WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, May 1, 2008

ทุกข์ของนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่

รายการ “สนทนาประสาสมัคร” โดย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 และสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2551 เวลา 08.30–09.30 น.

ความตอนหนึ่งว่า เนื่องจากวันที่ 2 เมษายน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงงานอย่างหนัก และทรงสนพระทัยแสวงหาความรู้อยู่ตลอดเวลา รวมถึงได้ทรงดำเนินกิจการร้านภูฟ้า 11 สาขาทั่วประเทศ รับซื้อวัสดุและสินค้าจากชาวบ้านมาดัดแปลง เพื่อจำหน่ายและนำรายได้มาช่วยเรื่องการศึกษาของประชาชนในชนบท ซึ่งได้เคยทูลถามพระองค์ว่า ทรงเหนื่อยบ้างหรือไม่ ก็ทรงมีรับสั่งตอบว่า ชอบทรงงาน ไม่เหนื่อย เพราะทำเพื่อบ้านเมืองและประชาชน ทำให้รู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง

ทั้งนี้ จะได้เจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจังหวัดต่างๆ ในการสนับสนุนร้านภูฟ้า เพื่อบรรเทาพระราชภาระของพระองค์

เปิดนโยบายปราบปรามยาเสพติด 2 เม.ย. นี้
วันที่ 2 เมษายน จะเริ่มงานเกี่ยวกับการปราบปรามยาเสพติด เมื่อสักครู่ก่อนเข้ามา มีสุภาพสตรีมาร้องทุกข์เรื่องยาเสพติด และกระทบกับตำรวจเรื่องนั้นเรื่องนี้ ผมไม่บอกสถานที่ครับ เพราะผมรับปากเธอไว้ว่าจะช่วยดูแลให้ แต่ว่าที่ไม่ค่อยชอบใจคือว่า ต้องฉุดต้องยื้อกัน พอขอบใจก็วิ่งเข้ามาจะมากราบ ผมบอกไม่ได้ อย่า ต้องอบรมกันตรงนั้นว่าอย่า ห้ามทำอย่างนี้ ผมจะไปดูแลให้

ชี้แจงสื่อวิพากษ์วิจารณ์ไปเดินตลาดที่สิงคโปร์
เป็นภารกิจหน้าที่ของผู้นำประเทศ ที่ต้องแนะนำตัวให้เป็นที่รู้จัก โดยเฉพาะประเทศสมาชิกในกลุ่มอาเซียน อย่างกรณีที่มีสื่อบางฉบับวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตน ในช่วงที่เดินทางเยือนประเทศสิงคโปร์ ว่าตนใช้เวลาระหว่างปฏิบัติภารกิจไปเดินชมตลาดสดของสิงคโปร์ สร้างความวุ่นวายและเดือดร้อนนั้น ขอชี้แจงว่า เป็นช่วงเวลาว่างจากภารกิจในช่วงเช้า และต้องการศึกษาสภาพเศรษฐกิจพื้นฐาน ค่าครองชีพของประเทศสิงคโปร์เพื่อเปรียบเทียบกับไทย ซึ่งพบว่ามีความแตกต่างกันมาก โดยราคาสินค้าของสิงคโปร์แพงกว่าไทย 3-4 เท่า แต่ค่าตอบแทนหรือเงินเดือนของชาวสิงคโปร์จะมากกว่าไทย 10 เท่า ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ไทยต้องนำมาพิจารณาแก้ปัญหาต่อไป

นอกจากนี้ ได้มีการเจรจาข้อตกลงในเรื่องพลังงานและอาหาร โดยอินโดนีเซีย ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นแหล่งผลิตน้ำมัน ก็จะให้ความมั่นคงทางพลังงานแก่ไทย (Energy Security) ขณะที่ไทยจะให้ความมั่นคงทางอาหารแก่อินโดนีเซีย (Food Security) แลกเปลี่ยนกัน และจะมีการหารือแก้ปัญหาเรื่องราคาปุ๋ย โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเจรจาและดูแลต่อไป

“มาถึงวันนี้ ครม. ขี้เหร่ของรัฐบาลสมัคร 1 ชื่อ สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม คุยโวว่าทำงานได้ กำลังแสดงธาตุแท้ออกมาให้เห็นหลายคน และยังไม่รวมถึงคนแถวหน้าห้องนายกฯ สมัคร บางคนที่เริ่มแสดงสันดานชั่วออกมาให้เห็น ด้วยการติดต่อเรียกร้องผลประโยชน์จากโครงการต่างๆ แบบไม่ละอายต่อฟ้าดิน ตรวจสอบดูเถอะ เมื่อเป็นเช่นนี้ให้ถูกมองว่ารัฐบาลนี้อาจจะอยู่ไม่ครบเทอม และรัฐมนตรีรวมถึงเลขากับผู้ติดตาม อาจจะต้องกระเด็นจากตำแหน่ง จึงต้องรีบสวาปามผลประโยชน์ต่างๆ กันไว้เนิ่นๆ พี่น้องชาวไทยเตรียมใจสวดมนต์สาปแช่งไว้ได้ล่วงหน้าเลย ถ้าเป็นเช่นนั้น กลายเป็นรัฐมนตรีที่ถูกมองว่าลุแก่อำนาจสำหรับ จักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็พูดจาก้าวร้าวเกินตัว แถมยังแสดงธาตุแท้ที่จะเล่นงานพวกที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างไม่แยแสใคร ผู้เจนเวทีการเมืองมองท่าทีน่าสงสารและเวทนา” รัฐมนตรีฯ จักรภพ เดี๋ยวเขาจะได้ชี้แจงแก้ตัวของเขา แต่นายกรัฐมนตรีสมัคร ได้อย่างไรครับ

เล่าถึงทุกข์ของนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่
“ทุกข์ของนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่” อย่าลืมครับ หัวข้อสารคดีของผมวันนี้คือ ทุกข์ของนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ หน้าเก่าเป็นอย่างไร หน้าเก่าก็อยู่นานๆ ครับ อยู่มา 10 ปี 15 ปี อย่างนั้นหน้าเก่าอยู่ติดต่อกัน 5–6 ปีก็หน้าเก่า อยู่กันไปนานๆ สัก 2 ปีก็ยังถือว่าหน้าเก่า แต่ผมอยู่ยังไม่ชน 2 เดือนก็มีความทุกข์ เมื่อเช้า อ.สุขุม นวลสกุล ช่อง 3 บอกว่า ขอดูหน่อยจะมีทุกข์อะไร เป็นความทุกข์ที่ผมต้องเอามาปรับทุกข์ ไม่มีปัญหาอื่นหรอกครับ เป็นทุกข์ที่อยู่ในใจผม และผมจะชวนท่านผู้ฟังได้ลองฟังความทุกข์ของนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ ซึ่งคนเป็นนายกรัฐมนตรีเขาก็ว่ากลายเป็นบุคคลสาธารณะ ใครจะดุด่าว่ากล่าวตบตีอะไรได้ทั้งนั้น ผมก็บอก คงไม่ได้ทุกอย่างหรอก

ขาดสิทธิเสรีภาพส่วนตัวเป็นทุกข์อย่างหนึ่ง
นายกรัฐมนตรี คือ รปภ. กันจนเกิดเหตุเลย เหมือนกับเป็นเกียรติยศชนิดหนึ่งต้องเอามาแบกใส่บ่านายกฯ ไว้ คนเป็นนายกฯ ไม่มีอิสรเสรีภาพ ผมเป็นนายกฯ ที่ผมต้องการอิสรภาพของผม ความปลอดภัย ใครๆ ก็กลัวตายกันทุกคน ไม่ใช่ผมไม่กลัวตาย แต่ว่าเอาการป้องกันมาใส่แอบไว้กับผมๆ ไม่ชอบอย่างนี้ นี่เป็นทุกข์ข้อหนึ่ง

แต่ว่าทุกข์ยิ่งกว่านั้น เขากำหนดไว้ว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีจะพูดจาอะไรอย่างที่ต้องการพูดไม่ได้ ผมเป็นคนช่างพูดช่างคิด บางทีแม้แต่คิดเขาก็ไม่ให้คิดอย่างนี้ ยิ่งพูดก็พูดไม่ได้ ที่ผมมาปรับทุกข์ ผมไม่ได้ว่าอะไรหรอกครับ ผมบอกอย่างนี้ ผมเป็นนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ บางครั้งก็ต้องพลาดพลั้งไปบ้าง ก็ต้องให้อภัยผมบ้าง ผมจะไปรู้ได้อย่างไรไปบ้านเมืองนี้ อยากจะรู้ความเป็นไปของเขา ไปคุยไปฟังความเสร็จแล้วต้องเก็บไว้ พูดไม่ได้ เล่าไม่ได้ สัมภาษณ์ไม่ได้ เพราะในโลกนี้มีคุณพ่ออยู่หลายคน

เป็นนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ต้องปรับตัว
นี่คือทุกข์ใจของคนเป็นนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ ผมเกิดมาผมไม่เคยรู้อย่างนี้เลยครับ เป็นนายกรัฐมนตรี คำว่า “เหตุผล” บางครั้งต้องเอาออกจากพจนานุกรม ต้องทำอะไรที่ไม่มีเหตุผล บางครั้งคำว่าจริงใจใช้ไม่ได้ครับ เห็นใจก็ไม่ได้อีก แล้วคนเราคบค้าสมาคมกันอย่างนี้ได้อย่างไร ผมต้องบ่นเรื่องนี้ แต่ผมไม่ให้กระทบกระเทือนคนที่เขาต้องรับผิดชอบอยู่ ผมพูดกันลอยๆ ให้ฟังอย่างนี้เท่านั้น ถ้าคนนี้ๆ เขาว่าอย่างนี้ ถ้าเราจะอยู่กับคนนี้เราต้องไม่ยุ่งกับคนนี้ แล้วต้องทำอย่างนี้ ผมบอกชอบกลนะ คนนั้นจะสั่งอย่างไรต้องซ้ายหันขวาหันกับเขาหมด ถ้าท่านเป็นผมท่านจะรู้สึกอย่างไร ผมหน้าใหม่นะครับ คือต้องเปลี่ยนแปลงตัวไป นี่สัญชาตญาณของคนนะครับ ต้องวิพากษ์วิจารณ์ เท่านั้นละครับเป็นเรื่องใหญ่ กูเกิ้ลเอาที่ผมพูดไปออกทั่วโลกเลย เป็นนายกรัฐมนตรีพูดอะไรไม่ได้มันจดหมด ต้องคิดตามอย่างนั้นด้วย ลูกพี่บอกไม่ ต้องไม่ ลูกพี่บอกอย่าต้องอย่า นี่ละครับทุกข์ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีเมืองไทยหน้าใหม่

ผมต้องร้องถามเลยว่า แล้วมันอะไรกันครับโลกนี้ อยู่กันได้อย่างไรครับ คำว่าเลือกปฏิบัติ ถ้าอย่างนี้ๆ ไม่เป็นไร มีผลประโยชน์ ไม่ว่า แต่นี่ไม่ได้ อย่างนี้ๆ โอเค อย่างนี้ๆ ไม่ได้ ผมไม่ได้ออกชื่อนะ ไม่ได้ออกประเทศด้วย ไม่ได้ออกกระทรวงไหนด้วย แต่ผมมีสิทธิ์จะต้องบ่น นี่ละครับทุกข์ของนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่ ผมจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวผม ผมจะต้องไปทำอะไรอย่างไร คนนี้ผมไม่ออกชื่อเขานะ ต้องไปเอาคำว่าเหตุผลออกจากพจนานุกรม เอาคำว่าเข้าใจออกจากพจนานุกรม เห็นใจออกจากพจนานุกรม เล่าปัญหาให้ฟัง คำว่าเล่าปัญหาของอีกข้างหนึ่งก็จะต้องเป็นคำที่วงเล็บว่า คำนี้ห้ามปฏิบัติ ถ้าหากจะให้ประเทศอยู่ในลักษณะดี เป็นพวกเป็นพ้องกับทางนี้เขา ไหวไหมครับ ไม่ไหวนะครับ

ต้องยอมอยู่ในกรอบของการคิด พูด แสดงความเห็น
ทุกข์ของคนเป็นนายกรัฐมนตรีหน้าใหม่มีเรื่องประเภทพรรค์อย่างนี้ละครับ ทุกข์ใจเรื่องประเภทคนดุด่าว่ากล่าวโดยไม่มีเหตุผลนั่นก็ส่วนหนึ่ง ยังพอแก้ไขได้ ตอบโต้กันตรงนี้ได้ แต่รายการหลังนี้เขาห้ามตอบโต้ครับ แสดงความเห็นไม่ได้ คิดอะไรไม่ได้ บอกว่าอะไรกันนักกันหนา เขามีกรอบของเขาไว้เลย ผมก็อยู่ในกรอบครับ จะเป็นนายกรัฐมนตรีต้องยอมอยู่ในกรอบ ต้องเป็นคนอย่างนี้ คิดก็ไม่ได้ พูดก็ไม่ได้ แสดงความเห็นก็ไม่ได้ อธิบายเปรียบเทียบยังไม่ได้เลยครับ กูเกิ้ลเอาไปลง กลายเป็นว่าถ้านายกฯ ไทยพูด แปลว่านโยบายเป็นอย่างนี้ มันบ้าอะไรกันแบบนี้ นโยบายก็ไปตรวจสิ แต่ความเห็นส่วนตัวไม่ได้ เขาห้าม ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่เป็นความทุกข์ที่ผมต้องมาบ่น เพราะผมจะต้องทุกข์อยู่ต่อไป เพราะผมเป็นคนประเภทที่อาจจะเป็นนายกฯ ไปไม่ตลอดรอดฝั่ง ก็เพราะความรู้สึกนึกคิดอันนี้ ผมว่าโลกนี้ไม่เป็นธรรม ประเทศใหญ่โตมโหฬารบอกว่าสิทธิเสรีภาพอยู่เหนือสิ่งอื่นใด แต่ในขณะเดียวกัน ไปกดคนอื่นเขา คิดอย่างอื่นไม่ได้ คิดนอกกรอบไม่ได้ ผมเองมาหลงเข้ากรอบเขาเอง แต่ผมมีสิทธิจะปรับทุกข์ได้ ผมไม่ออกชื่อใคร ไม่ได้ออกประเทศไหน ไม่ได้ออกกระทรวงไหนด้วย

ผมบอกให้ฟังเท่านั้นเอง ว่าผมมีความทุกข์ในใจเรื่องนี้ เพราะว่าถ้าเป็นอย่างนี้โลกนี้จะต้องอยู่กันอย่างนี้ไปอีกเท่าไร อย่างนั้นยอมได้ๆ อย่างนี้ทำได้ ผมบอก อย่างนั้นทำไมทำเขาอย่างนั้นได้ เท่านั้นละครับ กูเกิ้ลเอาไปเลย มันไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลนี้ เอาละครับ ผมก็จะต้องยอมรับเข้ามากรอบของเขาแล้ว ออกความเห็นไม่ได้ เปรียบเทียบไม่ได้ คำว่าเปรียบเทียบก็ต้องเอาออกจากพจนานุกรมเหมือนกัน เปรียบเทียบไม่ได้ เดี๋ยวลูกพี่เขาจะว่าอย่างนั้นเอา สังคมก็จะเป็นอย่างนี้ ผมบอกว่าผมมาเข้ากรอบเขาแล้ว แต่ต้องพูด พูดให้คนทั้งประเทศรู้ว่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีก็มีความทุกข์เหมือนกันครับ แล้วจะพูดให้สื่อสารมวลชน ไม่ได้เขย้อแขย่ง ไม่ได้อยากได้ใคร่ดี ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือ วันนี้เป็นพรุ่งนี้ไม่เป็น ผมก็เฉยๆ ผมเป็นมาหมดแล้ว แล้วไม่ต้องการจะแสวงหา ไม่ต้องการสะสมอะไรด้วย แต่ว่าผมทำงานให้บ้านเมืองผม

ผมไปมา 6 ประเทศ ดีมากที่เขาจัดให้ เพราะได้รู้ความสัมพันธ์ว่าเพื่อนบ้านของเรากำลังจะครบ 9 เป็น 10 เรารู้กัน นี่คือความแข็งแรง 500 กว่าล้าน พูดเป็นเสียงเดียวกันอย่างนี้ ภาษายังแตกต่าง แต่ความคิดเขาบอกเราอยู่ในครอบครัวเดียวกัน เห็นไหมครับ ครอบครัวคืออาเซียน คือทำงานร่วมกัน เขาหวังพึ่งเรา เราหวังพึ่งเขา และเราเก่ง เขาก็บอกรับความเก่งแต่ไปช่วยเขาหน่อย ได้เลยครับ นี่คืองานที่ไปทำ เหน็ดเหนื่อย ไม่ได้หยุดไม่ได้หย่อน เข้าห้องน้ำเสร็จออกห้องน้ำ เขายกป้ายเวลาจะหมดครับ ตอบคำถามให้มีเรื่องหน่อย

อยากให้นายกฯ สนับสนุนเรื่องการศึกษาทุกระดับ โดยให้ทุนและให้กู้ยืม…เขาแก้ไขแล้วครับ เขาดำเนินการแก้ไขแล้ว ทีแรกเขาให้กู้เฉยๆ ทีหลังเขาบอกว่ามีอาชีพที่ทำแล้วได้เงิน เขาเลยทำสัญญาว่าตอนได้เงินเดือนต้องเอามาใช้ เขากำลังจะปรับปรุง 2 อันนี้ให้กู้ยืมแน่นอน ไม่มีปัญหาหรอกครับ ทำให้ เทศกาลสงกรานต์จะมีมาตรการแก้ไขเรื่องคนตายน้อยที่สุดอย่างไร…ผมไม่อยากจะพูดคำว่าปล่อยไปตามธรรมชาติ แต่ว่าถ้าคนเราไม่รักชีวิตตัวเอง คนอื่นเขาจะช่วยป้องกันอย่างไร ก็ดูแลกันภายใน จะเน้นก็คือว่า ท่านผู้ว่าฯ น่าจะช่วยงานหน่อย ในท้องถิ่น และเหตุเกิดร้อยละ 70–80 เป็นมอเตอร์ไซค์ ขอบอกว่าสงกรานต์ 7 วันเลิกขี่มอเตอร์ไซค์ได้ไหม ทุกจังหวัด มอเตอร์ไซค์เก็บหมดเลย 7 วัน ไปไหนมาไหนเดิน เขาบอกว่าถ้าไม่กินเหล้าเมายาก็ไม่มีอุบัติเหตุ ก็ช่วยกันดูแลสิครับ ป้องกันตรงนั้นหน่อย

ประเทศไทยอาชีพหลักเกี่ยวกับการเกษตร อยากให้รัฐบาลสนับสนุนเกษตรให้มาก...ไม่มีปัญหาครับ เราเป็นเกษตรแต่ว่าถึงสมัยนี้ต้องเป็นเกษตรอุตสาหกรรม และจริงๆ แล้วก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ ความจริงนี่ผมพูดไว้เรื่องรายได้ต่ำและรายจ่ายสูงเป็นอย่างไร ผมมีคำตอบมาแล้ว เป็นวิชาการเลย แต่ผมได้แปลเป็นภาษาผมธรรมดา

เขาแจ้งว่าเวลาหมดครับ ผมก็พอหมดเวลาออกจากนี่ไปผมต้องไปขึ้นเครื่องบิน ไปทำหน้าที่ ไปประชุมลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศประชุมกัน [ร่วมประชุมสุดยอด 6 ประเทศอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 3 (3rd GMS Summit)]

วันนี้นายกรัฐมนตรี 6 ประเทศใน 10 ประเทศจะประชุมกัน และที่จริงมี 5 ไปบวกจีนเข้า 1 เขาจะมาประชุมกันเรื่องลุ่มแม่น้ำโขง 2 วัน วันนี้พรุ่งนี้ค่ำๆ พรุ่งนี้ดึกๆ ผมกลับก็ไปทำงานครับ อยากจะบอกให้นักการเมืองฝ่ายตรงข้ามได้รู้บ้างว่า ผมไม่ได้ไปหมกมุ่นเรื่องไปต่อต้านใครไปปฏิวัติใครอย่างไร แล้วไม่ต้องมาหาเหตุกับผม อย่ามาขุดหลุมล่อเลย ผมไม่บอกหรอก จะชื่อใคร อะไร อย่างไร แต่ผมยืนยันไปแล้วว่า ทหารเขาไม่เกี่ยวข้อง ยังอุตส่าห์ไปเที่ยวถามเที่ยวซักอะไรเขา ก็มีคนคิด ผมรู้เขาคิดว่า แต่จะมาบอกจะเอามาตรารัฐธรรมนูญยากครับ อย่ามานั่นเลย ผมก็บอกให้รู้ไว้เท่านั้นเอง อย่าพยายามมาขุดบ่อล่อให้ผมไปตกหลุมเลย วันนี้ผมต้องขึ้น ไม่ได้ ไม่ใช่ว่าผมต้องไปตกหลุมนั่น ผมต้องรีบไปขึ้นเครื่องบิน เพราะจะไปประชุมตอนสายๆ วันอาทิตย์หน้า 08.30 น. เจอกันใหม่ครับ วันนี้ลาก่อนสวัสดีครับ