ที่มา ประชาทรรศน์
คอลัมน์ : ละครชีวิต
โดย อสรพิษ
ใครจะไปรู้ละว่า สมัยนี้เวรกรรมมีจริง แถมไม่ต้องรอถึงชาติหน้า เพราะว่าสมัยนี้กรรมมันติดจรวดกันไวมาก จนบางครั้งคนก่อกรรมตั้งตัวไม่ทัน
ยกตัวอย่างง่ายๆ อย่างกรณีของ นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ก่อนหน้านี้หวุดหวิดรอดคดีใบแดง การทุจริตการเลือกตั้ง กรณีตั๋วชมภาพยนตร์ ชนิดที่เรียกว่าค้านสายตาคนทั้งประเทศมาแล้ว เพราะว่ามีหลักฐานและพยานแวดล้อมชัดเจนก็ไม่สามารถเอาผิดได้
ที่ผ่านมานอกจากจะออกมาปฏิเสธและนั่งยัน นอนยันถึงความบริสุทธิ์ของตนเองแล้ว ทางพรรคเองก็หวั่นใจถึงได้มีการประชุมใหญ่ปรับเปลี่ยนตำแหน่งจากที่ นายวิฑูรย์ นามบุตร เคยเป็นกรรมการพรรคก็ไม่ได้เป็นเพราะเกรงว่ารัฐธรรมนูญที่เคยวางหลุมพรางไว้ฆ่าพรรคอื่นๆ จะย้อนกลับมาทำลายตัวเอง
เรื่องยังไม่ได้มีทีท่าว่าจะจบลงโดยง่าย อย่างที่ใครๆ ก็ทราบกันดีว่า พรรคประชาธิปัตย์ พรรคหนึ่งเดียวเทวดาที่มีอภิสิทธิ์เหนือกว่าพรรคใด ก็ได้สำแดงฤทธิ์เดชอีกครั้ง คราวนี้มีการเอนเอียง และพุ่งเป้าไปที่ กกต.กลางว่าจะมีผลตัดสินในเรื่องดังกล่าวอย่างไร
โทร.เข้าสอบถามเรื่องดังกล่าว นอกจากจะได้รับการบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถามแล้ว ยังจะออกแนวปกป้องกันอยู่กลายๆ จนสุดท้ายมีข่าวครึกโครมที่มีหนึ่งในคณะกรรมการ กกต.ในการตัดสินและพิจารณาคดีของนายวิฑูรย์ ออกมาบอกว่าไม่อยากตัดสินคดีดังกล่าว เพราะว่ามีการตั้งธงในการตัดสินไว้ล่วงหน้าแล้ว
ผลสุดท้าย นายวิฑูรย์ นามบุตร ก็รอดคดีดังกล่าวราวกับมีปาฏิหาริย์ อย่างนี้เพลงพี่กบ-ทรงสิทธิ์ ต้องร้องใหม่เลยครับ เพราะว่า “ปาฏิหาริย์ มันมีจริง”
หลังจากหลุดได้หนึ่งคดีก็เงียบหายไปนาน พอมีการจับพลัดจับผลู พรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล ใครเลยจะไปคิดว่า คนเคยตกเป็นข่าวอย่าง นายวิฑูรย์ นามบุตร จะได้มาเป็น คณะรัฐมนตรี โดยดำรงตำแหน่งถึง รมว.การพัฒนาสังคมและทรัพยากรมนุษย์ จะส้มหล่นได้ดำรงตำแหน่งนี้
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นกระทรวงหลักๆ แต่การได้มาถึงตำแหน่ง รมต. คราวนี้ก็ดีไม่ใช่น้อย เพราะว่าตัวเกร็งบางท่านยังไม่ติดโผด้วยซ้ำ ก็เป็นเรื่องราวในขณะนั้นที่มี ส.ส.บางท่านมั่นอกมั่นใจมากว่าจะได้เป็นคณะรัฐมนตรี พอไม่ได้ตำแหน่งก็ออกมาป่าวประกาศเห็นแล้วน่าขายขี้หน้าชะมัด
ดีอกดีใจกับตำแหน่ง รมต. ได้ไม่เท่าไร นายวิฑูรย์ นามบุตร ก็เจอพระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก ดันไปบริจาคถุงยังชีพ หวังโกยคะแนนเสียงประชานิยม
แต่ใครจะไปคิดละว่า ถุงยังชีพที่บริจาคไปหวังโกยคะแนนเสียงประชานิยมนั้นจะกลายเป็นถุงยังชีพปลิดอนาคตของตนเอง
เพราะไม่เพียงมีแต่ปลากระป๋องเน่ายี่ห้อ “ชาวดอย” ที่เกิดมาผู้เขียนก็เพิ่งจะเคยได้ยินนี่เอง ไม่รวมกับยาสามัญที่หมดอายุ ข้าวสารขึ้นมอดอีก งานนี้ไม่ดับก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้วครับพี่น้อง
ถึงแม้ว่าทาง รมว.การพัฒนาสังคมฯ จะออกจัดการแถลงการณ์ในเรื่องดังกล่าวว่าอาจจะเกิดความเข้าใจผิดคลาดเคลื่อนกันนั้น พอมาถึงจุดไคลแมกซ์ ที่นายวิฑูรย์เปิดปลากระป๋องโชว์ กลิ่นก็เน่าอบอวลไปทั่วห้องแถลงข่าว หลักฐานคามืออย่างนี้ปฏิเสธไม่ออก ไปกันไม่ถูกเลยทีเดียว
พอเปิดประชุมสภาไม่ต้องถามถึง “เดอะตู่” แกนนำแห่งคนเสื้อแดง ตั้งกระทู้ถามกันสดๆ ถึงเรื่องปลากระป๋องเน่า ที่ก่อนหน้านี้ทางโฆษกพรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ เคยมาออกแถลงการณ์เอาผิดพร้อมโชว์ปลากระป๋องเน่ายี่ห้อ ชาวดอย ที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว งานนี้ปลากระป๋องชาวดอย ดังเพียงชั่วข้ามคืน
ไม่ต้องถามท่านผู้อ่านก็คงจะเดากันออกว่า นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ จะตอบกระทู้สดของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อย่างไร
แน่นอนครับว่า งานนี้ประชาธิปัตย์สั่งแถ แก้ตัวกันไปน้ำขุ่นๆ ชนิดที่ไม่มีทางมองเห็นตัวปลาอย่างแน่นอน โยนเรื่องให้คนที่บริจาคปลากระป๋อง ตัวเองมีหน้าที่ซื้ออย่างเดียว โยนขี้ให้ทางกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
งานนี้ใครจะอยู่ใครจะไป ต้องรอลุ้นผลการตรวจสอบจาก ป.ป.ช. แต่เชื่อเหลือเกินว่างานนี้คงจะรอดยาก และปาฏิหาริย์คงไม่ถึงสองรอบอย่างแน่นอน แล้วก็อย่าเก่งแต่ปาก ทำตามที่พูดด้วยนะครับท่านวิฑูรย์