ที่มา บางกอกทูเดย์
เมื่อโลกทั้งใบได้เห็นภาพนี้..
ภาพที่ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของญี่ปุ่น นาย คัตสึยะ โอคาดะ ยืนคำนับนาย ฮิโรยูกิ มูราโม
พลเมืองของเขาที่เป็นช่างภาพทำงานให้กับรอยเตอร์ส..พร้อมทั้งวางพวงดอกไม้ เพื่อไว้อาลัยศพ
ด้านข้างโรงเรียนสตรีวิทย์ ใกล้กับ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
เหมือนจะบอกว่า “ภาพเดียวสามารถแทนคำพูดคำอธิบายมากกว่าพันคำ”
และภาพนี้นี่เองที่ทำเอาคนญี่ปุ่นสะเทือนใจไปทั้งประเทศ..
บางคนถึงน้ำตาซึม วางตะเกียบลงบนโต๊ะอาหารทันทีทั้งที่กำลังจะคาบปลาดิบใส่ปากอยู่รอมร่อ
บ่งบอกอารมณ์ว่า“กินข้าวไม่ลง”!!
ในขณะเดียวกันเมื่อภาพนี้ได้ถูกกระจายส่งออกมาจากทุกสื่อ
ทำให้ “รัฐบาลไทย” เท่ากับโดนตบหน้า ในการที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ว่าพื้นที่ตรงนั้นมีคนตาย!!
“เบื้องหน้าภาพ” ยังสลดกันขนาดนี้ “ข้างหลังภาพ” จะสาหัสขนาดไหน!!
เพราะเพิ่งจะงัวเงียออกมาบี้กันเมื่อเร็วๆ นี้ด้วยการสั่งให้ ดี.เอส.ไอ.แต่งตั้ง ทีมงานสืบสวนที่มีคนตาย..
คนตายน่ะมีอยู่แล้ว..แต่คนที่ทำให้ตาย น่ะยังหาไม่เจอ??
นี่ถ้า “รัฐมนตรีญี่ปุ่น” ไม่มายืนคำนับศพคนของเขา..
ก็คงเหมือนเดิมคือ บ่ฮู้ บ่หัน บ่เห็น บ่ฮ้อง ประหนึ่งว่าไม่มีความ“ร้อน-หนาว” เกิดขึ้นในประเทศนี้
“ญี่ปุ่น” กับ “ไทย” ได้เอื้ออารีย์ ต่อกันมาโดยตลอด
ทั้ง “ความรัก”และ “ความสัมพันธ์” อันเคยมีมาแต่ในอดีตให้เป็นที่จดจำกันได้หลายเรื่อง..
ดูหยั่ง โกโบริ กับ อังศุมาลิน..ที่มาเป็น “คู่กรรม” กันทำเอาคนไทยน้ำตาไหลพราก..
เมื่อครั้งที่ “เบิร์ด” กับ กวาง “กมลชนก” จับคู่กันทางช่อง7สีเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว
ดังนั้นจะให้คนของเขามานอนกลิ้งนอนหงายตายฟรีๆ ในบ้านเราได้ยังไง
สุภาษิตญี่ปุ่นกล่าวไว้ว่า อาหลี่ ปุ๊ง อาหลี่ซ่า อาโน๊ะเน๊ะ
แปลเป็นไทยว่า “ถ้าไม่ได้ถามต้องอายไปทั้งชีวิต”
ญี่ปุ่นนี่ก็พิลึกเป็นคนชอบ “ขี้สงสัย” และก็อยากจะ “รู้” ในสิ่งที่เราต้องการจะ “ปกปิด”..
อันผิดกับคนในบ้านเราขนาดคำว่า “อาย”แทบจะสะกดกันไม่เป็นอยู่แล้ว
เพราะงั้น!..ทุกวันนี้เราก็เลยอยู่กันอย่าง ทนๆ ด้านๆ หนาๆ แข็งๆ..
เข้าตำราที่ว่า “ด้านได้- อายอด” นั่นแหละ!!