นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ให้สัมภาษณ์ในเรื่องเดียวกันว่า จากที่ได้พิจารณาอย่างละเอียดแล้วเห็นว่า ผลการตรวจสอบของอนุกรรมการฯ ที่มีนายไพฑูรย์ เนติโพธิ์ เป็นประธานนั้น ไม่มีกฎหมายเอาผิด เพราะกฎหมายห้ามเฉพาะอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คนที่ถูกตัดสิทธิด้วยการถูกศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ไม่ให้เป็นกรรมการบริหารพรรคหรือจัดตั้งพรรคใหม่เท่านั้น แต่กรณีนี้พรรคพลังประชาชนถูกต้องมาก่อนแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการตั้งเพื่อมารองรับพรรคไทยรักไทยเป็นการเฉพาะ
อีกทั้งนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนนั้น ก็ไม่ได้เป็นสมาชิพรรคไทยรักไทยเดิม เพราะเป็นเพียงผู้ที่เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคใหม่เท่านั้น เหตุเหล่านี้จึงไม่ถือว่าจะเป็นการกระทำผิดกฎหมาย
“การที่อดีตกรรมการบริหารพรรคการเมืองที่ถูกตัดสินจะเป็นนอมินีหรือไปสนับสนุนอยู่เบื้องหลังหรือสั่งการอะไร เมื่อไม่มีกฎหมายโดยตรงเอาผิด เราก็ทำอะไรไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องนี้ไม่มีความเชื่อมโยงไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องเหล่านั้น ดังนั้น การจะเอาผิดก็ต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้มีความชัดเจนมากขึ้น แต่ตอนนี้ กกต. ก็พิจารณาไปเท่าที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ ไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือกฎหมาย” ประธาน กกต. กล่าว
และว่า ส่วนจะมีการเสนอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้เอาผิดหรือไม่นั้น ขณะนี้ กกต.ยังไม่มีแนวคิดจะแก้ไขกฎหมาย และไม่มีหน้าที่ออกกฎหมาย