ที่มา Thai E-News
หนู ดี เปิดใจกับไทยรัฐออนไลน์ด้วยเสียงสั่นเครือต่อกรณีข้อความทวิตเตอร์ "ผู้นำโง่" นี้ว่า ตนหมายถึง ผู้นำที่ประกาศให้ชาวบ้านอพยพหนีตายกลางดึก ในจังหวัดปทุมธานี ทำให้คนโกลาหล ไม่มีระบบ
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
19 ตุลาคม 2554
ทันทีที่ปลายนิ้วของหนูดี - วนิษา เรซ กดส่งข้อความระบายความรู้สึก "อัดอั้น" ในฐานะประชาชนคนไทยที่ประสบเหตุลงไปในทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยมีเนื้อหาว่า
“ขอพูดแรงๆ สักครั้งในชีวิตค่ะ พูดแล้วจะร้องไห้...น้ำท่วมไม่กลัว กลัวอย่างเดียว...ผู้นำโง่ เพราะพวกเราจะตายกันหมด” (ปัจจุบันลบข้อความนี้ไปแล้ว)”จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนบางกลุ่มมาผูกโยงการเมืองกับคำว่า “ผู้นำโง่” ว่าหมายถึงผู้นำคนนั้นกันอย่างมากมาย
ก่อนที่เรื่องราวจะไปกันใหญ่ หนูดี - วนิษา เรซ หนูดี ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านอัจฉริยภาพ นักเขียน และสาวเก่งที่มีคนชื่นชอบมากมาย ออกมากล่าวเปิดใจกับไทยรัฐออนไลน์ด้วยเสียงสั่นเครือต่อกรณีข้อความ ทวิตเตอร์ "ผู้นำโง่" นี้ว่า ตนหมายถึงผู้นำที่ประกาศให้ชาวบ้านอพยพหนีตายกลางดึก ในจังหวัดปทุมธานี ทำให้คนโกลาหล ไม่มีระบบ และไม่มีข้อเท็จจริง
“ทวิตนี้มันเริ่มต้นจากบ้านครอบครัวของหนูดีอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี แล้ว 2-3 วันที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่ที่ดูแลในเขตที่อาศัยอยู่ออกประกาศบอกให้ชาวบ้านย้ำให้อพยพอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นเวลาวิกาลเพราะว่าคืนนี้น้ำจะท่วมใหญ่แน่นอน
การประกาศแบบนี้แม้ว่าบ้านหนูดีจะขนของอพยพไปอยู่ชั้น 2 เกือบจะหมดแล้ว มีแต่เปียโนตัวใหญ่มากไม่สามารถขนขึ้นไปได้ และกระดาษมากมายของสำนักพิมพ์ของเรายังอยู่ด้านล่างอีกมากมายไม่สามารถขน ขึ้นไปบนบ้านได้ สิ่งที่ทำให้หนูดีโมโหมากๆ ก็คือวันนั้นผู้นำบอกข่าวสารมีการประกาศให้ชาวบ้านปทุมธานีออกจากพื้นที่เร่งด่วน แบบไม่เช็กข้อมูลให้ถูกต้องก่อน ส่งผลให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นอย่างมากมาย โกลาหลมากๆ
อย่างโรงเรียนของหนูดีก็มีคุณครูอยู่คนหนึ่งบ้านเขาอยู่อยุธยา บ้านเขาจมทั้งหลัง รถจมมอเตอร์ไซต์จม เครื่องใช้ไฟฟ้าก็พังหมด เรียกว่าหมดสิ้นเสียบ้านและทรัพย์สินไปทั้งหลัง พอหนีมาอยู่ที่คลอง 2 จ.ปทุมธานี ซึ่งจากข่าวนี้ทำให้เขาอาเจียนไม่หยุด ไมเกรนขึ้นแล้ว ที่สำคัญหนูดีสงสารตาสีตาสาที่วิ่งหนีตายตุหรัดตุเหร่ตามการประกาศแบบไม่ กรอง หนีตายเพื่อไปที่ศูนย์อพยพดอนเมือง”
หนูดีบอกว่า การประกาศโดยไม่มีเอกภาพวันนั้นและภาพการอพยพหนีตายของหญิงสาวผู้เฒ่าผู้แก่ มันกระทบหัวใจตนเองมาก จนต้องทวิตข้อความออกไปในฐานะประชาชนคนหนึ่ง
"สิ่งที่หนูดีเห็นแล้วสลดก็คือ คนในจังหวัดปทุมธานีหลา่ยครอบครัวไม่มีรถพอได้ยินประกาศต่างก็วิ่งหนีตาย เพื่อไปให้ถึงปากซอยให้ได้ ซึ่งมันไกลมาก (เสียงสะอื้น)เราก็รู้สึกจะบ้าเหรอ 4-5 ทุ่ม แล้วถ้าเป็นผู้หญิง เป็นเด็กสาววิ่งหนีแบบไร้จุดหมายแบบนั้นไม่โดนข่มขืนหรือโดนอะไรทำร้ายไป ถามว่ามันใช่เรื่องไหม สิ่งที่เราทวิตไปเราก็รู้สึกในฐานะประชาชน คือถ้าคิดจะทำอะไร อยากจะประกาศอะไรประชาชน ช่วยคิดถึงประชาชนหน่อยแ้ล้วที่น่าตกใจก็คือ "ผู้นำในพื้นที่กับคนที่ประกาศไม่ใช่คนเดียวกัน" โดยผู้นำบอกว่าไม่มีอะไรอย่าแตกตื่น ที่สุดแล้วน้ำที่ประกาศว่ามาก็ไม่มา"
ภาพเหล่านี้มันทำให้เราเกิดอารมณ์ แต่ก็น่าเสียใจเพราะทันทีที่เราทวิตออกไปคนก็ไปตีความว่า ผู้นำเราหมายถึงนายกฯ ซึ่ง หนูดียืนยันเลยว่าไม่ได้หมายถึงท่าน เพราะเราไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการเมืองอยู่แล้ว ไม่มีสี ไม่เหลืองไม่แดง แล้วไปรีเช็กดูได้ว่าตั้งแต่หนูดีกลับมาเมืองไทย ไม่เคยคอมเมนต์การเมืองเลย ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเมืองเลย และไม่เคยคิดที่จะลง ส.ส.แล้วคอมเมนต์นี้เราถือว่าไม่ได้คอมเมนต์การเมือง แต่ถูกตีความเป็นเรื่องการเมือง ตั้งแต่วันที่กลับมาเมืองไทยเราไม่คิดว่ากลับมาแล้วยุให้คนไทยแตกแยกกัน
"หนูดีคิดว่าคนที่อยู่ต่างประเทศกลับมาก็อยากที่จะทำอะไรให้กับประเทศ แต่หากมันกลับมาเป็นประเด็นแบบนี้ หนูดีคิดว่ามันผิดวัตถุประสงค์ วันนี้มีคนลำบากเดือดร้อนอีกเยอะ ไม่รู้ว่าจะมาทะเลาะกันเรื่องอะไร วันนี้น้ำท่วมหนูดีก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน ทั้งบ้านและโรงเรียน ซึ่งน้ำเริ่มเข้าแล้ว แต่ก็พยายามกั้นกระสอบทรายอยู่ คนในพื้นที่ก็มีความเครียดมาก ดังนั้นถ้าจะประกาศอะไรก็อยากให้รีเช็กหน่อย เราก็รู้สึกว่ามันไม่เหมาะสม เรื่องก็มีอยู่เท่านี้”
เมื่อถามว่าเข็ดเรื่องทวิตเตอร์ไหม...? หนูดีบอกว่า จะว่าเข็ดก็ไม่ซะทีเดียว เพราะเราก็หาประโยชน์จากมันได้ แต่ก็อย่างว่ามันเป็นสื่อที่เร็วมาก ในมุมกลับกันมันก็เป็นแบบนี้ ซึ่งสิ่งที่เรากำลังอยากจะบอกก็คือมันไม่ใช่ความผิดของทวิตเตอร์ แต่เป็นความผิดของเราเอง ฉะนั้นเราไม่อยากโทษทวิตเตอร์หรือคนที่ตามไม่เห็นด้วย เพราะเราพูดกำกวมเอง
“หนูดีว่ากล้าทำก็ต้องกล้ารับ ไม่อยากตอบว่าใครแฮกหรือว่าอะไรมันตลกเกินไป ผิดไปแล้วก็พร้อมขอโทษ ไม่ได้หมายถึงนายกฯเลย ถ้าใครอ่านกลางๆ เราไม่ได้หมายถึงนายกฯ เราพลาดเอง หลังจากนี้คงต้องกลั่นกรองมากขึ้น”
สุดท้าย สาวเก่งยังฝากเอาไว้ด้วยว่า นอกจากการเตือนภัยที่ต้องระวังจะเกินความจริง จะทำให้ประชาชนโกลาหลและเดือดร้อนมากแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือนาทีนี้ ไม่มีใครอยากจะลุกขึ้นมาเสี้ยมให้คนตีกันอีกแล้ว
"วันนี้ประเทศเราคนตีกันเยอะจริง มันพอแล้วล่ะ เราก็ไม่อยากจะมีส่วนหนึ่งตรงนั้น ไม่คิดว่าทวิตข้อความเดียวมันจะส่งผลไปขนาดนี้ ขอโทษจริงๆ ขอโทษมากๆ แต่หนูดีว่า เราไม่ได้สำคัญขนาดที่ใครจะต้องมาเสียเวลา แม้ในสถานการณ์ที่วิกฤติคับขันอย่างนี้ หนูดีว่า ไม่ว่าจะเป็นคนในสังคมคนไหนจะเป็นไอดอลหรือไม่ไอดอล ไม่มีใครสำคัญมากพอที่เราจะโยงเพื่อให้มาทะเลาะกัน เอาเวลาไปช่วยเหลือร่วมใจกันฝ่าวิกฤติดีกว่า” หนูดีกล่าวในที่สุด
ประวัติการศึกษา
นางสาววนิษา เรซ ชื่อเล่นหนูดี จบปริญญาตรีเกียรตินิยม ด้านครอบครัวศึกษา Family Studies มหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ คอลเลจพาร์ค สหรัฐอเมริกา ปริญญาโทเกียรตินิยมด้านวิทยาการทางสมอง (Neuroscience) ในโปรแกรม Mind, Brain and Education มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา เธอถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านอัจฉริยภาพ นอกจากนี้ยังเป็นนักเขียนอีกด้วย.