ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
นึกไปนึกมาก็แปลก
เรื่องที่พรรคเพื่อไทยออกมาจุดพลุเสนอแก้ไขพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม
ปรากฏ ว่าพลุที่จุดทำให้พรรคการเมือบางพรรคออกอาการเดือดเนื้อร้อนใจ ทั้งหล่อใหญ่ หล่อไม่ใหญ่ รวมถึงหล่อไม่เสร็จ ต่างเรียงหน้าออกมาปกป้องกฎหมาย"ผลไม้พิษ"
ชนิดกองทัพเองยังไม่"เว่อร์"เท่า
แต่นักการเมืองย่อมดูกันออกว่า การออกมาปกป้อง"ผลไม้พิษ" ไม่มีอะไรมากกว่าต้องการ"เสี้ยม"ให้รัฐบาลแตกคอกับผู้นำทหาร
อย่าง เช่นตอนนี้จะเห็นฝ่ายตรงข้ามฉวยโอกาสขณะประเทศประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ ประโคมข่าวผ่านสื่อในเครือข่ายว่ารัฐบาลเพื่อไทยมุ่งแต่เรื่องแก้พ.ร.บ. กลาโหม
มากกว่าเรื่องแก้น้ำท่วม
ไม่ก็ในทำนองว่า ขณะที่กองทัพส่งกำลังพล อุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือออกไปปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนผู้เดือด ร้อน แต่รัฐบาลเพื่อไทยกลับจ้องหาจังหวะ
เข้ามายึดอำนาจกองทัพ
หนำ ซ้ำล่าสุดยังได้เสนอให้รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ประสบภัย พิบัติ โดยรู้อยู่แล้วว่าถึงอย่างไรรัฐบาลเพื่อไทยไม่ทำตามข้อเสนอนี้แน่
เมื่อ รัฐบาลไม่ทำตามก็นำเรื่องไปขยายผลทันทีว่า รัฐบาลไม่ยอมประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินทั้งที่เห็นตำตาว่าประชาชนและประเทศชาติ กำลังตกอยู่ในภาวะฉุกเฉิน
ก็เพราะหวาดระแวงทหารจะฉวยโอกาสคิดร้ายต่อรัฐบาล
ว่าเข้าไปนั่น
ทั้งๆ ที่นายกฯยิ่งลักษณ์และรัฐบาลชี้แจงชัดเจนแล้วว่า ถึงสถานการณ์น้ำท่วมจะหนักหนาสาหัสเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ไม่เห็นความจำเป็นว่าจะต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
เพราะอำนาจ ตามพ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่นายกฯ และรัฐบาลใช้อยู่ตอนนี้ รวมถึงการตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรือศปภ. เพื่อแก้ปัญหาแบบบูรณาการครบวงจร
น่าจะ"พอดี"กับสถานการณ์มากกว่า
อีก ทั้งภาพที่ออกมาทุกวันนี้ เหล่าทัพก็ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลอย่างดี ไม่มีอิดออด รัฐบาลก็ไม่ได้หวาดระแวงทหารที่ออกมาช่วยน้ำท่วม เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วพ.ร.ก.ฉุกเฉินจึงเป็นเรื่องเกินความจำเป็น
สมควรปล่อยให้คนเสพติด"อำนาจพิเศษ"จนเคยตัว
บ้าน้ำลายไปคนเดียว