ที่มา ข่าวสด
เวลา 10.00 น. วันที่ 21 ต.ค. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า ที่ ศปภ. ดอนเมือง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.) ผู้ว่าฯ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับแผนการทำงานแก้ไขปัญหาอุทกภัยให้เป็นเอกภาพ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ยกเว้น ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ที่ไม่ได้เข้าร่วม แต่ส่งนายสัญญา ชีนิมิตร ผอ.สำนักการระบายน้ำ เข้าร่วมประชุมแทน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้เข้าร่วมประชุมช่วงหนึ่งว่า วันนี้ภาพรวมของมวลน้ำที่มาจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่ได้สูงขึ้น แสดงว่าสามารถผันน้ำไปได้ระดับหนึ่ง แต่เพื่อให้การระบายน้ำทำได้รวดเร็วมากขึ้น และให้การทำงานสัมพันธ์กัน และเป็นเอกภาพ ตนจะมีการออกคำสั่งในการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติร้ายแรง ตามมาตรา 31 ของ พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกันในวันนี้แล้ว ตนจะออกคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนให้ทราบกันอีกครั้ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่แต่ละส่วนได้นำไปปฏิบัติตาม ซึ่งตนได้ตั้งคณะทำงานเพื่อเฝ้าระวังติดตามระดับน้ำ และการบริหารจัดการน้ำในแต่ละส่วน เพื่อให้มีการเร่งระบายน้ำออกไปทางฝั่งตะวันออกทำได้ให้เร็วที่สุด ซึ่งคำสั่งตรงนี้หมายการทำงานร่วมกับกทม.ด้วย แม้ว่าการบริหารงานของ กทม.จะแยกส่วนไปต่างหาก แต่การทำงานในภาพรวมต้องเชื่อมต่อและสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การเปิดประตูระบายน้ำทำได้เต็มที่ โดยผู้รับผิดชอบในแต่ละจุดจะต้องเปิดประตูระบายน้ำให้มีความสัมพันธ์กับความสามารถในการระบายน้ำออกสู่ทะเล เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญ เพราะถ้าประตูแรกเปิดเต็มที่ แต่อีกประตูเปิดไม่เต็มที่น้ำก็จะไม่มีทางระบายลง จึงต้องขอความร่วมมือจากผู้ที่รับผิดชอบทุกส่วน เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาที่มีน้ำไหลเข้าสู่คลองประปานั้น เนื่องจากมีพนังกั้นน้ำบางส่วนชำรุดจึงขอให้ผู้ว่า กปน.เฝ้าระวังพื้นที่ที่เกิดการชำรุด และดูแลการไหลของน้ำ เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในความสะอาดของน้ำประปา ในส่วนของแนวคันกั้นน้ำในจุดที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหลัก 6 และคลอง 6 วา ขอให้กองทัพจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ขอให้ทุกจังหวัดและทุกหน่วยงานเฝ้าระวังสถานที่สำคัญ เช่น สถานที่ผลิตไฟฟ้า ผลิตน้ำประปา พระบรมมหาราชวัง โรงพยาบาลศิริราช สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ต้องให้แน่ใจว่าสถานที่เหล่านี้ได้รับการดูแลและปกป้องอย่างดี ส่วนเส้นทางคมนาคมสายหลัก เช่น โทลเวย์ จุดขึ้น-ลง โทลเวย์ ต้องใช้ได้ ไม่ปล่อยให้มีการติดขัด รวมทั้งรถไฟฟ้า สถานีรถไฟต่างๆ ต้องรักษาไว้และให้แน่ใจว่าใช้การได้ และขอให้ทางกระทรวงคมนาคมไปดูเส้นทางหลักๆ เช่น เส้นทางเข้าเมือง เส้นทางที่ใช้ขนส่งสินค้า จะต้องไม่ถูกปิดหรือเป็นอัมพาต เพื่อไม่ให้สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นของประชาชนขาดตลาด และขอให้เพิ่มสถานที่จอดรถให้กับประชาชนด้วย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า ส่วนการดูแลช่วยเหลืออพยพประชาชน ขณะนี้ยังมีประชาชนที่ประสพภัยและติดอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ จ.ปทุมธานี นนทบุรี ส่วน กทม.ก็ต้องเตรียมทำแผนไว้ ต้องไม่ประมาท ควรจะมีการจัดหาศูนย์อพยพให้เพียงพอ โดยให้ทุกหน่วยงานที่มีตึกสูงทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนราชการ โรงเรียน และหน่วยงานของกองทัพ จัดเตรียมเป็นสถานที่ให้ประชาชนได้พักพิงอาศัย และเป็นที่จอดรถ และขอให้ไปประสานกับภาคเอกชนด้วย หากได้ข้อสรุปแล้ว สถานที่ใดทำเป็นศูนย์อพยพก็ขอให้ติดป้ายบอกให้ชัดเจนและแจ้งมายัง ศปภ.เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ
“ทั้งหมดที่ได้สั่งการจะออกเป็นคำสั่งตามมาตรา 31 เพื่อให้ทุกหน่วยงาน ทำงานขึ้นตรงกับนายกฯ และขอให้รายงานผลตรงมายังนายกฯด้วย โดยขอให้พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผอ.ศปภ.ประสานกับทุกหน่วยงานให้แจ้งรายชื่อผู้ที่รับผิดชอบในแต่ละส่วนให้ชัดเจน” นายกฯ กล่าว