ที่มา ข่าวสด
คนจำนวนไม่น้อยในสังคมติดตามความคืบหน้าของข้อเสนอเรื่องการหันหน้าเข้า หากัน เพื่อเริ่มการเจรจาหาทางลดความขัดแย้งในสังคมไทย ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ ด้วยใจจดจ่อ
เพราะทุกคนทุกฝ่ายต่างตระหนักอยู่แก่ใจ ว่าปล่อยให้ความขัดแย้งแตกแยกที่เป็นอยู่เดินหน้าต่อไปเป็นรอยร้าวที่แยกถ่างกว้างยิ่งขึ้นในสังคม มีแต่จะส่งผลเสียหายให้กับสมาชิกทั้งหมดของสังคม
ถ้าตระหนักถึงความจริงที่ว่า ไม่ว่าจะเป็นสงครามใดๆ ก็ตาม ฉากสุดท้ายย่อมต้องจบลงด้วยการเจรจา
ยิ่งจะต้องร่วมกันสนับสนุนให้เกิดความคืบหน้าที่เป็นรูปธรรมในข้อเสนอ ดังกล่าวนี้
แม้สุดท้ายผลการเจรจาคือความล้มเหลว ไม่สามารถหาข้อยุติหรือตกลงกันได้ แต่อย่างน้อยความจริงใจและความพยายามในการแก้ปัญหา ย่อมดีกว่าการสาดน้ำมันเข้ากองไฟอย่างแน่นอน
และไม่จำเป็นว่าการเจรจาจะต้องประสบผลสำเร็จระดับที่มีผู้คาดการณ์ไกลไปถึงรัฐบาล แห่งชาติ
เพียงแต่สามารถลดบรรยากาศของการเผชิญหน้า ลดความขัดแย้งอันไม่จำเป็นที่ไม่ใช่สาระ อันเนื่องมาจากการใช้วาจาเข้าถากถางเหน็บแนมกัน ก็ยังต้องถือว่าเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่แล้ว
เพราะความสำเร็จที่แท้จริงก็คือการเริ่มลงมือแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อยาวนาน
มิใช่เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอยู่ต่อไป
ในภาวะที่ปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อต่อไปมีแต่จะสร้างความเสียหายให้กับทุกคนทุกฝ่าย เป้าหมายของการเจรจาจึงควรจะต้องอยู่ที่การแก้ไขปัญหาและทุกข์ของส่วนรวม
และเป็นธรรมชาติของการเจรจาที่จะต้องมีฝ่ายได้และฝ่ายเสีย หรือต่างฝ่ายก็ต่างได้และต่างเสีย
แต่สังคมที่เฝ้าจับตามองและแสดงความประสงค์จะให้ความเป็นปกติกลับคืนสู่ชีวิต ย่อมสามารถจะร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ว่าต้องการให‰ปัญหาคลี่คลายลงไปในทิศทางใด
ฉะนั้น ถ้าจะมีการเจรจาเกิดขึ้นจริง การเจรจานี้ก็ควรดำเนินไปอย่างเปิดเผย และเปิดโอกาสให้กลุ่มต่างๆ ในสังคม
ได้มีสิทธิ์มีส่วนในการร่วมแก้ปัญหาของตนเองด้วย
เพื่อไทย
Wednesday, September 8, 2010
หนทางราไฟ
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ