ผบช.น.เผยมีกำลังตร.หลายพันนายไว้รับมือ หากกลุ่ม‘พลังกู้วิกฤติชาติ’ของ‘สล้าง’ปิดล้อมทำเนียบฯ ไล่‘พันธมิตรฯ’จริง ระบุหากเกินกำลังพร้อมเรียกทหารเสริมทัพทันที
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีที่ พลตำรวจเอก สล้าง บุนนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ ประกาศยึดทำเนียบรัฐบาลว่า ตนเชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเนื่องจากใกล้งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ คงไม่มีผู้ใดกล้าก่อเหตุรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตามตำรวจได้เตรียมกำลังไว้ 8 กองร้อย หรือ 1,200 นาย ในสถานการณ์ปกติ และมีกำลัง ณ ที่ตั้งอีก 9 กองร้อย รวมทั้งสามารถร้องขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพได้ทันที กรณีที่เกิดเหตุรุนแรงเกินกว่าตำรวจจะควบคุมได้ ยืนยัน ตำรวจสามารถควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่าง 2 กลุ่มได้
ส่วนจะมีตำรวจราชการไปร่วมชุมนุมกับ พลตำรวจเอก สล้าง หรือไม่นั้น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ต้องพิจารณาว่า หากตำรวจในราชการจะไปร่วมชุมนุม ต้องไปนอกเวลาเท่านั้น แต่ย้ำว่า ขณะนี้ยังมีคำสั่งห้ามตำรวจทุกนายลาโดยไม่มีกิจอันควร พร้อมยอมรับ รู้สึกหนักใจ เนื่องจากขณะนี้ตำรวจถูกกดดันอย่างหนัก
ไม่อยากให้รัฐบาลไขก๊อก
นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงกรณีที่ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยอ้างเพราะเป็นเหตุมาจากการเมือง ไม่ใช่การกระทำผิด หรือทุจริต ว่า เป็นเพียงความคิดเห็นของแต่ละคนที่สามารถมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันได้
ส่วนจุดยืนของพรรคชาติไทย นายบรรหารกล่าวว่า ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลยังต้องการให้มีรัฐบาลทำหน้าที่บริหารประเทศต่อไป มิเช่นนั้นจะเกิดสุญญากาศทางการเมือง ประเทศชาติไม่สามารถเดินหน้าได้ ทั้งนี้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศต้องแก้ไขตามระบอบประชาธิปไตย และต้องใช้ความอดทน
หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์บ้านเมือง ที่แบ่งเป็นหลายฝ่าย และจะมีการชุมนุมใหญ่ ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะกัน โดยผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหลายท่านไม่สามารถพูด หรือแสดงความคิดเห็นได้มากนักเพราะจะถูกตีความว่าเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดและนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น
อาสากาวใจนปช.-พันธมิตรฯ
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวในรายการที่นี่ทีวีไทย ออกอากาศทางโทรทัศน์ช่อง ไทยพีบีเอส(TPBS) เมื่อคืนวาน(23 ต.ค.) เกี่ยวกับสถานการณ์บ้านเมืองขณะที่ว่า ตนรู้สึกเป็นห่วงบ้านเมืองขณะนี้มากเพราะ เห็นได้ชัดเจนว่า ขณะนี้บ้านเมืองมีการแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน คือ1.กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ2.กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ทั้งนี้มองว่าการที่พันธมิตรฯเข้าไปยึดทำเนียบรัฐบาลไม่ได้เป็นการใช้สิทธิเรียกร้องชุมนุมอย่างสันติตามที่รัฐธรรมนูญ ปี2550 บัญญัติไว้ ซึ่งเป็นฉบับที่กลุ่มพันธมิตรฯพยายามจะปกป้อง รวมทั้งการเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมไปปิดล้อมรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาก็ถือว่ากลุ่มพันธมิตรทำไม่ถูกต้อง
“ผมกลัวว่าบ้านเมืองเราจะกลายเป็นอย่างเช่นสงครามเขมร 3 ฝ่ายที่มีการรบพุ่งกันเองของคนในชาติ และถ้ามองให้ดีก็ไม่มีใครได้ประโยชน์เพราะคนในชาติรบกันเอง”นายเสนาะ กล่าว
นายเสนาะกล่าวอีกว่า ตนพร้อมที่จะเข้าไปเป็นคนกลางเพื่อไกล่เกลี่ยให้ไม่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯหรือนปช. หรือจะให้ก้มลงกราบก็ยอมโดยเฉพาะกลุ่มพันธมิตร อย่างไรก็ตามตนคิดว่าคนที่จะไม่ยอมออกมาคุยก็คือ นายสนธิ ลิ้มทองกุล และพล.ต.จำลองศรีเมือง
อย่างไรก็ตามหัวหน้าพรรคประชาราช ได้กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า ตนเชื่อว่าขณะนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีอำนาจใดๆแล้วในเมืองไทย ส่วนคดีทั้งหลายก็เข้าสู่สถาบันตุลาการหมดแล้ว
เชื่อไม่เกิดเหตุรุนแรง
ด้าน พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.สล้าง บุญนาค อดีตรองอธิบดีกรมตำรวจ เตรียมที่จะใช้กลุ่ม‘พลังกู้วิกฤติชาติ’เพื่อไปปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลในวันพรุ่งนี้(25 ต.ค.) เพื่อตัดช่องทางการนำเสบียงอาหารและเครื่องดื่มเข้าไปให้ผู้ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า ตนเชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรงใดๆเพราะทุกฝ่ายต่างทำตามหน้าที่และคนไทยทุกคนต่างคิดดีทำดี
ส่วนกรณีที่พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะโทรศัพท์ทางไกลจากต่างประเทศเข้ารายการ "ความจริงวันนี้ ต้านรัฐประหาร" ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ พล.ต.อ.โกวิท เห็นว่า จะไม่ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองทวีความรุนแรงขึ้น และเรื่องดังกล่าวถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ปิดสะพาน‘มัฆวาน’อ้างโดนขว้างประทัดยักษ์
ส่วนบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แกนนำได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและเปิดช่องทางการจราจรบนถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์-แยกสวนมิสกวัน ตลอดช่วงเช้าวันนี้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงมีการนำยางรถยนต์และรถบรรทุก 6 ล้อติดเครื่องขยายเสียงมาจอดขวางเส้นทางการจราจรบนสะพานมัฆวานรังสรรค์-บริเวณแยก มิสกวัน นอกจากนี้ยังมีการนำยางรถยนต์มาวางขวางถนนบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ด้วย
ทั้งนี้แกนนำให้เหตุผลเรื่องของความไม่ปลอดภัย หลังจากเมื่อวานนี้ มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ขว้างประทัดยักษ์เข้ามาในบริเวณการชุมนุม จึงจำเป็นต้องมีการปิดการจราจรในบริเวณดังกล่าวต่อไป