ที่มา Thai E-News
ทั้ง 3 มีสีหน้าผ่อนคลายใช้เวลานวดกว่า 1 ชั่วโมง แต่นายสาทิตย์ได้ลุกขึ้นออกจากการนวดเท้าก่อน นายจตุพรได้พูดแซวว่า จะรีบไปไหน และว่านี่แหล่ะนะประชาธิปไตย บ่งบอกให้เห็นว่าเสียงข้างน้อยเป็นอย่างไร ซึ่งนายสาทิตย์หัวเราะ และลุกมานั่งที่เก้าอี้อยู่ต่อสักระยะหนึ่ง ท่ามกลางสื่อมวลชนที่เฝ้าสังเกตบรรยากาศและถ่ายภาพที่มักไม่ได้เห็นบ่อยนัก ที่ ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาลที่นั่งอยู่ข้างๆ กันและพูดคุยอยอกล้อกันอย่างเป็นกันเอง(ภาพข่าว:มติชนนออนไลน์)
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
25 สิงหาคม 2554
เวทีใหม่ของ2สหาย-หลัง จากกรำศึกเสื้อแดงติดคุกติดตะรางมาด้วยกัน วันนี้ 2 สหายจตุพร กับณัฐวุฒิพากันเข้าไปทำหน้าที่ในสภา และทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์แดงได้อย่างเต็มภาคภูมิ
ดูจากคลิปต่อไปนี้
คดีหมิ่นทำลายคนดีๆและเป็นใบอนุญาตฆ่า-ส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ใช้สิทธิพาดพิงกรณีสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวหาส.ส.เสื้อแดงถูกดำเนินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยระบุว่าทักษิณก็โดนข้อหานี้ คนเสื้อแดงโดนออกใบอนุญาตฆ่า92ศพก็ข้อหานี้ ในอดีตดร.ปรีดี พนมยงค์ ต้องไปตายในต่างประเทศก็ข้อกล่าวหานี้
ลบเหลี่ยมมีดโกนจนเข้าตัว-ส.ส.ดร.สุนัย จุลพงศธร กับส.ส.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประท้วงลบเหลี่ยมมีดโกนของชวน หลีกภัย ที่ฉวยโอกาสปรักปรำทักษิณว่าสั่งฆ่า 3จังหวักดชายแดนภาคใต่ ซึ่งตอนท้าย(ไม่มีในคลิป)นายชวนต้องออกมาตอบณัฐวุฒิที่อภิปรายพาดพิงว่านาย อภิสิทธิ์สั่งฆ่าคนเสื้อแดง 92 ศพแต่ไม่ยอมรับ โดยบอกว่า"หากนายอภิสิทธิ์เป็นคนเกี่ยวข้องจริง ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ไม่มีใครอยู่เหนิอกฎหมาย"
พาดพิงลิงอุรังอุตังเสียหาย-ส.ส.จตุพร พรหมพันธุ์ อภิปรายกรณีที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ปชป.พาดพิงด้วยการเสี้ยมว่า พรรคเพื่อไทยหลอกลวงคนเสื้อแดง ในที่สุดไปจบด้วยเรื่อง"ลิงอุรังอุตัง"
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อภิปรายตอนหนึ่งว่า วันนี้พูดให้ตาสว่างว่า รัฐบาลที่บอกว่าประชาชนถูกกดขี่ แล้วมาแก้ปัญหาให้ประชาชนนั้น ก็คิดไม่ต่างจากรัฐบาลที่ถูกบอกว่าเป็นอำมาตย์เลย แถมยังคิดล้าหลังกว่าด้วย ซึ่งสิ่งที่กล่าวมานั้น เพื่อยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยกับกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงเป็นเนื้อเดียวกันตามที่ รองนายกฯพูดไว้เมื่อวานนี้ แท้จริงแล้วเป็นการสร้างวาทกรรม ซึ่งเป็นเทคนิคทางการเมือง หลอกลวงเรื่องอำมาตย์-ไพร่ และเรื่องของชนชั้น เพื่อเอาคนเหล่านั้นมาปูฐานรองรับการขึ้นสู่อำนาจของกลุ่มทุนในพรรค สุดท้ายกลุ่มเหล่านี้ก็สุขสบาย เสวยสุข และปล่อยให้พี่น้องไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาความยากจนต่อไป
เราไม่อยากให้วาทกรรมของนักการเมืองนั้น ถูกอธิบายในสภาว่าไม่มีสัญญา และเป็นแค่เทคนิคการหาเสียง เพราะนั่นคือการหลอกคนจน และเป็นบาปที่สุดในความเห็นของตน เพราะคนเหล่านั้นก้าวขึ้นมาสนับสนุนท่าน ไปกับวาทกรรมของท่านทั้งหลาย ซึ่งต้องไม่ทำให้วาทกรรมเหล่านั้นว่างเปล่า
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ใช้สิทธิ์พาดพิงว่า ตามที่นายสาทิตย์ บอกว่า พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงได้หลอกลวงพี่น้องประชาชนด้วยวาทกรรมคำว่า "ไพร่" และ "อำมาตย์" ตนมีสองสถานะทั้งเสื้อแดงและส.ส.พรรคเพื่อไทย การที่มาบอกว่านโยบายรัฐบาลไม่เป็นไปตามที่หาเสียงไว้ ไม่ได้ทำทันทีนั้น ข้อเท็จจริงคือการที่รัฐบาลจะทำงานได้ต้องผ่านการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไปก่อน แต่กกลับมีการสร้างเรื่องสร้างราวมาเล่นงานกัน ไม่ว่าจะเป็น รมว.ต่างประเทศ ทั้งที่วันนี้รัฐบาลยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ฉะนั้นวาทกรรมคำว่าไพร่-อำมาตย์ เป็นการอธิบายให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำจากการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลชุดที่ แล้ว
อย่างไรก็ตามพล.อ.ธีรเดช ประธานในที่ประชุมได้ขอให้นายจตุพรได้เข้าประเด็นเพราะเกรงว่าจะทำให้เกิด การประท้วงเยอะกว่านี้ แต่นายจตุพร ยืนยันว่า เป็นการใช้สิทธิ์พาดพิงและใช้เวลาของพรรคร่วมรัฐบาล ตนอดทนฟังนายสาทิตย์อภิปรายได้แล้ว ทำไมตนจะตอบโต้บ้างไม่ได้ ทำไมต้องทำเหมือนถูกน้ำร้อนลวกกันหมด
ทำให้นายเจ๊อามิง โต๊ะตาหยง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.ปัตตานี ต้องลุกขึ้นประท้วงประธานว่า เป็นการประท้วงไม่ใช่การอภิปราย
ซึ่งนายจตุพร ก็ได้ประท้วงว่า "ผู้ประท้วงคงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่อง" เพราะในฐานะสมาชิกรัฐสภาตนมีสิทธิ์ประท้วงเมื่อถูกพาดพิง
ทั้งนี้ นายเจ๊ะอามิงได้ใช้สิทธิ์ประท้วงขอให้นายจตุพรได้ถอนคำพูด เพราะตนไม่ใช่อุรังอุตังถึงฟังไม่รู้เรื่อง ซึ่งในที่สุดนายจตุพรได้ยอมถอนคำพูดว่า นายเจ๊ะอามิงไม่ใช่อุรังอุตัง ก่อนประธานในที่ประชุม จะให้สมาชิกรัฐสภาท่านอื่นได้อภิปราย