ที่มา ไทยรัฐ
วัดใจ ใครจะเสียงดังกว่ากัน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยืนยันตามที่ได้ส่งซิกล่วงหน้าไว้ว่า จะตัดสินใจปรับ ครม.หลังบินกลับจากร่วมเวทีสัมมนาเศรษฐกิจโลกที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ขอเวลาแค่ 3 วันในการพิจารณาโละ “ตัวปัญหา”
แต่ในลีลาของ “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้จัดการรัฐบาล ยังออกอาการแทงกั๊ก จะไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรีก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย
โดยเฉพาะคิวของนายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.การพัฒนาสังคมฯ ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหารและ ส.ส.ของพรรค ยังไม่มีการปรับออกจากเก้าอี้รัฐมนตรีตามที่มีข่าวออกมาแต่อย่างใด
ถึงนาทีชี้เป็นชี้ตาย “เทพเทือก” ก็แสดงตน เล่นบทอุ้มลูกน้องในคาถา
ออกหน้ามาการันตีนายวิฑูรย์ไม่ใช่เป็นตัวปัญหาของรัฐบาล สวนหมัดพรรคเดียวกันแต่คนละพวกอย่างนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมากระตุ้นให้รัฐมนตรีที่ตกเป็นเป้าพิจารณาตัวเอง
โดยเงาทะมึนครอบ “อภิสิทธิ์”
อันที่จริงก็ไม่ได้น่าแปลกใจกับท่าทีของ “เทพเทือก” เพราะเคยผ่านประสบการณ์ด้วยตัวเองมาแล้ว กับคิว สปก.4-01 ในยุครัฐบาลอดีตนายกฯชวน หลีกภัย ที่อุ้มกระเตงกันจนพังไปทั้งรัฐบาล
มาตรฐานความ “ดื้อ” เป็นประกัน
ที่สำคัญ มันยังมีเงื่อนไขรายการฟัดกันเองในหมู่คนพรรคเดียวกันแต่คนละขั้วในหมู่คนพรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้สถานการณ์ชิงเหลี่ยมที่เด็กสาย “บัญญัติ” จ้องเบียดทวงโควตารัฐมนตรี บี้แซะเด็กเส้น “เทพเทือก”
ใครจะเปิดช่องให้เสียบง่ายๆ
และก็เป็นอะไรที่มี “ลูกคู่” ให้อ้างถูลู่ถูกังซะด้วย กับอาการ “ไอ้เข้ขวางคลอง” ของค่ายภูมิใจไทย ลูกข่ายพ่อมดเขมรที่เดินหน้าอุ้มนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย บริสุทธิ์ผุดผ่องกับรายการแจกเงินหลวงแนบนามบัตร
ขวางลำนายกฯอภิสิทธิ์ห้ามแตะ
โดยเงื่อนไขของ “บุญจง” ถือว่าเข้าทาง “เทพเทือก” ใช้พลังต่อรองของก๊วนพ่อมดเขมรเป็นตัวช่วยล็อกเกมปรับ ครม. ยื้อชะตาลูกน้องสายตรงอย่างนายวิฑูรย์
วัดใจ “อภิสิทธิ์” กันลึกๆในที
แต่ก็เป็นอะไรที่รู้ทางกันดี ล่าสุดนายกฯอภิสิทธิ์รีบยืนยันเลยว่า ตัวเองมีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีอย่างแน่นอน โดยระหว่างนี้ จะขอพิจารณาข้อมูลหลักฐานที่มีหลายด้านก่อน คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2 วันจึงเรียบร้อย และจะพิจารณาด้วยความเป็นธรรม
เมื่อตัดสินใจแล้วจะสามารถชี้แจงต่อสังคมได้
โดยไม่ลืมที่จะย้ำกันชัดๆว่า พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถกดดันไม่ให้ปรับนายบุญจง ออกจากตำแหน่งได้ เพราะตัวเองเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจ
ดิ้นหนีสภาพ “หุ่นเชิด”
“อภิสิทธิ์” ดึงระยะออกมาอยู่ในจุดที่สะท้อนความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ให้เกิดภาพที่อยู่ในกำกับของ “เทพเทือก” อยู่ภายใต้อิทธิฤทธิ์ของก๊วนพ่อมดเขมร
ในฐานะคนที่ต้องแบกหน้าเผชิญกับแรงเสียดทาน เอาต้นทุนหน้าตักมาเสี่ยงกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเส้นใหญ่ โดนนินทาว่าได้มา เพราะฉกชิงวิ่งราว
เอาเป็นว่า ถ้าไม่มีการขยับปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีฉาวๆ
ก็ต้องถือว่า เกมไหลไปเข้าทางฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย ที่ตั้งแท่นเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะ พุ่งเป้าเชือดไปที่ “สายล่อฟ้า” นายวิฑูรย์ ว่าด้วยปลากระป๋องเน่า นายบุญจง แจกเงินหลวงแนบนามบัตร และนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ โควตาม็อบพันธมิตรฯ
วางเพลิงเผาบ่อน้ำมัน
และโดยเกมก็ต้องถล่มเป้าใหญ่อย่างนายกฯอภิสิทธิ์ เพื่อเข้าเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ฝ่ายค้านต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีขึ้นมาประกบ
ได้จังหวะโหวตเลือกนายกฯกันใหม่
ที่แน่ๆโดยเงื่อนไขที่วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป บรรยากาศไม่หวานเหมือนวันโหวตพลิกขั้วรัฐบาล ดันอภิสิทธิ์เป็นนายกฯสำเร็จ
ก่อนที่ความสำคัญของเพื่อนจะจางลงไป
โดยอาการทางใจของพรรคร่วมรัฐบาลที่ได้แทะแค่กระดูก โดนพรรคประชาธิปัตย์เล่นบทเขี้ยวใส่ กินรวบงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.16 แสนล้านบาท จัดให้กระทรวงที่คนของพรรคตัวเองนั่งคุม ผันงบกันมันมือ
เสียงหนุน “อภิสิทธิ์” เหลือไม่เท่าเก่าแน่.
ทีมข่าวการเมือง รายงาน