WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Monday, February 2, 2009

เผลอไปเตะชามข้าวใคร

ที่มา เดลินิวส์

ถ้าหากให้ผมเดาใจสิ่งแรกที่ “นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อยากได้มากที่สุด หลังจากเดินทางกลับมาจากการประชุมเศรษฐกิจโลก ที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ คือใบลาออกจากการเป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ของ“นายวิฑูรย์ นามบุตร”

มาถึงวันนี้อยากจะบอกกับนายวิฑูรย์ว่า แม้จะชี้แจงอย่างไรคนในสังคมก็ไม่ยอมรับแล้วครับ เพราะมีข้อพิรุธหลายประการผู้บริจาค “ปลากระป๋อง” ซึ่งนำมาสู่ปัญหาใหญ่ให้กับรัฐบาลขณะนี้ ยังไม่เคยปรากฏตัวเพื่อชี้แจงข้อสงสัยต่าง ๆ ให้คนในสังคมได้รับรู้ ยิ่งฝ่ายค้านเข้ามาขุดคุ้ยหรือหน่วยงานของรัฐอย่าง สำนักงานคณะกรรม การอาหารและยา (อย.) เข้าไปตรวจสอบก็พบความผิดปกติมากขึ้นทุกที

ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิตอาหารกระป๋อง บุคคลต่าง ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ว่าข้อมูลเบื้องต้นจะเป็นเพียงชื่อย่อ แต่วงในหรือคนที่ติดตามปัญหาที่เกิดขึ้น เขารู้กันหมดว่า ใครมีส่วนพัวพันหรือ ทำให้เกิดปัญหา รู้แม้กระทั่งว่านักการเมืองคนไหนนำบริษัทเข้ามาเตรียมการจัดซื้อ “ถุงยังชีพ”

ผมว่าใครเข้ามาทำงาน เป็น รมว.การพัฒนาสังคมฯคนใหม่ จะต้องเข้ามารื้อระบบจัดซื้อสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาจากภัยธรรมชาติกันทั้งหมดเลยครับ มี บริษัทไหน ทำตัวเป็นมาเฟียคุมการจัดซื้อจัดจ้างบ้าง และไม่รู้ว่าที่เกิดเหตุฉาวโฉ่ขึ้นมาครั้งนี้ เพราะ นักการเมืองบางคนมูมมาม หรือตะกละตะกลามจนเกินไป จึงเข้ามารื้อกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างถุงยังชีพ ทั้งที่มีนักการเมือง หรือข้าราชการระดับบิ๊กบางคนดูแลอยู่แล้ว

เหมือนกับสำนวนที่ว่า “เผลอไปเตะชามข้าว” ของใครบางคน ซึ่งกำลังสวาปามงบประมาณหลวงด้วยความเอร็ดอร่อย งานนี้เลยได้รับบทเรียนครั้งสำคัญ เผลอ ๆ อาจจะต้อง ล้างมือจากการเล่น การเมืองไปตลอดชีวิต ด้วยซ้ำ ยิ่งนายวิฑูรย์เพิ่งเข้ามาเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกอีกด้วย แต่ที่น่าสนใจและน่าจะเป็นคำถามคือ ทำไมสิ่งของ บริจาคที่มีปัญหาจึงมีที่ “พัทลุง” จังหวัดเดียว จนทำให้คนเขาลือกันว่าเรื่องนี้มีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของบ้านเรา

มีนักการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ แอบส่งข้อมูลไปให้พรรคฝ่ายค้าน เพราะอยากให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี อย่างว่าละครับ เป็นฝ่ายค้านมา 8 ปีเต็ม เมื่อถึงเวลาได้เป็นรัฐบาล ใครก็อยากรับตำแหน่งซึ่งเทียบเท่ากับเสนาบดี

และถ้าหากใครสังเกตระยะหลัง เกมในสภาซึ่งต้องรับมือพรรคฝ่ายค้าน บรรดาขุนพลซึ่งเคยเป็นนักบู๊ของพรรคการเมืองเก่าแก่ หายหน้าหายตาไปหมด ไม่ว่าจะเป็น “นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ” หรือบรรดามือเก๋าเกมคอยตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม จนทำให้รัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ต้องลงมาทำหน้าที่ในการชี้แจง เวลา พรรคถูกพาด พิงในทางเสียหาย

ทำให้ “พรรคประชาธิปัตย์” ยุคมีนายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคและ “นายสุเทพ เทือกสุบรรณ” เป็นเลขาธิการพรรค ถูกมองว่าแตกต่างจากสมัยที่ “นายชวน หลีกภัย” เป็นผู้นำ และมี “พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์” เป็นเลขาธิการพรรค รับบทฝ่ายบริหารครั้งใดเมื่อมีการแต่งตั้งรัฐมนตรี ปัญหาทุกอย่างก็จบ ไม่มีใครมาทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำ เรียกว่า ใช้ทั้งความดีและบารมี สยบความไม่พอใจสมาชิกในพรรคได้

ในขณะที่นายอภิสิทธิ์ให้น้ำหนักเรื่องการบริหารประเทศ เนื่องจากต้องฟันฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจ ทำให้การบริหารพรรค หรือ การ เลือกบุคคลให้มาดำรงตำแหน่ง ต่าง ๆ เป็นหน้าที่ของนายสุเทพ ซึ่งมักจะถูกมองว่าให้น้ำหนักไปยังนักการเมืองในกลุ่มของตนเอง จึงทำให้สมาชิกพรรคหลายคน เกิดความรู้สึกไม่พอใจ

หรือว่าจะเป็น อาถรรพณ์ของพรรคการเมืองเก่าแก่ เป็นรัฐบาลทีไรถึงคราวต้องเกิดปัญหาขัดแย้งภายในทุกที งานนี้ต้องอาศัยบารมีของประธานที่ปรึกษาพรรคฯลงมาช่วยแก้ไขอีกครั้งแล้วมั้งครับ.

"เขื่อนขันธ์"