ที่มา ไทยรัฐ
“งานเข้า” รับกันไม่ทันเลย
โดยอาการพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก รัฐบาลเส้นใหญ่ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังตกที่นั่ง “ปีชง”
เคราะห์กรรมตามกระหน่ำ
“ปลากระป๋องเน่า” ของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ ก็ยังกลิ่นตลบอบอวล แม้เจ้าตัวจะประกาศเดิมพันด้วยการลาออก และยุติชีวิตทางการเมืองหากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลว่าผิด ก็ยังดับกลิ่นไม่อยู่
เพราะโดยกระแสที่ถูกเปิดปมทีละขยัก นอกจากปลากระป๋องเน่าที่สาวกันด้วย ปริศนาอักษรย่อ ยังมีลำไยกระป๋องในโกดังที่รอแจก ไหนจะยาหมดอายุในถุงยังชีพ
กลายเป็นถุงปลิดชีพ
เอาเป็นว่า โดยอาการเพลี่ยงพล้ำของนายวิฑูรย์ ได้เปิดทางให้มวยใหม่หัดขับอย่างนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว
สวนทางกับชะตาของนายวิฑูรย์ที่ส่อแววริบหรี่
แต่ที่พยายามยื้อชะตา ฝืนกระแสกันสุดลิ่มทิ่มประตู กับคิวของนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย ที่ต้นสังกัดพรรคภูมิใจไทย ลงทุนถึงขั้นใช้มติพรรคอุ้มกันว่าไม่มีความผิด ดักคอ “อภิสิทธิ์” ห้ามแตะ
ทั้งๆที่โดยพฤตินัยการควงเมียแจกเงินหลวงแนบนามบัตรในบ้านพักส่วนตัว แม้จะอ้างกันว่าเป็นแค่ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆในความตั้งใจช่วยเหลือประชาชนคนยากจน
แต่คนวงในกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะรู้ระเบียบกันดีว่า งบช่วยเหลือคนชราหรืองบแจกช่วยเหลือคนยากจนจะมีกำหนดเพดานแจกไม่เกินคนละ 2,000 บาท และส่วนใหญ่ จะพิจารณาความเหมาะสมไม่ให้แจกน้อยเกินไปจนคนรับไม่พอยาไส้
การซอยเหลือแค่ 500 บาท มันส่อเจตนา
ราคาใกล้เคียงกับคืนหมาหอนก่อนวันเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม โดยชะตากรรมของนายบุญจงที่ไม่ได้แตกต่างไปจากนายวิฑูรย์ แม้ต้นสังกัดพรรคภูมิใจไทยจะโอบอุ้มเต็มที่
แต่มันไม่ได้มีแค่เรื่องแจกเงินแนบนามบัตร ล่าสุดยังมีเรื่องที่หนังสือพิมพ์เปิดข้อมูลที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดองเรื่อง
หมกเม็ดใบแดงคดีทุจริตเลือกตั้งที่โคราช
โดยเงื่อนไขที่ดักอยู่ข้างหน้า เวลาบนเก้าอี้รัฐมนตรีของนายบุญจงคงเหลืออีกไม่นาน
และนั่นก็คงไม่มากไปกว่าเวลาของนายกฯอภิสิทธิ์ที่จะต้องรีบตัดสินใจปรับ ครม.
เพราะนอกจากคิวของนายวิฑูรย์และปมของนายบุญจง ก็ยังต้องเสียวกับคิวเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญของนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รมช.คมนาคม ที่ร่วมโหวตรับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
ขยับเนื้อขยับตัวลำบากเข้าไปใหญ่
สารพัดเงื่อนไขที่ถาโถมเข้าใส่ ในห้วงจังหวะม็อบเสื้อแดง ก็เร่งเกมหักดิบไฟต์เดิมพัน ต้องล้มรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ให้ได้ โละวีซ่านายกฯอภิสิทธิ์ที่ว่ากันว่าจองโควตาไว้ 6 เดือน
โดยเงื่อนไขทางการเมืองที่พุ่งเข้าใส่ว่าหนักหนาแล้ว แต่ที่สาหัสสากรรจ์ยิ่งกว่าน่าจะเป็นปมเศรษฐกิจร้อนๆล่าสุด กับตัวเลขเงินคงคลังเหลือแค่ 5.2 หมื่นล้านบาท
จากข้อมูลจริงๆที่นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง ยืนยันกลางวงกรรมาธิการงบฯ เหลือพอจ่ายเงินประจำของข้าราชการแค่เดือนครึ่ง
ตะลึงไปตามๆกัน
นั่นก็เพราะความจำเป็นของรัฐบาลที่ต้องอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ หว่านประชานิยมบลัฟต้นตำรับ กับเดิมพันที่นายกฯ อภิสิทธิ์ประกาศเสียงดังๆสิ้นปีเศรษฐกิจจะฟื้น
เจอตัวเลข “ตูดขาด” ส่อเค้าไม่มีแม้แต่เงินเดือนจ่ายข้าราชการ
จะคืนคำก็ไม่ทันซะแล้ว.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน