WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Tuesday, October 11, 2011

ธิดา ถาวรเศรษฐ:แนวร่วมของขบวนการประชาชน (ตอนที่ 1)

ที่มา ประชาไท

ธิดา ถาวรเศรษฐ
3 ต.ค. 54

การเติบใหญ่ของ นปช. และขวนการประชาชนคนเสื้อแดง แม้ดูเสมือนประสบความสำเร็จในการต่อสู้ และยิ่ง เมื่อได้เข้าร่วมรณรงค์และตรวจสอบการเลือกตั้งทั่วไป จนกระทั่งการเลือกตั้ง ผ่านพ้นมา แม้จะมีข้อบกพร่องผิดพลาด และการโกงกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็ผ่านมา ได้ และในที่สุดพรรคการเมืองที่ประชาชนส่วนใหญ่สนับสนุน ก็เอาชนะการเลือก ตั้ง ได้ตั้งรัฐบาล หลายส่วนก็มีทัศนะต่อการดำรงอยู่ของ นปช. และขบวนการเสื้อแดงที่แตกต่างกัน เพราะนี่เป็นก้าวย่างในยุคใหม่ ที่จำเป็น ต้องทำความเข้าใจ และการปรับองค์กรทั้งขบวน เพื่อรองรับการต่อสู้ในเป้าหมาย ทางยุทธศาสตร์ใหม่ หลังจากได้ประสบชัยชนะในเป้าหมายแรกทางยุทธศาสตร์ไป แล้ว คือโค่นล้มรัฐบาลอำมาตยาธิปไตยและจัดตั้งรัฐบาลจากประชาชนขึ้น

องค์ประกอบและบทบาทของ แกนนำ, มวลชน และแนวร่วมแบบต่าง ๆ จึงเป็นที่มาของการปรับกระบวนทัศน์ และกระบวนท่าใหม่ ในขบวนการ ประชาชน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกระทำจากสถานการณ์ใหม่ อันจะทำให้ขบวนการ ประชาชนเสียหายได้ จึงขอเสนอเรื่องราวของ “แนวร่วม” เพื่อร่วมเป็นส่วนใน การศึกษา ยกระดับ ปรับขบวนต่อไป

“แนวร่วม” โดยทั่วไปหมายถึง กลุ่มคน หรือ องค์กร ที่ร่วมกันทำการบางอย่าง โดยมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน มักใช้ในการต่อสู้ของ ประชาชนทางการเมือง เพื่อปลดปล่อยจากอำนาจเหนือกว่าที่ครอบครองประเทศนั้น ๆ เช่น จักรวรรดินิยม หรือผู้ปกครอ’งในประเทศ เช่น เผด็จการ ขุนศึก หรือ ระบอบศักดินา

บางทีระหว่างกลุ่มต่อกลุ่มในการต่อสู้เรียกเป็น “พันธมิตร” นี่เป็น ลักษณะความผูกพันระหว่างคนต่อคน กลุ่มต่อกลุ่ม แต่ไม่เป็นการต่อสู้ของ ประชาชนก็ได้ เช่น พันธมิตรทางการค้า ทางธุรกิจ หรือผล ประโยชน์ หรือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ชื่อก็เน้นว่าเป้าหมาย คือ ประชาธิปไตยและต่อต้านเผด็จการ พัฒนาจากการจับมือหลวม ๆ ร่วมมือเฉพาะกิจเช่น การชุมนุม ให้เป็นองค์กร มีการนำและการจัดตั้งระดับ หนึ่ง พัฒนามามีหลักนโยบาย ยุทธศาสตร์ เป้าหมายทางยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี มี ผู้ปฏิบัติงานมวลชน และองค์กรจัดตั้งที่ทำงานต่อเนื่อง

เมื่อบรรลุเป้าหมายทางยุทธศาสตร์เบื้องต้น เป็นธรรมชาติที่จะมีการแตก แยก เพราะคนจำนวนหนึ่งถือว่าบรรลุเป้าหมายแล้ว (ของกลุ่มตน) เช่น นปช. มียุทธศาสตร์เบื้องแรกคือ โค่นล้มรัฐบาลอำมาตยาธิปไตย เมื่อพบว่าเลือกตั้ง ได้ชัยชนะ คนจำนวนหนึ่งก็พึงพอใจที่บรรลุเป้าหมายนี้ และเลือกที่จะเดินเส้น ทางของอำนาจรัฐ ไม่ประสงค์ ที่จะเดินเส้นทางของประชาชนอีกต่อไป กระทั่ง พยายามสร้างอุปสรรค์ขัดขวางเส้นทางประชาชนที่ก้าวต่อไป อาจเกิดจากความเข้า ใจผิดว่า อำนาจรัฐเป็นของกลุ่มตนแล้ว หรือ กลัวความขัดแย้งระหว่างอำนาจเดิม กับอำนาจรัฐได้ใหม่ และกลัวความขัดแย้งระหว่างอำนาจรัฐได้ใหม่กับ ประชาชน จึงเป็นธรรมชาติที่จะมีแกนนำของแนวร่วมการต่อสู้เย็นชา เพิกเฉย ต่อ ต้านการขับเคลื่อนของประชาชน

ในยามได้อำนาจรัฐชั่วคราว เราจะทำอย่างไรกัน ?

1. เข้าใจธรรมชาติขององค์ประกอบแนวร่วมว่ามีเป้าหมายแตกต่างกัน เป้าหมายต่อไป คือยกเลิกรัฐธรรมนูญ 50 และผลิตผล คมช. เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน อาจมีบางกลุ่มไม่เห็นด้วย (หรือมัวพะวง กับอำนาจรัฐที่ได้มาใหม่) ว่าการขับเคลื่อนในเป้าหมายยุทธศาสตร์ใหม่จะให้ผล ประโยชน์มากน้อยเพียงไร ผลตอบแทนตนเองคุ้มค่าไหม?

2. มีสิ่งเก่าหายไป มีสิ่งใหม่เข้ามา เช่น ได้ปัญญาชน ชนชั้นกลาง สื่อ และข้า ราชการทหาร พลเรือนมาร่วมด้วย เช่น องค์กรประชาชนอื่น ๆ เกี่ยวกับการสืบค้น คนตาย บาดเจ็บ จับกุมคุมขัง การช่วยเหลือผู้ถูกปราบ ปราม จับกุมคุมขัง หรือล่าสุดคณะนิติราษฎร ที่โดดเด่นเสนอสิ่งใหม่ใน สังคม ให้ลบล้างผลการรัฐประหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งอันเนื่องมาจากกฎหมายและคำ สั่ง หรือในรัฐธรรมนูญชั่วคราวของ คมช. ก็จะกลายเป็นแนวร่วมทางยุทธศาสตร์ใหม่ที่สำคัญ

3. องค์กรแนวร่วมต้องปรับให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ใหม่ ยุทธศาสตร์ใหม่ เป็น องค์กรและปัญญาชน ชนชั้นกลาง โดยมีแนวรบด้านกฎหมายเป็นหลัก จากจุดเด่นรากหญ้าซึ่งเป็นจุดแข็งของขบวน และมีจุดอ่อน ปัญญาชน ชนชั้น กลาง สื่อ เราจึงต้องแก้จุดอ่อน เพื่อสร้างจุดแข็งด้านวิชาการ มารองรับขบวน ให้มากขึ้น

แล้วจะรับมือกับรอยต่อระหว่างเป้าหมายยุทธศาสตร์เดิมและใหม่อย่างไร ?

1. อธิบายให้ผู้ปฏิบัติงานและมวลชนเข้าใจการขับเคลื่อนขององค์กรประชาชน ตามเป้าหมายยุทธศาสตร์แต่ละขั้นตอน

2. ปรับปรุงองค์กรและการนำให้ทันและสอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ทางยุทธศาสตร์

3. เร่งจัดการศึกษาทั่วทั้งขบวนและประชาชนทั่วไป ถึงบทบาทของประชาชนในยุทธศาสตร์ขั้นใหม่

แนวร่วมในองค์กรและแนวร่วมนอกองค์กร

- ในองค์กรแนวร่วมจัดเป็นแนวร่วมชั้นใน

- นอกองค์กรแนวร่วมจัดเป็นแนวร่วมชั้นนอก

แนวร่วมชั้นในในองค์กร ยามมีการต่อสู้ที่แหลมคมจะเป็นอันตรายที่สุด ทำ ให้องค์กร ขาดเอกภาพ ขาดลักษณะสู้รบ จะเป็นจุดอ่อนที่ถูกทำลาย ยกเว้น แนวร่วมชั้นใน ขององค์กรปฏิวัติประชาชน ที่นำโดยพรรคปฏิวัติก็จะนำพาแนวร่วมชั้น ใน คือ กลุ่มแกนนำขององค์กรแนวร่วมไปได้ แต่ แนวร่วมชั้นในขององค์กรแนวร่วม ประชาธิปไตย ยังไม่สามารถสร้างเอกภาพเช่นนั้นได้ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ก็อาจ จะแตกแยกกันได้ ถ้าพรรคการเมืองที่ร่วมกันไม่เดินแนวทางมวลชน และทำเพื่อมวล ชนอีกต่อไป หรือมีผลประโยชน์ขัดแย้งกับผลประโยชน์มวลชน

แนวร่วมชั้นนอกองค์กร เช่น กลุ่มสหภาพแรงงาน กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มสื่อ กลุ่มทุน SME นักเขียน สื่อ กลุ่มข้าราชการ ทหาร พลเรือน สมาชิกพรรคการ เมือง วุฒิสมาชิก ฯลฯ แนวร่วมชั้นนอกไม่อาจเรียกร้องวินัยได้ แต่แนวร่วมชั้นในจำเป็นต้อง เรียกร้องวินัยองค์กร

แนวร่วมชั้นนอกนั้นเกิดโดยธรรมชาติ ไม่เกิดจากการแต่งตั้งของ นปช. แต่อย่างใด (โปรดเข้าใจด้วย สำหรับท่านที่เข้าใจผิดว่า นปช. ไปตั้งคณะนิติราษฎรเป็นแขนซ้าย) นี่เป็นบทบาทที่เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องขอ จากใคร เพราะบทบาทของผู้รักประชาธิปไตย รักความเป็นธรรมนั้น ไม่มีใครกำหนด ให้กลุ่มใดทำหรือไม่ทำ แนวร่วมชั้นนอกตลอดจนประชาชนทั่วไป จึงเป็นอิสระใน การเคลื่อนไหว และอยู่นอกเหนือเจตจำนงค์ขององค์กรใด ๆ


(ยังมีต่อ)