ที่มา ข่าวสด
เหล็กใน
สมิงสามผลัด
กรณีสภาการหนังสือพิมพ์ตั้ง น.พ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีมีอีเมล์พาดพิงสื่อรับสินบนนักการเมือง
ที่ ว่าประหลาดก็คือคณะอนุกรรมการชุดหมอวิชัยสรุปในรายงานตอนต้นว่าผู้ถูกกล่าว หาในเครือมติชน-ข่าวสด 2 รายไม่มีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่ามีความเอนเอียงให้กับพรรคการเมือง
ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอีก 1 รายก็ไม่ได้อยู่ในสังกัด
สรุปเข้าใจง่ายๆ ก็คือสอบแล้วไม่มีมูล !!
แต่คณะอนุกรรมการชุดนี้กลับระบุต่อไปอีกว่าการเสนอข่าวของมติชน-ข่าวสดเอนเอียง
ซึ่งเป็นคนละประเด็นกับกรณีอีเมล์
จับแพะชนแกะไปนับชิ้นโฆษณาของพรรคเพื่อไทยในมติชน-ข่าวสดบ้าง นับภาพข่าวในหน้า 1 ว่าลงรูปยิ่งลักษณ์มากกว่าอภิสิทธิ์บ้าง
แล้วก็มาสรุปดื้อๆ ว่ามติชน-ข่าวสดเอนเอียงเข้าข้างพรรคเพื่อไทย
ก็เลยงงว่ามันเกี่ยวอะไรกับกรณีที่มีการสอบสวนในตอนแรก
แต่พอเห็นจดหมายที่หมอวิชัยเขียนถึงนายอภิสิทธิ์เมื่อครั้งยังเป็นนายกฯ
ก็เลยหายงง !?
ยิ่งมารู้ว่าหลังหมอวิชัยแถลงรายงานชิ้นนี้ ก็รีบไปให้การกับกกต.ในวันรุ่งขึ้น
เอารายงานที่ยังไม่ผ่านการ"รับรอง"จากสภาการหนังสือ พิมพ์ ไปเป็นหลักฐานในคดีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นร้องพรรคเพื่อไทย
ถึงบางอ้อขึ้นมาทันที
เข้า ใจแล้วว่าทำไมจากกรณีอีเมล์ที่สรุปว่ามติชน-ข่าวสดไม่มีความผิด จึงกลับกลายเป็นการกล่าวหามติชน-ข่าวสดเอนเอียงเข้าข้างพรรคเพื่อไทย !?
ก็ไม่เป็นไร หากหมอวิชัยตั้งข้อสงสัยเรื่องการลงโฆษณาในมติชน-ข่าวสด
มันก็ตรวจสอบได้ว่าในช่วงเลือกตั้ง มีหลายพรรคการเมืองลงโฆษณา ไม่ได้เลือกลงเฉพาะบางพรรค
ที่สำคัญธุรกิจสื่อก็ชัดเจน
เครือมติชนทำธุรกิจนี้มากว่า 34 ปี อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ อยู่ในระบบ ตรวจสอบได้
ไม่เคยหมกเม็ด
ฉะนั้น จะตีความกันเองมั่วๆว่า"โฆษณา"คือ"สินบน"ไม่ได้
หากหมอวิชัยอยากจะตรวจสอบกันจริงๆ ก็ไม่ว่าอะไร
แต่ต้องตรวจสอบให้ครบถ้วน
หนังสือพิมพ์ที่ได้สัมปทานรัฐ ได้เวลาจัดรายการวิทยุ-ทีวี
ยิ่งได้มาในยุคที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ยิ่งต้องตรวจสอบให้ละเอียด
เอาให้ชัดว่าช่วงเลือกตั้งเชียร์พรรคไหน เอนเอียงหรือเปล่า
อย่า 2 มาตรฐาน
หรือสอบแค่ที่"ตั้งธง"ไว้เท่านั้น