ที่มา thaifreenews
พท.เชื่อ"แม้ว"รีเทิร์นนายกฯ จะนำประเทศเป็นเสือตัวใหม่ "เฉลิม"ย้อนทำไมจะกลับไม่ได้ ซัด"กษิต"เลอะเทอะ "สมชาย"อ้างเพื่อปท.สงบ แนะรบ.ยอมเปิดโต๊ะเจรจา "สุเทพ"อ้างอดีตนายกฯไม่ยอมแพ้ หวังจะมาเป็นประธานาธิบดี เหน็บชอบพลิกลิ้นไปมา
พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดสัมมนา ส.ส.พรรคขึ้นที่โรงแรมกรีนเนอร์รี่ รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ในหัวข้อ "เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย" "เพื่อไทย ผูกพัน ร้อยประสบการณ์" โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคและ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ประธานที่ปรึกษาพรรค ทำหน้าที่เป็นประธาน มีบุคคลใน "ครอบครัวชินวัตร" เข้าร่วมสังเกตการณ์ อาทิ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คณะกรรมการเลือกผู้สมัคร ส.ส.พท. นายพายัพ ชินวัตร น้องสาว-น้องชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.ชินณิชา ชินวัตร ส.ส.เชียงใหม่
นอกจากนั้น ยังมีแกนนำพรรค อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน นายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา และประธานวิปฝ่ายค้าน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ส.ส.สัดส่วน เข้าร่วมประชุม พร้อมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยและอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน เช่น นายชานนท์ สุวสิน อดีตผู้อำนวยการพรรคไทยรักไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นายทนง พิทยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี นายอดิศร เพียงเกษ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
นายทนง พิทยะ กล่าวบรรยายในหัวข้อ "อุดมการณ์และแนวทางสู่ความสำเร็จของพรรค" ว่า ต้องขอแสดงความยินดีกับ พท.ที่ถือว่าพรรคนี้เป็นพรรคที่ 3 ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราคิดยาว ดังนั้น ให้ลองนึกภาพว่าอีก 3-5 ปีนั้นเราจะเดินทิศทางไหน เพราะอีกเพียง 3 ปีนายยงยุทธ ติยะไพรัช และอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คนก็จะกลับมารวมกันในทีมอีกครั้ง "ตอนนั้นจะไม่มีใครใหญ่เท่าเราแล้ว เราคุมทั้งประเทศ แต่ตอนนี้ให้คิดว่ากำลังฝึกงานอยู่ ซึ่งตอนที่อยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ พวกเราได้คิดถึงอนาคตตลอดมีการวางวิสัยทัศน์ตลอด แม้ขณะนี้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็เป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุด ดังนั้นขอให้พวกเราอดทนนิดเดียว ใจเย็นๆ" นายทนงกล่าว
ระหว่างการสัมมนาพรรคเพื่อไทย เรื่อง "การทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างมีประสิทธิภาพ" เมื่อ เวลา 16.50 น. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน นายจำลอง ครุฑขุนทดและนายพินิจ จันทรสุรินทร์ อดีตรมว.เกษตรฯ ร่วมบรรยาย เจ้าหน้าที่พรรคเพื่อไทยได้มาประสานสื่อมวลชนขอให้เป็นการสัมนาภายในเฉพาะ สมาชิกพรรคพร้อมทั้งขอความร่วมมือสื่อมวลชน ให้ออกไปทำการแถลงข่าวของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดงด้านนอก ที่จะแถลงข่าวกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม ขึ้นพูดเกริ่นมาว่า เดี๋ยวจะพูดคุยกับอดีตนายรัฐมนตรี จากนั้นโดยมีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งยื่นโทรศัพท์จ่อที่ไมโครโฟน ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นโทรศัพท์ส่วนตัวของ น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวนายสมชาย และ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์
จากนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่กับพรรคเพื่อไทยในวันนี้ต้องขอบคุณอย่างสูง ท่านทั้งหลายที่อยู่กับพรรคเพื่อไทยในวันนี้ ต้องถือว่ามีอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ขายตัว และสองยังรักผม ไม่อยากทิ้งผมไปในยามที่ผมยังลำบาก และขอย้ำว่าผมจะไม่ลืมบุญคุณกับผู้ที่ มีบุญคุณกับผม และเชื่อว่าวันหนึ่งผมจะได้กลับไปทำหน้าที่ในประเทศไทยอยู่กับท่านต่อไป
"ผมมั่นใจว่าจะได้กลับประเทศไทย จากที่ผมเคยประกาศว่า จะวางมือทางการเมือง แต่การกลั่นแกล้งทางการเมืองกลับเข้มข้นขึ้นก็ขอบอกใหม่ว่า "ผมพร้อมที่จะกลับไปสู้ทางการเมืองต่อไป" เพราะถ้าผมยอมแพ้เท่ากับว่า ประชาชนทั้งประเทศที่เคยได้รับอานิสงส์จากการทุ่มเททำงานของผมกับเพื่อนๆ ทั้งหลาย ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย เราจึงไม่ยอมให้ประชาชนพ่ายแพ้
ผมแพ้ไม่เป็นไร ผมเจ็บปวดไม่เป็นไร ผมทุ่มเททำงานให้กับบ้านเมืองขนาดนี้แต่ผมถูกรังแกขนาดนี้เป็นการแสดงให้ เห็นว่ามีบุคคลที่ไม่ต้องการให้มีผู้ทำที่จะมาทำงานให้บ้านเมือง ต้องการแค่ผู้นำที่อยู่ไปวันๆ หนึ่ง แต่ประชาชนไม่ต้องได้อะไร "
"ผม คิดว่ามันเป็นความเจ็บปวดของคนทั้งประเทศ ผมคิดว่าจำเป็นจะต้องต่อสู้และความรับผิดชอบบนแผ่นดินไทยของผมยังมีอยู่ การที่เขาชนะและคิดว่าจะต้องล้มผมให้ได้ก็ต้องกล่าวหาว่าไม่จงรักภักดี และมีกระบวนการให้เห็นว่าการไม่จงรักภักดีจะต้องลงโทษอย่างไร ซึ่งไร้สาระที่สุด และผมจะไม่ยอมให้ความเข้าใจผิดอย่างนี้มีอย่างต่อเนื่อง"
ผมก็จะต่อสู้และพูดพร้อมกันไปถ้าจะให้ผมยอมแพ้ ผมทำไม่ได้ และพวกท่านที่อยู่ข้างเคียงผมวันนี้ ก็ขอให้สบายใจได้เลยว่าผมจะไม่ทิ้งพวกท่านเช่นกัน ผมอยากเห็นความยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคมไทย ผมจึงจะหาความยุติธรรมให้เจอ ไม่ว่าจะเจอมันบนสวรรค์หรือในนรกก็ตาม แม้วันนี้คนจะเห็นว่าพรรคเราไม่มีผู้นำ แต่ความจริงแล้วพวกท่านทั้งหลายทุกคนคือผู้นำ
ท่านก็ต้องช่วยกันแบบนักการเมืองผู้ใหญ่ที่อยู่กันแบบพี่น้อง เพื่อนฝูง ที่จะต้องช่วยกันประคับประคอง โดยผมเองจะคอยดูแลให้กำลังใจและสนับสนุนผู้ที่ทำงานให้มีกำลังใจในการทำงาน ให้สำเร็จอยู่ใกล้ๆ ผมให้เบอร์โทรศัพท์ ส.ส.ทุกท่านอยู่แล้ว โทรหาได้ตลอดเวลา มีใครมาอ้างชื่อผมก็โทรมาสอบถามได้ตลอดเวลา ถ้าผมไม่รับแสดงว่าเป็นเวลากลางคืน แล้วผมจะโทรกลับหาท่านตอนเช้า
“ทุกวันนี้มีคนมาอ้าง ซึ่งผมจะยกตัวอย่างเรื่องหนึ่ง คือมีคนเอาเงินมาแจก ส.ส. และพวกเราบางคนก็ไปรับด้วย แล้วก็บอกว่าเฮ้ย กูจะมีเงินอะไร กูทำให้นาย มึงไปถามนายนายก็ไม่รับหลอก เพราะกูทำให้นาย บอกได้เลยว่าเป็นการโกหกที่ใช้ไม่ได้เลย ผมไม่ได้เป็นคนหน้าไหว้หลังหลอก ผมเป็นคนตรงไปตรงมา
"ผมไม่มีวันให้เงินใครมาทำร้าย มาแข่งขันกับคนที่เป็นเนื้อแท้ของเราเด็ดขาด คนที่แอบอ้างคือคนที่ขี้ขลาด คนจริงต้องสู้กันแบบลูกผู้ชาย ไม่ใช่ใช่วิชาโกหกตอแหล ก็ขอให้ทุกคนสบายใจได้ว่าเราเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีสอง
ส่วนคนที่อาจจะเดือดร้อนมีอะไรก็ให้คุยกับแกนนำของเราหรือไม่ก็โทรหาผม พวกเราจะต้องเป็นเสือ ที่เวลาหิวจะนอน เวลาหมาหิวมันจะร้อง ดังนั้นทุกคนมีอะไรก็พูดกันมา ใครมีปัญหามีอะไรผมช่วยได้ผมก็จะทำ”
วันนี้ผมฟังสัมภาษณ์คนเสื้อแดงหลายคนก็ยืนยันว่ามาต่อสู้เพื่อผม เพราะเขาไม่เคยเห็นใครทุ่มเททำงานให้บ้านเมืองแล้วโดนรังแกขนาดนี้ก็เลยอยาก บอกทุกคนว่ามีประชาชนจำนวนมากที่มองเห็นความไม่เป็นธรรมครั้งนี้ สิ่งที่เขาจะทำต่อไปนี้คือ ระบบสองมาตรฐาน คือ ประชาธิปัตย์ทำอะไรไม่ผิด แต่ไทยรักไทยทำอะไรผิดหมด เขาทำไปเรื่อยๆ โดยเราก็ต้องยิ้มให้เขาทำ
วันนี้การดำเนินการสองมาตรฐาน การกลั่นแกล้งพวกเราสีแดงผิดหมด สีเหลืองผิดหมดมันสั่งสม สักวันมันระเบิดขึ้นมาแล้วมันจะไม่คุ้มเลยสำหรับประเทศไทย
สำหรับคนที่ทำคนที่ทำอาจจะอายุมากแล้ว แต่กำลังทิ้งบาปไว้ให้กับสังคมไทย วันนี้ผมอาจจะเจ็บปวดที่สุด แต่ก็เป็นคนเดียว ครอบครัวเดียว แต่ความเจ็บปวดมันกำลังตอกลิ่มลงไปในใจคนจำนวนมากหลายล้านคนในประเทศไทย หากเขาคิดเป็นและฉลาดพอ จะรู้ว่าเขากำลังสั่งสมความไม่ดีในหัวใจคน จนเสื่อมความศรัทธา
อยากจะบอกว่าให้ทุกคนรักประชาชนให้มาก เป็นนักการเมืองที่มีอุดมการณ์ก็ไม่ต้องไปหวั่นไหว การเป็นฝ่ายค้านวันนี้มันต้องอดทนเมื่อมีฝนตกก็ต้องมีแดดออก
“การเป็นฝ่ายค้านวันนี้กำลังสั่งสมคะแนนครั้งใหญ่ เพราะ รัฐบาลชุดนี้มันเป็นรัฐบาลเสือหิว รวบรวมเสือหิว เสือหาย เสือโหย ทั้งนั้นไปอยู่ด้วยกัน หลายคนที่ออกไปเพราะมีโครงการรออยู่ ทำโครงการเอาไว้ก็คิดจะไปถอนทุนกันต่อ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์นั้นถูกสร้างมาเพื่อทำลาย ไม่ได้สร้างมาเพื่อแก้ปัญหา ดังนั้นแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ยากมาก ดังนั้นพวกเราอย่าหวั่นไหวไปกับงบประมาณที่มันผิดกฎหมาย ที่เขากล้าทำ วันนี้อย่าไปหวั่นไหวกับสิ่งเหล่านี้ แล้วก็ให้ประจาน เปิดเผยว่ามีสิ่งผิดปกติอะไรบ้าง
"บอกประชาชนว่าผมพร้อม ถ้าประชาชนพร้อม ผมพร้อมจะกลับไปเป็นนายกฯให้ประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ถ้าประชาขนพร้อมเมื่อไรผมก็พร้อมเมื่อนั้น ถ้าประชาชนยอมพ่ายแพ้ ก็ถือว่าผมหมดหน้าที่ ถึง แม้ผมจะต้องอยู่ต่างประเทศอีกนาน แต่ผมจะไม่ยอมตายในต่างประเทศแน่นอน อย่างมากที่สุด ผมสู้ไม่ได้ ผมก็จะแอบลักลอบเข้าไปตายในอีสาน ถ้าสักวันหนึ่งพี่น้องประชาชนบอกว่าบ้านเมืองต้องการผม ผมก็จะกลับไปทำหน้าที่"
ในที่นี้มีอยู่ 2 ส่วนคือ ส.ส.ปัจจุบัน กับ ส.ส.ในอนาคต แต่ก็หวังว่าผู้เป็น ส.ส.อยู่จะไม่หนีทัพกลางคัน หลายคนถูกเรียกให้ไปเอางบประมาณแล้วพออภิปรายไม่ไว้วางใจ "เอ็งต้องอย่ามา ไปหลบอยู่ที่บ้านข้า" ผมรู้หมด ซึ่งท่านต้องคิดว่าทำอะไรมองยาวอย่ามองสั้น การเมืองยังอีกยาวนานและการเมืองตอนนี้ผมคิดว่าเศรษฐกิจและสังคมในประเทศมี ปัญหา ทั่วโลกมีปัญหา ความสามารถในการแก้ปัญหาโดย เด็กสองคนก็ลำบาก เด็กสองคนช่วยกันแก้ก็คงยาก มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
ผมขอขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมยามนี้ แต่เมื่อเราเดินทางมาถึงทางแยก ผมจะตรงไป บางคนจะขอเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาก็ไม่ว่ากัน แต่ไม่เป็นไร เพราะผมมั่นใจว่าจะกลับไปทำงานให้บ้านเมืองแน่นอน แม้เมื่อไรยังไม่รู้ แต่ เมื่อไรก็ไม่เป็นไร ผมจะรักษาเนื้อรักษาตัวให้แข็งแรง เมื่อวานเพิ่งไปตรวจเลือดมาก็พบว่าร่างกายก็ยังแข็งแรงอยู่ ไม่มีโรค ไม่มีไข้ ไม่เจ็บไม่ป่วย สภาพจิตใจได้รับการชะโลม จากกองเชียร์ พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดง ที่รักผมทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู่ที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย และพวกที่กำลังจะกลับมาอยู่ในพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นกำลังใจชะโลมใจผม
ตรงนี้ต้องขอบคุณอีกครั้งในน้ำใจที่มีต่อผม ท่านเฉลิม ท่านวิทยา ท่านพินิจ (จันทรสุรินทร์) ท่านจำลอง (ครุฑขุนทด) ท่านปลอดประสพ (สุรัสวดี) ท่านยงยุทธ โดยเฉพาะน้องสาวผมสองคน เยาวภากับยิ่งลักษณ์ ที่เหนื่อย เครียด บางทีก็ถูกด่าบ้างก็ทนกันมา วันนี้ทุกคนได้ช่วยกันเต็มที่ จตุพร ณัฐวุฒิ วีระ อดิศร จาตุรนต์ ทุกคนช่วยกันหมด ก็ขอให้ทุกคนอย่าต้องมาประสบเคราะห์ภัยอย่างผม ผมรับมาทั้งหมดพอแล้ว
ขอยืนยันอีกครั้งไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมสู้ ไม่ถอยครับ ผมเป็นคนที่ยิ่งโดนยิ่งสู้ ถ้าพูดกันดีๆให้ถอย ผมก็จะถอยนะ เต็มใจถอย แต่ยิ่งโดนยิ่งสู้ แล้วถ้าโดนอีกก็จะสุ้หนักขึ้นไปอีก ถ้าเล่นผมหนักขึ้นอีกผมก็จะเล่นหนักขึ้นอีก ผมก็ไม่กลัว แต่ถ้าเลิกเล่นกับผม คุยกับผมดีๆ ผมก็คุยทุกเรื่อง นี่คือนิสัยผม
อีกเรื่องก็เรื่องที่พูดว่าผมโดนยึดเงินที่ประเทศ อังกฤษ มันโกหกทั้งนั้นเพราะผมไม่เคยมีบัญชีที่อังกฤษแม้แต่บาทเดียว ถามว่าเป็นอย่างไรบ้างผมก็เพิ่งขายทีมฟุตบอลไป เงินก็ไม่ได้ใช้อะไร แค่เดินทางปีละร้อยกว่าล้านก็พออยู่ได้อยู่ คงไม่ได้ไปเก็บตังค์ชาวบ้านมาส่งผม ฟังแล้วอยากร้องไห้ ขอขอบคุณทุกคนและไม่ว่าจะมีอะไรสามารถโทรหาผมได้ทุกคน
----------------------------------------------
ที่มา :
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1233580965&grpid=10&catid=01