ที่มา Thai E-Newsบุญทันเตี้ยคนในหมู่บ้านเราไปร่วมประท้วงกับเสื้อแดง วันหนึ่งระหว่างดันกันไปดันกันมากับฝ่ายทหารเขาเจอติงลี่ลูกชายฉันที่ไปเป็นทหารเกณฑ์ด้วย พอแลเห็นหน้ากันทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน และระหว่างการเผชิญหน้ากันหนหนึ่ง ทหารเกณฑ์กับผู้ประท้วงเสื้อแดงจำกันได้ว่า อีกฝ่ายเป็นลูกและอีกฝ่ายเป็นแม่ ได้โผเข้าหากัน กอดกันกลม..(ภาพประกอบ:AP)
โดย เทิดธรรม กระแสทวน
17 เมษายน 2553
460 กิโลเมตรห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นที่ตั้งหมู่บ้านเล็กๆในชนบท
เวลา 2 ทุ่มคืนวันสงกรานต์ที่ผ่านมาดูเงียบสงัด หมู่ดาวดารดาษประดับฟ้าระยิบระยับ นั่นดูจะเป็นฉากโรแมนติค หากไม่มีเสียงถ่ายทอดการชุมนุมคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯดังลั่นแข่งกับเสียงจิ้งหรีดเรไร
***********
ทองเลิศเป็นแม่ที่แข็งขัน เคยได้รับรางวัลผ้าไหมทอมือระดับประเทศ เคยเข้าเฝ้าพระราชวงศ์ชั้นสูงเพื่อรับพระราชทานรางวัลแม่ดีเด่นในงานวันแม่แห่งชาติที่สวนอัมพร"หมู่บ้านเรานี้เป็นเสื้อแดง99% แน่นอนรวมทั้งฉันด้วย"ทองเลิศในวัย 50 เศษบอก โดยมีครูสมพงษ์ผู้สามีพยักเพยิดรับ "ส่วนอีก1%ที่ไม่ใช่ ก็เช่นลูกชายคนเล็กของฉัน"
ลูกชายคนเล็กของทองเลิศติดทหารเกณฑ์ที่ปราจีนบุรี เวลานี้ไปเฝ้าอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่บางวันก็ถูกคำสั่งให้ไปผลักดันกลุ่มผู้ชุมนุมที่สถานีภาคพื้นดินไทยคม ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานีบ้าง หรือที่บริเวณถนนราชดำเนินบ้าง
"ติงลี่(ชื่อเล่นลูกชายคนเล็ก)โทรมาบอกตลอดว่าอย่าห่วงเขา นอนหลับให้สบาย เขาเพียงแค่ต้องผลักดันกันไปมา เล่นชักกะเย่อกับผู้ชุมนุมแค่นั้น"ทองเลิศพูดพลางหัวเราะ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคนภูมิภาคอีสานในเขตชนบท พวกเขาจะหัวเราะได้กับทุกสถานการณ์ แม้ว่าวันที่ฉันไปนั่งคุยกับทองเลิศนั้นคือค่ำวันที่ 14 เมษายน หลังการนนองเลือด10เมษายนไม่กี่วัน
"ในวันนั้นติงลี่ไม่ได้ถูกส่งไปราชดำเนิน เขาถูกคำสั่งให้เฝ้าสนามบิน ซึ่งฉันก็ว่าเป็นโชคดี ฉันเฝ้าสวดมนต์ให้เขาปลอดภัยทุกคืน"ผู้เป็นแม่บอก พลางเล่าว่าคนในหมู่บ้านชนบทแห่งนี้มีเดินทางไปร่วมประท้วงด้วยหลายคน 1ในนั้นมีฉายาว่า"ทันเตี้ย"หรือบุญทัน ผู้มีรูปร่างเตี้ยตะแหมะแขะมะขามข้อเดียว นอกจากเป็นชาวนาแล้วเขายังเป็นนักแสดงผาดโผนร่วมกับหมาของเขา ไปเปิดวิกโดดลอดห่วงไฟ เวลามีงานวัด แล้วก็ขายยา"ทันเตี้ยกับแนบหัวล้าน แล้วก็ผู้ชายหลายคน แอบหนีเมียไปแบบไม่มีใครรู้ตัว ตีรถไฟลงไปไทยเพื่อประท้วง เขาเดือดดาลว่าพวกเจ้านายไม่ยอมฟังเสียงคนจนคนบ้านนอก คราวนี้เขาจะไม่ยอมอีกต่อไป"ครูสมพงษ์ คู่ชีวิตทองเลิศเล่าบ้าง ทันเตี้ยกับแนบหัวล้านชอบไปนั่งอยู่หน้าเวทีแถวๆ"ไอ้ตีนโต" พวกเราในหมู่บ้านเห็นหน้าเขาบ่อยเวลาทีวีพีเพิลแชนัลถ่ายทอดสด
หลังเหตุการณ์10เมษายนนองเลือด ทันเตี้ยผู้รอดชีวิตกลับมาเล่าให้คนในหมู่บ้านฟังว่า เขาเฝ้าเวทีไว้เลยไม่ได้ไปปะทะที่แนวหน้า เลยโดนแค่แก๊สน้ำตา พร้อมกับบอกโพนทะนาว่า คนตายไม่ใช่แค่20แต่มีเป็นร้อย พวกทหารลากศพไป ซึ่งชาวบ้านที่รับฟังก็ดูเหมือนพร้อมจะเชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว และพากันก่นประณามอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะกันยกใหญ่"ทันเตี้ยบอกว่าตอนเสื้อแดงยกพวกไปยึดดาวเทียมไทยคมนั้นได้ไปเจอติงลี่ลูกชายฉันด้วย พอแลเห็นหน้ากันทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน แต่ถึงจะไม่รู้จักกันเลย พวกเสื้อแดงก็ปฏิบบัติกับทหารด้วยดี เพราะติงลี่บอกว่าไปยืนยามตากแดดนั้นได้กินข้าวแค่มื้อเดียว พวกเสื้อแดงเจอทหารก็เอาน้ำเอาข้าวให้ทหารประจำ"ทองเลิศเล่าแทรก และเล่าด้วยว่าที่ลาดหลุมแก้วระหว่างการเผชิญหน้ากันระหว่างทหารกับเสื้อแดงนั้น มีตอนหนึ่งที่ทหารเกณฑ์กับผู้ประท้วงเสื้อแดงจำกันได้ว่า อีกฝ่ายเป็นลูกและอีกฝ่ายเป็นแม่ ได้โผเข้าหากัน กอดกันกลม
ฉันไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นจริงไหม แต่ทองเลิศตอกย้ำว่าจริงแน่นอน เพราะติงลี่เห็นด้วยตาของเขา และโทรมาเล่าให้แม่ฟัง แตฉันฟังแล้วก็ยังคิดว่าเป็นฉากนาฏกรรมมากกว่าจะเป็นเรื่องจริง
************
"แล้วก็นั่นอีกคนเป็น1%ที่ไม่ใช่เสื้อแดงในหมู่พวกเรา"สงวน ลูกชายคนโตของครอบครัวชี้ไปที่น้องสาวของเขา ลูกคนกลางของครอบครัว
สงวนออกจากบ้านนับแต่จบม.3ของโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ไปเป็นกรรมกรในโรงงานย่านสมุทรปราการ เวลานี้เป็นหัวหน้างาน ส่วน"บานชื่น"ลูกสาวคนกลางตอนนี้ทำงานในบริษัทมหาชนด้านสื่อสารแห่งหนึ่ง ที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ เงินเดือน25,000บาท ซึ่งนับว่ามากมายเอาการกับหมู่บ้านชนบทเช่นนั้น"ฉันไม่ใช่เสื้อเหลืองหรอกนะ แต่วันนี้มันเป็นวันครอบครัว ฉันมาจากในตัวจังหวัดเพื่ออยู่กับพ่อแม่พี่น้อง พี่สงวนก็เดินทางจากสมุทรปราการมาสงกรานต์ มาอยู่กับพ่อแม่พี่น้องกันพร้อมหน้า แต่ดูที่พี่ฉันทำตัวซิ.."บานชื่นฟ้องฉัน พร้อมชี้ไปที่วิทยุทรานซิสเตอร์สีมอๆที่สงวนกำลังเปิดเสียงถ่ายทอดสดจากเวทีเสื้อแดงจากกรุงเทพฯดังลั่นทุ่ง
"พี่สงวนแกเป็นเอามาก แกเปิดฟังมันทั้งวันทั้งคืน เข้าห้องน้ำไปถ่ายแกก็ยังหอบมันเข้าไปฟังด้วย เมื่อวานที่ชุมนุมถ่ายทอดเสียงมาว่ามีพิธีอาลัยคนตายเมื่อวันที่10เมษายน เขาเปิดเพลงธรณีกรรแสง พี่สงวนก็อินร้องไห้กับเขาไปด้วย"บานชื่นว่า ขณะที่สงวนพยักรับว่าจริงตามน้องสาวว่า แต่ได้แก้ต่างว่า เวลานี้ประเทศต้องรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อให้ประชาชนชนะ แต่น้องสาวของเขาอาจไม่มีวันเข้าใจ หลังจากกลายเป็น"ชนชั้นกลาง"เงินเดือนหลายหมื่น
สงวนแอบนินทาว่าบานชื่นเป็นเพื่อนรักกับเมียของสุวิทย์ สุทธิประภา นักเล่าข่าวช่อง 9 เลยได้ข้อมูลจากฝั่งนั้นเยอะ"พวกสื่อมันก็เสื้อเหลืองทั้งนั้น มันไม่มีวันเข้าใจประชาชนอย่างเราๆ"..
ในจังหวัดแห่งนี้มีสถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดงอยู่มากถึง 4 สถานี โดยมีส.ส.พรรคเพื่อไทย ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งทุกคนมีรูปถ่ายคู่กับทักษิณ ชินวัตรบนพื้นผ้าไวนิลสีแดงติดอยู่มุมเด่นๆของหมู่บ้าน ไม่เว้นแม้แต่ในวัด และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นโต้โผในสถานีวิทยุเหล่านี้
และความจริงก็เป็นโต้โผในการช่วยระดมคนเข้าไปกรุงเทพฯด้วย ครูสมพงษ์แอบกระซิบกับฉันไม่ให้เมียได้ยินว่า เขาแอบทำงานลับๆในการประสานงานหาคนที่พร้อมจะเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯในเขตอำเภอแห่งนี้ด้วย
"มันไม่ใช่เรื่องการจ้างไปชุมนุม หากคนมันไม่พร้อมใจ หากคนมันไม่เห็นด้วย หากคนมันไม่รู้สึกว่ามันสู้เพื่อตัวมันเอง ไม่ใช่สู้เพื่อทักษิณหรือใคร จะจ้างเท่าไหร่ถึงจะพอ เพราะไม่ใช่แค่ร้อนแดดเปรี้ยงๆ ไม่ใช่แค่ไม่มีที่นอนไม่สุขสบาย แต่มีตายมีเจ็บอย่างที่เห็น"ครูสมพงษ์ซึ่งเป็นนักสังเกตการณ์บ้านเมืองบอกด้วยว่า การต่อสู้เคลื่อนไหวครั้งนี้มหาศาลกว่ายุคไหน ทั้ง14 ตุลา พฤษภาทมิฬ เพราะมันลงรากลึกมาถึงทุกทั่วหมู่บ้าน ทุกครอบครัว ไม่มีใครพ้นไปจากความเคลื่อนไหวครั้งนี้
********"พร้อมจะสู้ไหมครับพี่น้อง--สู้!,กลัวตายไหมครับพี่น้อง--ไม่กลัว!"เสียงปราศรัยปลุกระดมอันเร่าร้อนผ่านวิทยุทรานซิสเตอร์ของครอบครัวนี้ดังลั่นบ้านทุ่งยามค่ำ
หลังจากซักถามไปมาก ในที่สุดทุกคนหันมาถามฉันว่า เรื่องจะจบยังไง ประชาชนเสื้อแดงจะชนะไหม อภิสิทธิ์จะยุบสภาหรือไม่ ทำไมผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองถึงไปแต่งานศพฝ่ายทหาร..จะมีบาดเจ็บล้มตายกันอีกไหม?..
ฉันได้แต่เงยหน้าขึ้นบนฟ้ายามราตรีปกคลุม
แสงดาววาวระยับกระพริบบนฟ้าเหนือท้องทุ่งชนบท เหมือนที่เคยเป็นมา และยังจะดำเนินไป