ที่มา Thai E-Newsไพร่กำพร้า-กลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงนำโลงศพสีแดงมาทำพิธีไว้อาลัย ก่อนจะเคลื่อนขบวนโลงศพไปทั่วกรุงเทพฯเพื่อให้ประชาชนร่วมไว้อาลัย (ภาพข่าว:AP)
โดย แนวร่วมคนเสื้อแดง
13 เมษายน 2553
การประกาศพระราชบัญญัติภาวะฉุกเฉินของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลหุ่นเชิดของระบอบอำมาตยาธิปไตย ได้เปิดฉากความรุนแรงของรัฐที่กระทำต่อการชุมนุมในยามค่ำคืนของคนเสื้อแดง ผู้ซึ่งยึดแนวทาง สันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ อย่างจิตใจเหี้ยมอำมหิต
เพียงเพื่อขอคืนพื้นที่ กระนั้นหรือ ?
ทั้งๆที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็รู้อยู่แก่ใจว่า คนเสื้อแดง ผู้ประกาศตนเป็นไพร่ จำนวนมากที่ยืนหยัดต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยนั้น ไม่ใช่ใครหน้าไหนๆจะจ้างเขามาอย่างง่ายๆ อย่างที่รัฐบาล โฆษณาชวนเชื่อกัน เพื่อทำลายความชอบธรรม
คนเสื้อแดง หาได้โง่ ไม่ได้ถูกซื้อ แต่พวกเขารักประชาธิปไตย พร้อมเสียสละได้ แม้แต่ชีวิตต่างหาก
พวกเขา จึงไม่ท้อถอย ไม่เกรงกลัวต่ออาวุธยุทโธปกรณ์ใดๆ ต่อกำลังของกองทัพใดๆทั้งสิ้น และความตายของประชาชน ผู้เรียกร้องประชาธิปไตยด้วยสองมืออันว่างเปล่า ก็เกิดขึ้นในที่สุด
ใครฆ่าประชาชน ?
ภายหลัง เหตุการณ์การปราบปรามคนเสื้อแดงครั้งนี้ ไม่ทันข้ามค่ำคืน นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังคงเมินเฉยที่จะรับผิดชอบ
นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังคงใช้โวหารสำนวนวาทศิลป์ว่า ขอแสดงความเสียใจ แต่บ้านเมืองต้องมีกติกา ต้องจัดการตามกฎหมาย
กฎหมายที่หมายกด ย่อมเป็นขบถต่อปวงชน กฎหมายที่ไม่ชอบธรรม ย่อมเป็นหมายกดขี่ประชาชน ใช่หรือไม่?
การชุมนุมของคนเสื้อแดง เป็นสิทธิเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย รัฐธรรมนูญ50 ที่มาจากอำนาจรัฐประหาร 19 กันยายน 49 ก็ยอมรับสิทธิการชุมนุม
ใครฆ่าประชาชน ?
ก่อนหน้านี้ ได้มีกลุ่มองค์กรหลายองค์กรหลายคน ทั้งด้านวิชาการ ด้านสิทธิมนุษยชน ด้านการพัฒนา ด้านสันติวิธี และอื่นๆ ที่เคยสนับสนุนระบอบอำมาตย์ ได้เคลื่อนไหวในหลายครั้งโดยการคัดค้านข้อเรียกร้องเป็นแนวร่วมมุมกลับให้รัฐบาลอภิสิทธิ์ทั้งตั้งใจและอ่อนหัดทางการเมือง โดยการนำเสนอ ปฏิรูปประเทศไทย โดยไม่ต้องคืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชนก่อน ไม่ต้องยุบสภาก่อน
องค์กรต่างๆเหล่านี้ ก็ยังคงคิดว่ารัฐบาลอภิสิทธิ์ มีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร มีความชอบธรรมที่อำนาจอำมาตย์อยู่เบื้องหลังรัฐบาลอภิสิทธิ์
แท้จริงแล้วองค์กรเหล่านี้จึงชื่นชมระบอบอำมาตยาธิปไตย มีความคิดความเชื่อว่า คนเราไม่เท่ากัน
องค์กรต่างๆเหล่านี้ มิใช่หรือ ? ที่นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ใช้เป็นเหตุผลอ้างอิงในการจัดการการชุมนุมคนเสื้อแดง
ใครฆ่าประชาชน ?
นานมาร่วมหลายปี ก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 องค์กรสื่อสารมวลชนจำนวนมาก เป็นกระแสหลักก็ว่าได้ ทั้งทีวีและสิ่งพิมพ์ ผู้มีอิทธิพลต่อการเมืองไทย มีกลไกในการสื่อสารเสนอข่าวสารเพื่อครอบงำประชาชนให้เชื่ออย่างที่ตนต้องการ มียุทธการ์บิดเบือน ใส่ร้ายทำลายความชอบธรรมของคนเสื้อแดงในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ให้เป็นเพียงการต่อสู้เพื่อทักษิณ
กล่าวหา คนเสื้อแดงไม่มีความรู้ ถูกจ้างมา ไม่เคยเสนอเลยว่า คนเสื้อแดงระดมทุนมาสู้ มีการจัดการเรียนรู้ มีโรงเรียนประชาธิปไตย และอื่นๆอีกมากมาย
ใครฆ่าประชาชน ?
ภายหลัง เหตุโศกนาฎกรรมครั้งนี้ เช้ามืดข่าวสารได้บอกว่า นักวิชาการ 303 คน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลการรักษากฎหมายของบ้านเมือง ยังจำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
นักวิชาการ 303 คน เหล่านี้ได้เคยเสนอไม่ให้รัฐบาลยุบสภา อ้างกันว่าไม่มีเหตุผล
คนเสื้อแดงบอกย้ำว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์เป็นกระบวนการต่อเนื่องมาจากรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 เป็นตัวแทนสืบทอดรักษาระบอบอำมาตยาธิปไตย จึงไม่ชอบธรรมแต่อย่างใดในการปกครองระบอบประชาธิปไตย
คนเสื้อแดง ต้องการให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ เพราะประชาชนคือเสียงสวรรค์อันแน่แท้
คนเสื้อแดงจึงต้องการให้ยุบสภา คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน
นี้คือเหตุผลของคนเสื้อแดง เหตุผลในระบอบประชาธิปไตย นักวิชาการ 303 คน ต่างหากที่ไม่มีเหตุผล
หรือว่า เหตุผลของนักวิชาการ ในทางวิชาการ เป็นเหตุลของอำมาตย์ ของระบอบอำมาตยาธิปไตย นั่นเอง
หรือว่า เหตุผลของ ไพร่ ต่างมุมกับ เหตุผลของ อำมาตย์
ยุบสภา คืนอำนาจอธิปไตยให้ประชาชน แล้วจะรู้กันว่า ประชาชนคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ชอบเหตุผลแบบไพร่ หรือแบบอำมาตย์ กันแน่
ใครฆ่าประชาชน ?
ใครคือทรราชย์? ใครมีส่วนช่วยทรราชย์ ? ใครเปิดทางให้ทรราชย์ ?