WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, October 21, 2008

หากินกับศพ กรณีน้องโบ วีรสตรี พธม.

บทความ โดย ลูกชาวนาไทย

ก็ยังเป็นที่คลุมเครือสงสัยกันค่อนข้างมากว่า น..อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบ ตามที่สื่อเรียกขานกัน เสียชีวิตในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 เวลาประมษร 18.30 -19.00 น. ในช่วงที่ กลุ่มพันธมิตร ทุ่มกำลังมวลชนเข้าบุก กองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจได้ใช้แก้สน้ำตายิงสลายฝูงชนที่พยายามบุกเข้าไป บชน.

ศพที่สองของวันที่ 7 คือ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี หัวหนัาการ์ดพันธมิตร นายตำรวจนอกราชการ น้องเขยนายการุณ ใสงาม อดีต สว. บุรีรัมย์ รายนี้เสียชีวิตจากการระเบิดในรถเชอโรกีที่หน้าที่ทำการพรรคชาติไทย ซึ่งรถคันนี้ขนระเบิดมา และคาดว่าผู้ตายเป็นคนนำมา




หลังจากเหตุการณ์วันนั้นแล้ว ฝ่ายพันธมิตร นักวิชาการแนวร่วมพันธมิตร สื่อทั้งหลาย รวมทั้งกลุ่มชนชั้นนำต่างๆ ที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาลต่างก็พยายามออกมาสร้างกระแสว่า "ตำรวจฆ่าประชาชน" รัฐบาลมือเปื้อนเลือด รัฐบาลฆ่าประชาชน และเรียกร้องให้รัฐบาลลาออก โดยกล่าวหาว่ารัฐบาลใช้ความรุนแรงในการสลายม็อบ และแก้สน้ำตา ทำให้มีคนบาดเจ็บขาขาดจำนวนมาก รวมทั้งมีผู้เสียชีวิต

คนกลุ่มนี้ หากจะเรียกให้ถูกคือ พวกอำมาตยาธิปไตยนั่นเอง พวกนี้หาประโยชน์จากคนตายทั้งสองคน เพื่อใช้เป็นชนวนสำหรับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนอย่างเต็มที

คนพวกนี้ จงใจที่ปิดตาข้างหนึ่งโดยไม่ยอมมองในมุมอื่น พยายามที่จะชักนำสังคมให้ได้ว่า ผู้ตายทั้งสองคนเป็น วีรชนของชาติ ป้องป้องราชบัลลังค์ ทั้ง ๆ ที่ ความตายของคนทั้งสองนั้น เป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และเข้าข่ายก่อการจลาจลอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกรณี พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี นั้นตายจากการระเบิดของรถยนต์ที่ขนระเบิดมา ไม่มีใครในกลุ่มนักวิชการ พรรคฝ่ายค้านถามสักคนเดียวว่า พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ขนระเบิดจำนวนมากมาทำไม เขามีจุดมุ่งหมายอย่างไรในการขนระเบิดมาในภาวะวิกฤตเช่นนั้น เขาจะนำเอาระเบิดไปทำอะไร ?



หากถามคำถามเหล่านี้ เราก็จะรู้ทันทีอย่างผู้มีปัญญาว่า คนๆ นี้ไม่ใช้วีรชนแต่อย่างใด แต่เข้าข่าย ตรงกันข้ามเลยทีเดียว

กรณี น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ผู้เสียชีวิตอีกคนหนึ่งนั้น ก็ไม่ได้เสียชีวิต จาการเข้าสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภาในตอนเช้าวันที่ 7 ตุลาคม ที่ ตำรวจจำเป็นต้องใช้แก้สน้ำตา เพื่อเปิดทางเดินให้ ผู้แทนของประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ในสภา แต่ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ นั้นเสียชีวิต ในตอนเย็นวันนั้นคือ เวลาระหว่าง 18.00 -19.00 น. ช่วงที่ม็อบพันธมิตร บุก บชน. ซึ่งมีผู้บันทึกเทปแกนนำได้ว่า ม็อบกลุ่มนี้ต้องการบุกข้าไป เผากองบัญชาการตำรวจนครบาล จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้แก้สน้ำตายิงสลายผู้ก่อการจลาจลกลุ่มนี้

จากเหตุการณ์ข้อเท็จจริง ทั้งสองคนที่เสียชีวิต ไม่ใช่วีรชนแต่อย่างใด แต่เป็นผู้ที่จงใจก่อความไม่สงบ และต้องการสร้างความวุ่นวายในบ้านเมือง เพื่อเปิดทางให้ทหารมาทำรัฐประหาร




ไม่จำเป็นต้องพูดว่า แก้สน้ำตา ทำให้คนตายได้หรือไม่ เพราะกรณีนี้มีภาพ และคลิปวิดีโอจำนวน มากที่อาจคิดได้ว่า มีการนำระเบิดปิงปองเข้าไปเพื่อใช้ก่อจลาจล คนบาดเจ็บล้มตาย มาจากอาวุธของ พธม.ทั้งสิ้น

ซึ่งวลายิ่งนาน ความจริงยิ่งปรากฎ มากขึ้นเรื่อย ๆ

สังคมไทยยุคนี้เป็น "สังคมสามานย์" สื่อสามานย์ นักวิชาการเลว เป็นสังคมที่ไม่ต้องการพูดความจริง หรือพูดเฉพาะส่วนที่ตัวเองได้ประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น กรรมการสิทธิมนุษยชน นักวิชการ สื่อ และฝ่ายค้านทั้งหลาย พวกนี้ พูดความจริงเฉพาะส่วนที่ใช้เป็นประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น สังคมโกหกหลอกลวงเช่นนี้ ยังจะมากล่าวอ้างว่าเป็นสังคมแห่ง คุณธรรมจริยธรรม ได้อย่างไม่อายปากเลย

พวกนี้วางแผนอย่างเหี้ยมโหดที่ใช้ชีวิตของประชาชน เพื่อแย่งชิงอำนาจรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หลังจากที่มีศพเกิดขึ้น คนเหล่านี้ก็ใช้กระบวนการทางสื่อ สร้างภาพ ป้ายสีว่ารัฐบาลฆ่าประชาชน ซึ่งหากเรามีสติสักนิด และพิจารณาอย่างเป็นเหตุเป็นผล เราก็จะเห็นช่องโหว่มากมาย ในคำกล่าวหาของ พันธมิตร และพวกอำมาตยาธิปไตยนี้

เมื่อพวกเขาจงใจที่จะบิดเบือนความจริง แต่โลกยุคดิจิตอล มีเทคโนโลยีมากมาย ที่จะนำความจริงสู่ประชาชน การสร้างกระแสของคนเหล่านี้จึงไม่ส่งผลอะไรมากนัก ไม่มีองค์กรระหว่างประเทศ หรือสื่อต่างประเทศ หรือรัฐบาลต่างประเทศรัฐบาลใด ที่ประณามรัฐบาลไทยว่าใช้ความรุนแรงในการสลายม็อบ ประชาคมโลกต่างรู้ว่าความจริงคืออะไร สื่อต่างชาติจำนวนมาก สามารถถ่ายภาพเหตุการณ์ต่างๆ ได้ค่อนข้างชัดเจน จนสื่อต่างชาติทั้งหลาย สรุปว่า ม็อบเหล่านี้ติดอาวุธ และไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ แต่อย่างใด

ตำรวจและรัฐบาลจึงมีความชอบธรรมอย่างเต็มเปี่ยมที่จะสลายการก่อจลาจลของฝูงชนที่บ้าคลั่งเหล่านี้

ไม่มีวีรชนในวันที่ 7 ตุลาคม มีแต่ผู้เคราะห์ร้าย และผู้ที่บาดเจ็บจากการก่อจลาจล


ลำดับเหตุการณ์ก่อจลาจลของกลุ่มพันธมิตรวันที่ 7 ตุลาคม 2551


6 ต.ค.2551


18.20 น. แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มประกาศเชิญชวนประชาชนในทำเนียบรัฐบาลขยายพื้นที่ ชุมนุม ไปหน้ารัฐสภา ขณะนั้นผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบประมาณ 6,000 คน

19.55 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 4,000 คน เดินทางถึงหน้ารัฐสภา 4,000 คน ปิดล้อมทั้งด้านถนนอู่ทองใน และถนนราชวิถี

7 ต.ค.2551

01.30 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศจะขัดขวางไม่ให้มีการประชุมรัฐสภา ผู้ชุมนุมบริเวณทำเนียบ 4,500 คน, รัฐสภา 1,700 คน

06.15 น. กำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล 12 กองร้อย เข้าปฏิบัติการตามแผนโดยนำกำลังเข้าทางด้านถนนราชวิถีแยกการเรือน, ถนนพิชัย แยกขัตติยานี เพื่อนำ กำลังเข้ารักษาความปลอดภัยภายในรัฐสภา

08.25 น. นาย สมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัย บนเวทีทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องให้แรงงานรัฐวิสาหกิจหยุดงาน เพื่อ ออกมาร่วมชุมนุมกันที่หน้ารัฐสภาให้มากที่สุด โดยขอให้ผู้ชุมนุมรวมตัวกัน เดินทางไปยังแยกพิชัย เพื่อปิดกั้นเส้นทางของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะเข้า บริเวณประตูปราสาทเทวฤทธิ์ ด้านข้างรัฐสภา ถนนราชวิถี

08.30 น. เกิดเหตุไฟดับภายในอาคารรัฐสภา โดยมีกระแสข่าวว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ได้ตัดสายไฟบริเวณด้านนอกรัฐสภา ทำให้บริเวณภายในรัฐภา ไฟดับบางส่วน อย่างไรก็ตาม ภายในอาคารรัฐสภาได้ใช้ไฟสำรองจากเครื่องปั่นไฟ แทน ซึ่งไฟฟ้าสำรองดังกล่าวจะสามารถใช้ได้เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

09.27 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกจากบ้านพัก คาดว่า จะเดินทางมาที่รัฐสภา ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สลายการชุมนุม ถูกส่งไปยัง โรงพยาบาลรามาธิบดี

10.54 น. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่บริเวณลานพระ บรมรูปทรงม้า ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมหนีกระเจิง อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯ ได้ล้อม สภาทุกจุดแล้ว

11.00 น. ตำรวจได้เสริมกำลังควบคุมสถานการณ์บริเวณรอบนอกรัฐสภา โดยเฉพาะ ถนนพิชัย ที่เป็นทางเดียวที่เปิดให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและคณะรัฐมนตรีเข้า ไปแถลงนโยบายในรัฐสภา แต่ทางด้านพันธมิตรฯ ยังไม่ยอมเปิดทาง

11.25 น. ผู้บัญชาการทหารบก เรียกประชุม 5 เสือ ทบ. ติดตามและประเมินสถานการณ์ ความวุ่นวาย ขณะ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกสรศุกร์ เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ที่ บ้านสี่เสาเทเวศร์

11.59 น. พันธมิตรฯ กลับมายึดพื้นที่ถนนอู่ทองในตัดกับถนนราชวิถีได้แล้ว โดยผลักดันกำลังตำรวจได้สำเร็จ

12.00 น. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ระดมปาขวดน้ำบรรจุน้ำปัสสาวะเต็ม ขวดข้ามเข้ามาในรั้วสภา และอีกส่วนหนึ่งกำลังช่วยกันพลิกคว่ำรถขังผู้ต้องหาของ ตำรวจจนคว่ำลงไป

12.05 น. พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เข้าปิดล้อมอาคารรัฐสภาอีกครั้ง หลังจาก ที่ ถูกเจ้าหน้าที่ใช้กำลังเปิดทางเข้ารัฐสภาในช่วงเช้า โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดประตูฝั่ง ถ.ราชวิถี จากนั้น พั นธมิตรได้ใช้แผงเหล็กกั้นแล้วนำโซ่มาล่ามประตูและล็อกกุญแจหลาย ชั้นเพื่อ ไม่ให้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาที่อยู่ภายในอาคารออกมาได้

12.20 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโจมตีนายกรัฐมนตรีว่า เป็นคนที่ไร้เกียรติ ไม่จริงใจ ไม่ทำตามที่ตกลงไว้ สภาทนายความออกแถลงการณ์ ให้ตำรวจยุติการใช้ความรุนแรง

12.59 น. ตำรวจเจ็บ 2 นาย จากการที่ปะทะกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ บริเวณหน้ารัฐสภา ซึ่งตำรวจ 1 ใน 2 นายนี้ โดนด้ามธงเสียบท้องทะลุหลังด้วย และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า

13.00 น. การะประชุมแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อสภาได้สิ้นสุดลง นายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ได้ปิดการประชุม ขณะที่ที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิก วุฒิสภา ยังไม่สามารถออกจากอาคารรัฐสภาได้

15.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยึดรถกระบะเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายคัน นำมาปิด ถนนนครราชสีมา หน้า มหาวิทลาลัยราชภัฏสวนดุสิต พร้อมทั้งขนยาง รถยนต์สกัดแนวกั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงทางแยกขึ้นสะพานซังฮี้ จำนวนหลายกองร้อย

15.00 น. ด.ต.ทวีป กลั่นเนียม สังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 6 จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งถูกผู้ชุมนุมพันธมิตรใช้ด้ามธงปลายแหลมแทงเข้าที่ซี่โครงทะลุปอด

15.47 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณหน้าพรรคชาติไทย โดยจุดที่ระเบิดเป็นรถจี๊ปเชโรกี ทะเบียน พต 4755 กทม. ตัวรถฉีกขาดทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อภายหลัง คือ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี อดีตข้าราชการตำรวจ ปัจจุบันเป็นแกนนำกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินของ พ.ป.ป.ใน จ.บุรีรัมย์

18.00 น. พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และเพื่อนร่วม รุ่น จปร.7 กับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตร เผยว่าเหตุการณ์พันธมิตร ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปะทะตำรวจเป็นแผนของ พล.ต.จำลอง เตรียมไว้แล้ว เมื่อ พล.ต.จำลอง ถูกจับ ก็ให้คนเข้ามาในกรุงเทพฯ และเข้ามายึดรัฐสภา โดย พยายามสร้างสถานการณ์ให้เหมือนเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ แต่ขณะนี้ไม่มีคนนำ ทำ ให้เหตุการณ์ไม่จบแบบนั้น

18.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประสานรถพยาบาล เพื่อเข้ามารับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ที่ถูก ยิงบาดเจ็บ จากการสาดกระสุนใส่ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแต่รถพยาบาล ไม่สามารถเข้าไปในอาคารรัฐสภาได้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายแรก ที่ได้รับ บาดเจ็บ จากการถูกยิงเข้าบริเวณไหปลาร้าด้านขวา มีการใช้มีดผ่าลูกกระสุนออก ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกนายหนึ่ง ที่ถูกยิงบริเวณราวนมด้านขวา ยังอยู่ในอาการ อันตราย หน่วยพยาบาลจึงพยายามปฐมพยาบาลและประสานรถพยาบาล ให้เข้าไป รับตัว

18.38 น. กองทัพภาคที่ 1 ส่งทหารเสนารักษ์ เข้าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ ขณะโฆษกกองทัพบกยืนยัน ทหารไม่ได้เลือกข้าง

18.55 น. มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา-สวนดุสิต ประกาศหยุดการเรียนการสอน ซึ่งรวมทั้งโรงเรียนสาธิตด้วย ระบุ รอดูสถานการณ์การเมืองก่อน

18.57 น. พันธมิตรยกทัพจากรัฐสภา กลับเข้าทำเนียบ หวั่นมือที่สามสร้างสถานการณ์

19.06 น. ลำเลียงเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่ถูกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาที่โรงพยาบาล ขณะผู้ชุมนุมขับรถกระบะเข้าชนรองสารวัตร ที่แยกอู่ทองใน

19.25 น. สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุก ฝ่ายยุติความรุนแรง และใช้สติแก้ปัญหาทางออกอย่างสันติ เตือนนักข่าวปฏิบัติ หน้าที่อย่างระมัดระวัง

19.28 น. ตำรวจและผู้ชุมนุมกว่าร้อยนายตรึงกำลังที่ ถนนศรีอยุธยา หน้ากองบัญชาการ ตำรวจนครบาล

20.02 น. ยังคง มีกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์พันธมิตร ที่นำผ้าปิดพรางใบหน้า และนำ เครื่องขยายเสียงมาปราศรัยโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ บช.น.เป็นระยะ ๆ ด้วย

20.18 น. ทหารตรึงกำลังเข้มหน้ากองทัพบก และแยก จปร.รอเสริมทัพตำรวจ หาก สถานการณ์ชุมนุมบานปลาย

21.00 น. สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และกลุ่ม พ.ป.ป.กลับเข้ารวมตัวในบริเวณทำเนียบ รัฐบาลทั้งหมด

21.30 น. ตำรวจเริ่มตั้งแถวตรึงกำลังบริเวณระหว่างหน้ากองบัญชาการตำรวจนครบาล กับ ลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากมี พ.ป.ป.กลับมารวมตัวเป็นระยะ ๆ

----------------------------

จาก thaifreenews