WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Sunday, April 11, 2010

ม็อบเสื้อเขียว 20,000 คน VS ม็อบเสื้อแดง 300,000 คน

ที่มา thaifreenews


บทความโดย..ลูกชาวนาไทย




คนที่ใส่เสื้อลายพรางถือแต่โล่ห์กับกระบอง ไม่ได้ถือปืน หรือ ถือปืน แต่ไม่อาจใช้ยิงฝ่ายตรงข้ามได้ เพราะจะเสียการเมือง หากเราเรียกว่าทหาร พวกเราคนเสื้อแดง ก็จะตื่นเต็นตกใจ วาดภาพกันใหญ่โต เวลาเห็นขนกันมา 4-5 คันรถ ก็มีการโทรกันให้วุ่นว่าทหารจากปราจีนกำลังเข้ามาแล้ว ทำให้พวกเราคนเสื้อแดงบางคนตกใจโดยใช้เหตุ

หากเราเรียกพวกนี้เสียใหม่ว่า "พวกม็อบเสื้อเขียว" เพราะมันมีปืนแต่ห้ามใช้ ก็ไม่ได้ดีไปกว่า คนเสื้อแดงที่ไม่มีปืน เพียงแต่พวกนี้แต่งตัวเท่กว่าเท่านั้น เพราะใส่ชุดโรโบคอบ แต่ชุดบ้าๆ เท่ๆ แบบนี้ มาใส่ในเมืองร้อน อุณภูมิ 40 องศา คนใส่แทบเป็นลมตาย

ม็อบเสื้อเขียว กำลังปะทะกับม็อบเสื้อแดง

ใช้คำแบบนี้เสีย เราก็จะได้มองภาพทะลุความจริง จะได้ไม่กลัว หรือวาดภาพพวกนี้ใหญ่เกินความเป็นจริง

การปราบม็อบให้สำเร็จเรียบร้อย มี 3 วิธีคือ

1. หากเรามีกำลังมากกว่า 5 ต่อ 1 เราก็ใช้กำลังที่มากกว่าผลักดันม็อบให้ออกจากบริเวณไป เนื่องจากฝ่ายเจ้าหน้าที่มีจำนวน มากกว่า มีสิ่งป้องกัน เช่น โล่ห์ กระบอง เกราะ ที่ดีกว่า จึงมีกำลังชนมากกว่า ฝ่ายม็อบมีกำลังน้อยกว่า เมื่อปะทะกัน ฝ่ายเจ้าหน้าที่จึงได้เปรียบ ประกอบกับใช้แก้สน้ำตาย่อมสลายม็อบไปได้ อาจปะทะกันหัวร้างข้างแตกไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับเสียชีวิต นี่เป็นระบบที่สากลยอมรับได้

แต่หากเจ้าหน้าที่มี 3,000 คน ม็อบมี 50,000 คน วิธีนี้ก็ไร้ประโยชน์ เพราะกำลังคน และกำลังชนไม่พอ ม็อบมีมากกว่า 10 ต่อ 1 ต่อให้ใส่ชุดป้องกันดียังไง ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะจะโดนรุมโดนเบียด สุดท้ายก็เป็นลม เพราะเคลื่อนไหวไม่คล่องตัว

2. หากฝ่ายเจ้าหน้าที่มีกำลังน้อยกว่ามาก ก็ต้องใช้วิธี Shock and awe คือ สร้างความสะพรึงกลัว ให้ม็อบหนีไปหรือเสียขวัญ เช่น ถล่มปืนใหญ่เข้าไปสักครึ่งชั่วโมง ม็อบตายระเนระนาด 5,000-10,000คน ม็อบก็จะหนี และสลายไปในที่สุด เช่น เหตุการณ์ที่ เทียนอันเหมินของจีนที่ตายราวๆ 20,000 คน และที่เมืองร่างกุ้ง ของพม่า ตายประมาณ 4,000-5,000 คน ม็อบก็สลายไป แต่สองประเทศนี้ได้รับการประณามจากทั่วโลก ถึงความโหดร้าย พม่าถึงกับโดนแซงชั่นค์ทางเศรษฐกิจ ส่วนจีน เนื่องจากเป็นมหาอำนาจ เลยไม่มีใครกล้าทำอะไร

วิธีนี้ได้ผลเด็ดขาด เมื่อเจ้าหน้าที่มีกำลังน้อยกว่ามาก แต่มีอาวุธเหนือกว่า

แต่หากนำมาใช้ รัฐบาลก็คงอยู่ในโลกศตวรรษที่ 21 ได้ยาก สุดท้ายหากเป็นประเทศเล็กๆ ก็คงต้องปิดประเทศอยู่แบบพม่า

3. หากวิธีทางการทหาร ทั้งสองวิธีข้างต้นไม่ได้ผล ก็ต้องใช้วิธีทางการทูต คือ เจรจา เพราะปัญหาการเมือง การใช้วิธีการทางทหารเข้าแก้ไข มีแต่จะทำให้บานปลาย เป็นสงครามกลางเมือง สุดท้ายก็จบด้วยความหายนะของประเทศ และต้องเจรจากันในตอนจบอยู่ดี


สถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้ ผมว่าใช้วิธีการที่ 2 คงไม่ได้ ตอนนี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ กำลังใช้วิธีการที่ 1 อยู่ ส่วนวิธีการที่ 3 เคยเจรจากันแล้วแต่ไม่สำเร็จ

เมื่อสถานการณ์ถูกบีบให้ใช้แต่วิธีที่หนึ่ง ถึงมีปืนมีอาวุธ ก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ สภาพของทหารจึงไม่ได้มีความได้เปรียบคนเสื้อแดงมากนัก

คือ มือเปล่าต่อมือเปล่า

หากผมเรียกว่า เป็นพวก "ม็อบเสื้อเขียว" ก็คงไม่ผิดกติกาอะไร

คนเสื้อแดงไม่เคยกลัวพวกเสื้อเหลืองอยู่แล้ว จะกลัวอะไรกับพวกเสื้อเขียว

อย่างวันนี้ผมได้ยินข่าว (วันที่ 10 เมษายน) ว่ามีม็อบเสื้อเขียวสัก 1,000 คน นำพวกเวทีบุกผ่านฟ้า มีรถยนต์และยานยนต์อื่นๆ สนับสนุน

ก็คงไม่ค่อยตกใจกันใช้ไหมครับ หากเรียกว่าเป็นทหารจะบุกสลายตรงโน้นตรงนี้ แล้วทำให้คนเสื้อแดงเราสร้างภาพในใจว่าเห็นทหารถืออาวุธปืนสงครามไล่ยิง ฝ่ายเสื้อแดงล้มดุจใบไม้ล่วง

แต่ที่เราเห็นดันกันมาตลอด ทั้งที่ไทยคม คือ "ชายฉกรรจ์อายุราวๆ 20-22 ปี" ประมาณ 3,000 คน สวมเสื้อเขียวลายพราง เอาอะไรมาสวมตัวเองก็ไม่รู้ทั้งหนัก และร้อน ประจันหน้ากับ "คนเสื้อแดงที่มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย" จำนวนรวม 30,000-40,000 คน

พวกเสื้อเขียวเหล่านี้มีอาวุธ แต่ใช้ไม่ได้ ไม่งั้นจะเป็นการยิงคนมือเปล่า จึงได้แต่เข้าแถว ใช้กำลังดัน กับพวกเสื้อแดงที่มีจำนวนมากกว่า แดดก็ร้อน สุดท้ายพวกเสื้อเขียวดันสู้ไม่ไหว ก็เลยยอมถอย ไป ที่ผมเห็นภาพคือ พวกเสื้อเขียวล้มใส่ลวดหนามตัวเอง หรือ หามมาให้พยาบาล FARED ปฐมพยาบาลให้ก็มี

สถานการณ์วันนี้ พวกเสื้อเขียวกลุ่มย่อยๆ ประมาณร้อยคนบ้าง (ผมไม่เรียกว่ากองร้อย เพราะมันดูพร่ามัวคิดภาพไม่ออก) เรียกว่ากลุ่มระ 150 คน 60 กลุ่ม

บางกลุ่มก็หลบอยู่ในวัดสองสามร้อยคน บางกลุ่มก็ยืนบนสะพาน จุดแยกต่างๆ สิบกว่าคน

ที่จริง นายสุเทพ มีม็อบเสื้อเขียวในมือ ที่ใช้งานได้ประมาณ 12,000 คน เสริมด้วยพวกม็อบเสื้อสีกากีที่ไม่ค่อยเต็มใจดันกับพวกเสื้อแดง อีกราวๆ 1-2 หมื่นคน

ม็อบเสื้อเขียวนี้ขนกันมาจาก ปราจีนบุรีราวๆ 3,000-4,000 คน มี นายวลิต โรจนภักดี เป็นแกนนำขนมา หัวหน้าใหญ่ดูเหมือนจะชื่อ นายประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นแกนนำหลักของพวกม็อบเสื้อเขียวสายปราจีนบุรี

จะเรียกได้ว่า "ม็อบเสื้อเขียว" นี้เป็น "ม็อบรับจ้าง" ก็ได้ เพราะมีเบี้ยเลี้ยงราวๆ 120 บาท/วัน กดค่าแรงนั้นมาก

ข่าวล่าสุดคือ ม็อบเสื้อเขียว เขาคนไปยึดผ่านฟ้ากำลังสู้กันอยู่ คาดว่าคนเสื้อแดง เย็นๆ คงไปยืนล้อมพวกม็อบเสื้อเขียวไว้ตรงกลาง เป็นแซนวิชด์ ม็อบเสื้อเขียวที่ยึดผ่านฟ้าคงมีราวๆ1,000-2,000 คน

อันที่จริง การยึดพื้นที่ ไม่ค่อยมีความสำคัญนัก เพราะหากพวกเสื้อเขียวยึดผ่านฟ้าได้ พวกเสื้อแดงหากไม่ต้องการเสียเลือดเนื้อ ก็ไปยึดเยาวราชหรือสีลมแทน หรือเคลื่อนไปขอใช้พื้นที่ ย่านสยามพารากอน หรือไป รัชดาก็ได้

ปล่อยให้ พวกเสื้อเขียว ปิดถนนราชดำเนินแทน หากพวกนี้กำลังน้อยลง เราก็สงคนไปยึดคืนอีก

ผลคือ กรุงเทพฯ วุ่นวายไม่จบ

คงมองเห็นสถานการณ์ในภาพรวมแล้วนะครับ ว่าเป็นยังไง เรื่องม็อบเสื้อเขียว 20,000 คน จะสลายม็อบเสื้อแดง 300,000 คน นี่ ลืมไปได้เลย และคถูกม็อบเสื้อแดงสลายเอาแบบที่ไทยคมเป็นแน่ (แต่แดงถอนมาพวกเสื้อเขียวก็ไปยึดคืนอีก ก็เหมือนกัน หากพวกเสื้อเขียวยึดผ่านฟ้าได้ กำลังน้อยลง แดงก็ไปเอาคืนอีก ผลัดกันยึดไปยึดมา)

สรุปคือ อย่าไปเรียกพวกนี้ว่าทหารครับ เรียกมันว่า พวก "เสื้อเขียว" นั้นดีที่สุด