ที่มา มติชน
|
เข้าสู่ฤดูกาลโยกย้ายนายทหารระดับนายพลประจำปี 2554 ในครั้งนี้มีความสำคัญไม่น้อยเพราะเป็นช่วงรอยต่อของการเมืองที่เปลี่ยนขั้ว
รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกต้องการความปรองดอง "แก้ไข ไม่แก้แค้น" ทำให้เชื่อว่าอย่างน้อยในปีนี้คงไม่แตะ "ผบ.เหล่าทัพ" โดยเฉพาะ "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. รวมถึง "บิ๊กเฟื่อง" พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. ผู้ถูกจัดอันดับยกให้เป็น "เบอร์หนึ่ง" ที่ยืนอยู่ตรงข้าม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
แม้จะไม่แตะ "ผบ.เหล่าทัพ" แต่ไม่ได้หมายถึงว่า ปล่อยให้รายชื่อที่เสนอขึ้นมาผ่านสะดวกโยธิน ดังเช่นสมัยรัฐบาลเทพประทานที่มี "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม
ทำให้ได้คำตอบว่าทำไม "พ.ต.ท.ทักษิณ" ได้เลือก "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา นั่งเก้าอี้ "รมว.กลาโหม" อย่างน้อยก็เป็น "นายด่าน" เขย่าโผทหาร คัดกรองให้ละเอียด และสกัดกั้น ผบ.เหล่าทัพ ในเบื้องแรกในการวางตัวผู้สืบทอดอำนาจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "6 เสือ ทบ." และเหล่าทหาร "บูรพาพยัคฆ์" ที่อยู่ในตำแหน่งหลัก หรือเตรียมเข้าสู่ตำแหน่งคุมกำลังรบ
บิ๊ก กองทัพเริ่มกังวลใจ เพราะในสมัย "บิ๊กอ๊อด" นั่งในตำแหน่ง "ปลัดกลาโหม" หรือ "รมช.กลาโหม" นั้นได้ชื่อว่าเป็น "จอมล้วง" ให้ "นายใหญ่" เป็นอย่างดี เรียกว่าขอให้ทำอะไร "ได้หมด" ไม่มีการคัดค้าน
"บิ๊กอ๊อด" พูดเป็นนโยบายกับ "ผบ.เหล่าทัพ" ว่า "ต้องให้ความเป็นธรรมทุกกลุ่ม จะเลือกแต่บูรพาพยัคฆ์ฝ่ายเดียวไม่ได้ ให้ดูที่ความรู้ความสามารถ ความอาวุโส ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าหากความเห็นของผมกับ ผบ.เหล่าทัพไม่ตรงกันก็จะต้องคุยกัน ...ในตำแหน่งปลัดกลาโหม ผมต้องเป็นคนเลือกเพราะต้องมาทำงานร่วมกับผม"
ตามรายงานข่าวโผโยก ย้ายที่ปรากฏตามสื่อ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม "บิ๊กหมู" พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องรักของ "ประวิตร" ได้เสนอชื่อ "บิ๊กออด" พล.อ.คณิต สาพิทักษ์ ประธานที่ปรึกษา กห.ขึ้นเป็น ปลัดกลาโหม แต่ทาง รมว.กลาโหมได้เลือก "บิ๊กอู๊ด" พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ รองปลัดกลาโหม "ตท.11" ขึ้นนั่งปลัดกลาโหม ที่ถือว่าเหมาะสมมีความอาวุโสและเป็นลูกหม้อเติมโตมาในสายงาน แต่ก็ยังมีข่าววิ่งเต้นของ "นักรบ-นักวิ่ง"
ส่วนกองบัญชาการกองทัพ ไทย "บิ๊กตุ้ย" พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. เพื่อนรัก "พ.ต.ท.ทักษิณ" ตัดสินใจเสนอชื่อ "บิ๊กเปี๊ยก" พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ประธานที่ปรึกษา บก.ทท. "ตท.11" ขึ้นเป็น "ผบ.สส." 1 ปีก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่อให้ชะลอ "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เสธ.ทหาร "ตท.12" แคนดิเดต เบอร์ 1 "ผบ.สส." รอไปปีหน้าเพราะมีอายุราชการอีกถึง 3 ปี
สำหรับกองทัพ เรือ (ทร.) "บิ๊กติ๊ด" พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. เพื่อน "ตท.10" ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" จะส่ง "บิ๊กหรุ่น" พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ที่ปรึกษาพิเศษ ทร. "ตท.13" ขึ้นเป็น "ผบ.ทร." ตามคาด ส่วนกองทัพอากาศ (ทอ.) ยังนิ่งเพราะ "บิ๊กเฟื่อง" เกษียณปีหน้า มีแค่ปรับเปลี่ยนภายใน ทอ.เท่านั้น แต่แค่ลุ้นว่าการเมืองจะแทรกแซงย้ายฟ้าผ่า "แม่ทัพฟ้า" แห่งทุ่งดอนเมืองหรือไม่
ขณะที่กองทัพบก (ทบ.) เก้าอี้ "6 เสือ ทบ." ที่จะว่างลง 3 ตำแหน่ง ทำให้ "บิ๊กตู่" จะขยับ "บิ๊กหนุ่ย" พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ "ตท.12" ขึ้นเป็น "รอง ผบ.ทบ." รวมถึงเลือกเพื่อนและน้องที่ไว้ใจหลายคนขึ้นมาทำงาน รวมถึงปรับเปลี่ยนนายทหารที่คุมกำลังรบหลายตำแหน่งด้วยกัน แต่ล่าสุด "ประยุทธ์" ได้ชี้แจงในที่ประชุม "มอร์นิ่งบรีฟ" ประชุมภาคเช้าของ ทบ. แล้ว "ผมยืนยันว่าจะยึดหลักความเป็นธรรม มีคณะกรรมการดูแลอยู่ แต่เมื่อบางคนเขาก็เป็นระดับรองๆ แล้วจะให้ย้ายไปไหน ก็ต้องให้เขา ไม่ใช่เพราะเขารุ่นผม แต่เพราะเขาขึ้นมาแล้ว"
ทำให้การประชุมสภา กลาโหมวันที่ 25 สิงหาคมนี้ วาระหารือโยกย้ายนายทหารระดับนายพล เป็นเรื่องที่สังคมจับตา เพราะต้องมีการกางรายชื่อในโต๊ะประชุมให้ "บิ๊กอ๊อด" สแกนละเอียดยิบ โดยยังไม่รวมถึงรายการ "คุณขอมา" จากฝ่ายการเมืองอีกหลายตำแหน่ง ที่ทำให้โผของ "ผบ.เหล่าทัพ" ส่งขึ้นมาต้องถูกเปลี่ยนแปลง
และหากตกลงกันไม่ได้ ก็อาจใช้ "ไม้ตาย" พ.ร.บ.จัดระเบียบของกระทรวงกลาโหม ที่ระบุว่า การโยกย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล อยู่ภายใต้คณะกรรมการ ตามมาตรา 25 ที่ประกอบด้วย 7 ตำแหน่ง คือ รมว.กลาโหม, รมช.กลาโหม, ผบ.สส., ผบ.เหล่าทัพ และปลัดกลาโหม ต้องมา "ยกมือโหวต" ตัดสินตำแหน่งที่ไม่ลงตัวเกิดขึ้น
หาก ปรากฏว่า "ทหารแตงโม" จะพาเหรดขึ้นมาได้ดิบได้ดี จากการเมืองเปลี่ยนขั้วครั้งนี้ ก็คงจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของ "ยุคบูรพาพยัคฆ์เริ่มอับแสง" ก็ว่าได้
(มติชนรายวัน 23 สิงหาคม 2554 หน้า11)