WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Friday, May 27, 2011

ผังล้มเจ้า

ที่มา โลกวันนี้

บทบรรณาธิการ

หาก ไม่มีการฟ้องร้อง ประชาชนก็คงไม่ได้ความจริง และอาจตกเป็นเหยื่อของขบวนการแบ่งแยกแผ่นดินที่ต้องการให้คนไทยเกิดความ เกลียดชังและเข่นฆ่ากันเองไปอีกนาน โดยเฉพาะการนำสถาบันเบื้องสูงมาเป็นเครื่องมือ ซึ่ง 5 ปีที่ผ่านมามีผู้ถูกกล่าวหาและจับกุมเรื่องสถาบันหลายร้อยคน สื่อต่างๆถูกปิดนับไม่ถ้วน

เช่นเดียวกับนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา และเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้ถอนฟ้อง พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ในคดี “ผังขบวนการล้มเจ้า”

หลังจากศาลได้ดำเนินการไกล่เกลี่ยและประนอมข้อ พิพาท โดย พ.อ.สรรเสริญได้ลงนามยอมความ แถลงยอมรับต่อศาลว่า ผังขบวนการล้มเจ้าเป็นแค่การโยงบุคคลต่างๆแต่ละคนเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร เช่น เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะญาติพี่น้อง เกี่ยวข้องสัมพันธ์กันในฐานะผู้ทำธุรกิจร่วมกัน อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งขณะนั้น (วันที่ 26 เมษายน 2553) พ.อ.สรรเสริญยืนยันว่า มิได้แถลงว่าบุคคลทั้งปวงที่ปรากฏในผังมีความสัมพันธ์ในฐานะขบวนการล้มเจ้า แต่ศอฉ. ในขณะนั้นเชื่อมั่นว่ามีขบวนการที่จ้องจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์จริง

ส่วน เอกสารที่แจกแก่สื่อมวลชนก็เพื่อให้สังคมพิจารณาและวินิจฉัยเอาเอง ซึ่งมีรายละเอียดอยู่ในเอกสารว่าแต่ละคนเกี่ยวข้องกันในฐานะอะไร แต่สื่อมวลชนนำเรื่องราวต่างๆไปขยายผล ขยายความ ซึ่งอาจส่งผลต่อผู้ที่เกี่ยวข้องในแผนผังให้ได้รับความเสียหายจากมุมมองของ สังคม ผู้ที่ได้รับความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ต้องไปฟ้องร้องกับผู้ที่นำไปขยายความ ในทางที่ผิดจากเจตนารมณ์ของ ศอฉ. เอง

คำแถลงเป็นลายลักษณ์อักษรของ พ.อ.สรรเสริญดังกล่าว จึงทำให้สังคมได้รู้ความจริงว่าผังขบวนการล้มเจ้าที่ถูกนำมากล่าวหาใส่ร้าย ป้ายสีกันมานานนับปีนั้น เป็นแค่ความเชื่อของ ศอฉ. จากสถานการณ์ในขณะนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจากหลักฐานและข้อมูลที่เป็นจริง แต่ผลที่ตามมานั้น ศอฉ. และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเกิดผลกระทบต่อสังคมโดย รวมอย่างกว้างขวาง

โดยเฉพาะประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ถูกคนบางกลุ่มนำมา ขยายผลในทางการเมือง เพื่อผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง แม้แต่รัฐบาลเองก็มีการนำเรื่องนี้มาตอกย้ำหลายครั้งหลายหน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่นำมาพูดในลักษณะว่ามีการเชื่อมโยงกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งวันนี้แกนนำและประชาชนนับร้อยถูกดำเนินคดีในเรื่องเกี่ยวกับสถาบัน ทั้งที่เรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรม