ที่มา Thai E-News
เมื่อค่ำวันที่ 9 ต.ค. นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ถึงสถานการณ์ความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ได้รับรายงานจากอธิบดีกรมชลประทานว่า ปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคกลางตอนบนเริ่มมีแนวโน้มลดน้อยลง ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะยังคงสูงอีกไม่มากนัก
โดยคาดว่าจะมี ระดับน้ำสูงสุดที่จังหวัดนครสวรรค์ในช่วงวันที่ 12- 13 ตุลาคม 2554 ประมาณ 4,800 - 4,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะทรงตัวอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจะเริ่มลดลงอย่างช้าๆ ทั้งนี้ระดับน้ำในลำน้ำเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา จะสูงขึ้นจากปัจจุบันทุกจุดประมาณโดยเฉลี่ยไม่เกิน 20 เซนติเมตร ขอให้ผู้เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำ และเฝ้าระวังเสริมคันกั้นน้ำให้มั่นคง เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะเพิ่มขึ้นด้วย
สำหรับพื้นที่ที่ต้องเฝ้า ระวังอาจได้รับผลกระทบเกิดปัญหาน้ำท่วมเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ได้แก่ บริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่บริเวณอำเภออุทัย อำเภอบางปะอิน อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่น้ำจากแม่น้ำป่าสัก และแม่น้ำเจ้าพระยา จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่จะไหลต่อเนื่องลงมา ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารการแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยว ข้องอย่างใกล้ชิดต่อไป
ส่วนการเตรียมความพร้อมป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ กรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตกมีสถานีสูบน้ำ 188 แห่ง ประตูระบายน้ำ 214 แห่ง ทางกรุงเทพมหานคร จะเร่งเตรียมรับน้ำพร้อมที่จะระบายได้ ส่วนบริเวณด้านตะวันออกตอนใต้ ของ กทม. บริเวณสุวรรณภูมิ เมื่อมีน้ำเข้ามาจะใช้คลอง 5 แห่ง คือ คลองหนองงูเห่า คลองบางโฉลง คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต คลองจรเข้ใหญ่ คลองลาดกระบัง เพื่อรับน้ำออกสู่ทะเล โดยตอนล่างจะมีสถานีสูบน้ำ 8 แห่ง ทำหน้าที่ผลักน้ำที่เข้ามาทั้งหมดลงสู่ทะเล ซึ่งทั้งหมดนี้ได้สั่งให้มีการเตรียมการให้ขุดลอกคลองดังกล่าว ให้แล้วเสร็จจากเดิมประมาณ 1 เดือน ให้เร่งดำเนินการภายใน 7 - 10 วัน โดยระดมสรรพกำลัง ทั้งทหาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ และได้ให้มีการเตรียมความพร้อมของเครื่องสูบน้ำทั้ง 8 แห่ง ไว้รองรับ เรียบร้อยแล้ว
สำหรับประชาชนที่อาศัยในกรุงเทพมหา นคร บริเวณนอกแนวคันกั้นน้ำ และบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาถือว่า เป็นกลุ่มเสี่ยง ขอให้เตรียมตัวขนย้ายทรัพย์สินมีค่า สิ่งของที่จำเป็นออกนอกพื้นที่ และให้เฝ้าติดตามสถานการณ์จาก ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ. เป็นระยะๆ
ทั้ง นี้รัฐบาลอยากขอความร่วมมือจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ทั้งภาครัฐและเอกชน ตลอดจนเคเบิ้ลทีวี เครือข่ายสังคมออนไลน์ SocialMedia ช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารจาก ศปภ. ต่อไปด้วย
ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้มีการปรับแผน และมาตรการทำงานของ ศปภ. ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งในวันนี้ ได้ให้มีการตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมให้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าสามารถป้องกันได้ให้หาวิธีการป้องกันเต็มที่ โดยสามารถร้องขอการสนับสนุนจาก ศปภ. ได้ตลอดเวลาโดยได้แบ่งประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สามารถป้องกันได้ และกลุ่มที่ไม่สามารถป้องกันได้
โดยกลุ่ม ที่ไม่สามารถป้องกันไม่ให้น้ำท่วมได้ เนื่องจากเป็นเหตุสุดวิสัย ก็ขอให้ประชาชนอพยพจากพื้นที่ไปพักที่สถานที่ทางราชการจัดให้ ซึ่งทางฝ่ายประชาสัมพันธ์จะได้แจ้งให้ประชาชนทราบว่า มีที่ใดบ้าง เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะใช้ที่ศาลากลางจังหวัด หรือที่บริเวณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ขณะที่ได้มอบหมาย ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน เข้าไปป้องกันน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ และนิคมอุตสาหกรรมอื่นให้ได้ หากได้รับความเสียหายจะทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง สำหรับนิคมอุตสาหกรรมโรจนะนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่า โรงงานที่จมน้ำคือบริเวณเฟส 1 ซึ่งอยู่ระหว่างการกู้ให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ ส่วนเฟส 2 และ 3 จากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีปัญหาน้ำท่วมแต่อย่างใด
อย่าง ไรก็ตาม ขอให้ประชาชนไม่ต้องตระหนกตกใจหรือหวาดหวั่นกับข่าวลือต่างๆ ที่เกิดขึ้น รัฐบาลจะชี้แจงให้ประชาชนทราบผ่าน ศปภ. เป็นระยะๆ และขณะนี้รัฐบาลได้รับทราบ และเข้าใจปัญหาจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดีและ จะได้ประมวลมากำหนดเป็นมาตรการเยียวยา และฟื้นฟูประชาชน และผู้ประกอบการที่ประสบอุทกภัยต่อไป รวมถึงการแก้ไขปัญหาฟื้นฟูในระยะยาว แม้ว่า จะมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูง แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องทำเพื่อมิให้มีผลกระทบในระยะยาวต่อไป
สั่งกองทัพเปิดค่ายตั้งศูนย์ช่วยผู้อพยพน้ำท่วม
นายกฯ กล่าวว่า บางจังหวัดจะมีพื้นที่เสี่ยงภัยนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ประจำการหากมีน้ำเข้าถึงก็พร้อมที่จะอพยพโดยทหารอากาศและทหารเรือ
เมื่อ ถามว่าพื้นที่รองรับประชาชนคือค่ายทหารใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ จะให้เข้าพักในค่ายทหาร แต่ขอประชาสัมพันธ์ว่า หากเอกชนมีสถานที่สูงและปลอดภัยที่จะใช้เป็นค่ายอพยพ ขอให้แจ้งมา เพราะวันนี้จ.อยุธยาเต็มแล้ว จึงจะขนย้ายผู้อพยพไปจังหวัดอื่นที่น้ำไม่ท่วม
และขอความกรุณาอีกว่าผู้ที่ประสงค์จะบริจาคสิ่งของไปยังประชาชนที่ ประสบภัยหากเป็นไปได้ขอให้ติดต่อมายังศูนย์กลางก่อน เพราะบางพื้นที่ประกาศไปแล้วประชาชนไปรอที่ถนน และไม่ทราบว่าจะส่งให้จุดใดจนเจ้าหน้าที่ทำงานลำบากและมีปัญหาจราจร
จึง ขอให้แจ้งมาว่าจะให้ไปช่วยเหลือในจุดใด เราจะไปช่วยเหลือในจุดนั้นให้ แต่เบื้องต้นนั้นสามารถไปรวมที่ศูนย์อพยพได้เลยและจะมีเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ควรไปสิ่งจุดใดและวันนี้เส้นทางรถนั้นใช้ไม่ได้แต่จะใช้เส้นทางเรือแทน