"สิ่งสำคัญอยู่ที่ใจที่เป็นกุศล มีเมตตา หยุดรักษาฟอร์ม ต้องทำจริง"
จับอารมณ์จากประโยคตบท้ายข้อความที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทวิตฯ ผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์แบบยาวเหยียด หลังจากห่างหายไปนาน
ตามอาการของคนแบไต๋ หงายไพ่เล่นกันแล้ว
และในคิวเดียวกันนี้ อดีตนายกฯทักษิณยังได้แสดงจุดยืน แยกเป็นรายข้อให้เห็นชัดๆ
1. ประณามการก่อความไม่สงบและการสร้างสถานการณ์ใดๆ เพื่อความสันติและความมั่นคงของชาติ
2. ประณามการแอบอ้างสถาบันเพื่อประโยชน์ทางการเมืองและประโยชน์แห่งตน ตลอดจนประณามผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์สถาบันในทุกรูปแบบ ทั้งนี้ สถาบันฯทรงอยู่เหนือการเมือง
3. ขอวิงวอนให้ทุกสี ทุกพรรค ทุกฝ่าย เลิกรักษ์หน้ารักษ์ตา โดยพูดเอาความดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น หยุดพูดให้เพิ่มความขัดแย้ง ขอให้มองสู่อนาคตของชาติและลูกหลานร่วมกัน
4. ขอให้เกิดการเยียวยาแก่ผู้ที่ต้องรับเคราะห์กรรมจากความขัดแย้งครั้งนี้ทุกฝ่าย ไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งตาย บาดเจ็บ หรือบาดเจ็บสาหัสอย่างเหมาะสม
เคลียร์เงื่อนไข ปลดล็อกชนัก ปูทาง "ปรองดอง"
แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับการกระทำที่มาพร้อมกับคำพูด โดยความเคลื่อนไหวล่าสุด นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ได้แถลงลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ อดีตรองนายกฯและอดีต รมว.มหาดไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน
ตามสัญญาณจากแดนไกล
ว่ากันว่า ด้วยเหตุผลที่ผู้ใหญ่ในพรรคต้องการยืนยันให้เห็นว่า พล.ต.อ.โกวิทมีภาพของความจงรักภักดีต่อสถาบัน คุณสมบัติเดียวกับอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช
และก็เป็น พ.ต.ท.ทักษิณที่ทาบทาม พล.ต.อ.โกวิทด้วยตัวเอง
กระตุกภาพจงรักภักดี ในจังหวะเล่นเร็ว ไฟต์บังคับ "นายใหญ่" ต้องรีบตีไพ่แต้มสำคัญ เพื่อกระตุ้นความมั่นใจของลูกข่ายพรรคเพื่อไทย อุดแผลไม่ให้เลือดไหล
พร้อมๆไปกับการเดินหน้าแสดงความจริงใจกับฝ่ายคุมเกมประเทศไทย
รับ "สัญญาณพิเศษ" ปรองดอง
ตามจังหวะต้องฝ่าด่าน ผจญแก๊งเจาะยางข้างทาง ก่อนจะถึงธงที่หมาย
ก็อย่างที่เห็นทันทีทันควัน แค่แว่วๆชื่อของ พล.ต.อ.โกวิท แปะข้างฝาว่าที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ ตามจังหวะแสดงความจริงใจปรองดองของ "นายใหญ่"
ระเบิดเกลื่อนเลย
ค่ำวันที่ 9 กันยายน มีข่าวเจอระเบิดลอบวางไว้ในห้างสรรพสินค้าดัง ย่านงามวงศ์วาน ในห้วงเวลาไล่เลี่ยๆ ระยะทางไม่ห่างกันเท่าไหร่ พบระเบิดที่ลานจอดรถ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก่อนหน้านั้นอีกลูกที่บริเวณหน้าโรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย
เป็นระเบิดซุกถังดับเพลิงทั้ง 3 จุด บ่งบอกเป็นฝีมือแก๊งเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันได้ระเบิด เพราะเจ้าหน้าที่ตรวจพบก่อน และถอดชนวนทัน โดยรูปการณ์แค่สร้างสถานการณ์ "ขู่"
ไม่รู้มาจากทิศทางใด
เพราะทางหนึ่ง "เทพเทือก" นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ก็เพิ่งนั่งเป็นประธานประชุม ศอฉ. ในช่วงเย็นวันที่ 8 กันยายน ก่อนที่ "เสธ. ไก่อู" พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. จะแถลงหน้าเครียด แบไต๋เป็นนัย จะไม่มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในกรุงเทพฯ
เพื่อเป็นการป้องกันเหตุรุนแรงที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ แม้จะไม่มีการชุมนุมอย่างชัดเจน แต่เป็นที่ประจักษ์ทางข้อมูลข่าวสารว่า มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง ทั้งเหตุยิงเอ็ม 79 และเหตุลอบวางระเบิดอยู่ตลอดเวลา
เข้าเหลี่ยมสร้างสถานการณ์ หวังคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
แต่อีกมุมหนึ่งก็ตัดไปเลยไม่ได้ พวกพลาดหวังในพรรคเพื่อไทย และหน่วยฮาร์ดคอร์ที่แอบแฝงเครือข่ายเสื้อแดง ที่ไม่พอใจกับการเดินแต้มปรองดองของ "นายใหญ่" โดยมอบธงให้ พล.ต.อ.โกวิท นำขบวน
ตามเกมเลยต้องอาละวาดป่วนเมือง
เรื่องของเรื่อง เหตุเกิดในห้วงกระแสปรองดองมีการขานรับจากทุกภาคส่วน เกมป่วนก็ต้องเล็งไปที่พวกจ้องหาผลประโยชน์บนความแตกแยก ทั้งพวกที่เสวยสุขในฝ่ายถืออำนาจและพวกที่เกาะกินนายใหญ่
เพราะจบเมื่อไหร่ จะหมดความหมายทันที.
ทีมข่าวการเมืองรายงาน