ที่มา มติชน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเมื่อวันที่ 16 เม.ย.ว่า จากที่รัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สั่งให้มีการสลายการชุมนุม เมื่อ 10 เม.ย.ทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย บาดเจ็บ 858 ราย นับเป็นการสลายการชุมนุมที่รุนแรงและโหดร้ายที่สุด ซึ่งรัฐบาลใช้กำลังทหารพร้อมอาวุธสงครามร้ายแรง ทำให้พี่น้องประชาชนคนเสื้อแดง ที่มาชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยให้รัฐบาลยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ต้องสูญเสียชีวิตมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ของการเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพ ผ่านมา 6 วัน ยังหาความรับผิดชอบทางการเมืองกับผู้นำรัฐบาลไม่ได้ รัฐบาลก็ยังคง พ.ร.ก.การบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อใช้เครื่องมือปิดปาก ปิดหู ปิดตา ประชาชนผ่านหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ รวมทั้งสื่อสารมวลชนที่ต้องถูกบังคับโดยกฎหมายพิเศษให้นำเสนอข่าวรัฐบาลข้างเดียว
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย.คนในรัฐบาลได้ดำเนินการแผนต่ออายุให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยการเชิญนักการเมืองที่มีบารมีนอกพรรคร่วมรัฐบาล ชื่อ น.ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเกมการเมืองใต้ดิน เข้าไปประชุมที่กรมทหารราบ 11 เพื่อดำเนินการในการปกป้องรัฐบาล เพื่อยื้ออายุให้รัฐบาลที่กำลังร่อแร่ ไร้ความชอบธรรมให้อยู่ต่อไป โดยการดำเนินการแผน 6 ขั้น คือ 1.นำเหตุการณ์สลายการชุมนุม 10 เม.ย.ในมุมมองของรัฐบาล ปั๊มซีดี 5 ล้านแผ่น แผ่นใบปลิว 10 ล้านแผ่น โดยตั้งงบฯ 100 ล้านบาท แจกทั่วประเทศ ป้ายสีให้ประชาชนเข้าใจว่ามีการก่อการร้ายในกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับรัฐบาล และให้ร้ายกลุ่มคนเสื้อแดง 2.ระดมมวลชนโดยผ่านนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล และเครือข่ายในกระทรวงมหาดไทย รวมถึงกลุ่มการเมืองที่หนุนรัฐบาลในคราบนักวิชาการ หมอ และพยาบาลบางกลุ่ม จากสีเหลืองแปลงร่าง และแนวร่วมรัฐบาลให้ออกมาสนับสนุนรัฐบาลอภิสิทธิ์ ไม่ให้ยุบสภา และต่อต้านประชาชนคนเสื้อแดงที่มาชุมนุม โดยเริ่ม 16 เม.ย.ในกรุงเทพฯ และจะขยายตัวไปทั่วประเทศโดยเน้นหนักในภาคใต้ และบางจังหวัดที่มีเครือข่ายนักการเมืองหนุนหลัง
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า 3. จัดม็อบชนม็อบ เน้นกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล ชนกับประชาชนคนเสื้อแดงที่มาชุมนุม แล้วจะมีมีกลุ่มฮาร์ดคอร์หัวรุนแรงที่หนุนรัฐบาลร่วมกับหน่วยความมั่นคงบางหน่วยสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง ล่าสุด 16 เม.ย.จับ 6 การ์ดพันธมิตรพร้อมอาวุธคาด่าน ในกรุงเทพฯ เป็นเครื่องยืนยันว่าจะมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรงมากขึ้น และจะปะทะกันจนนำไปสู่ความชอบธรรมที่รัฐบาลดำเนินการสลายม็อบเสื้อแดงอีกครั้งหนึ่ง 4. จับกุมแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงให้ได้โดยเร็วที่สุด และมากที่สุด เพื่อลดจำนวนผู้ชุมนุม และทำลายขวัญกำลังใจของผู้ชุมนุมและผู้สนับสนุนคนเสื้อแดง เพื่อให้ผู้ชุมนุมที่คัดค้านรัฐบาลขาดแกนนำในมวลชน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า 5. เรียกนักธุรกิจ นักการเมือง นักวิชาการ รวมถึงประชาชน ที่มีบทบาทสำคัญ เข้ารายงานตัว โดยอาศัย พรก. การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเครื่องมือ เพื่อจำกัดสิทธิ และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ที่เห็นต่างจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ 6 หากสถานการณ์รัฐบาลรับมือไม่อยู่ หลังจากดำเนินการตามมาตรการต่างๆ แล้วไม่ได้ผล เมื่อบ้านเมืองมีความวุ่นวาย ก็จะอาศัยทหาร กลุ่มที่หนุนรัฐบาล และอำมาตย์ ออกมายึดอำนาจ ล้มกระดาน เพื่อไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง เพราะรู้ว่าถ้าปล่อยให้มีการยุบสภา และมีการเลือกตั้งใน 2-3 เดือนนี้ กลุ่มอำนาจรัฐบาลชุดนี้ และแนวร่วมอำมาตย์ ก็จะไม่ได้กลับมามีอำนาจต่อไป จึงใช้ทุกวิธีการเพื่อต้องรักษาอำนาจต่อไป
"ขอประณามกลุ่มบุคคลที่อยู่ในรัฐบาล รวมทั้งนักการเมือง น.ที่ใช้วิธีการดังกล่าวซึ่งจะทำให้เกิดความแตกแยกและขัดแย้งรุนแรงมากขึ้นในสังคม จนลุกลามบานปลายเป็นสงครามกลางเมืองในที่สุด การที่คิดจะรักษาอำนาจให้กับรัฐบาลอยู่ต่อไป เพื่อแสวงหาอำนาจ และผลประโยชน์ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่ถูกต้อง และเป็นอันตรายต่อประชาธิปไตย เป็นกลุ่มบุคคลที่เป็นพวกก่อการร้ายตัวจริงที่นอกจากทำลายประชาชน ทำลายประชาธิปไตย ยังเป็นพวกทำลายชาติไทยอีกด้วย" นายพร้อมพงศ์กล่าว