ที่มา ประชาไท
ผู้ชมเอเอสทีวีไม่สามารถรับชมผ่านทีวีดาวเทียมได้ในช่วงเย็นวันนี้ เนื่องจากถูกตัดสัญญาณออกอากาศ เหตุค้างชำระหนี้เจ้าของดาวเทียม ขณะนี้ผู้บริหารกำลังเร่งหาทางออก ขณะที่ผู้ชมเอเอสทีวียังสามารถรับชมผ่านเน็ตได้
เอเอสทีวีจอดับ หลังเจ้าของดาวเทียมตัดสัญญาณ แต่ยังชมทางเน็ตได้
เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า วันนี้ (17 ต.ค.) ตั้งแต่เวลาประมาณ 17.30 น.ที่ผ่านมา การแพร่ภาพของสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีได้เกิดปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้ตาม ปกติ โดยผู้ชมทางบ้านได้โทรศัพท์สอบถามมายังสถานีเป็นจำนวนมากหลังจากที่รับชม รายการไม่ได้
โดยผู้บริหารระดับสูงของสถานี แจ้งว่า ปัญหาเกิดจากการตัดสัญญานดาวเทียม NSS-6 ของบิรษัท นิวสกาย แซทเทลไลต์ จำกัด ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่เอเอสทีวีเช่าสัญญาณอยู่ โดยที่ผ่านมา เอเอสทีวีได้ทำสัญญาเช่าช่องสัญญานกับทาง NSS-6 มาโดยตลอด แต่ก็มีหนี้ค้างชำระอยู่บางส่วน ซึ่งล่าสุด NSS-6 ไม่ยอมที่จะผ่อนปรนภาระหนี้ให้กับเอเอสทีวี แม้ทางผู้บริหารจะพยายามเจรจาขอยืดเวลาชำระหนี้ออกไป หรือขอชำระเพียงบางส่วนแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ฝ่ายเทคนิคเอเอสทีวีได้ประชุมหารือกับผู้บริหารเพื่อ หาทางออกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า ทั้งนี้ แม้ผู้ชมเอเอสทีวีจะรับชมรายการจากทางสถานีผ่านดาวเทียมไม่ได้ขณะนี้แต่ยัง สามารถรับฟังสถานีวิทยุคลื่น 97.75 MHz และรับชมสถานีโทรทัศน์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้ [1], [2]. [3]. [4]
คอลัมน์นิสต์แจงแฟนคลับ-การสนับสนุนจาก พธม.ยังเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบรายจ่าย
ขณะที่ สุรวิชช์ วีรวรรณ คอลัมน์นิสต์เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ โพสต์ชี้แจงทางเฟซบุ๊กว่า "ขณะนี้เกิดปัญหากับทางดาวเทียมns6 ที่ยังค้างค่าเช่าช่องสัญญาณและทางเราพยายามเจรจาเพื่อผ่อนปรนแล้ว แต่ทางเจ้าของดาวเทียมไม่ยินยอม ภาระดังกล่าวคุณสนธิแบกรับคนเดียวมาตลอดตั้งแต่เริ่มการต่อสู้กับระบอบ ทักษิณมา ทั้งค่าดาวเทียม เงินเดือนพนักงาน ต้องขายทรัพย์สินทุกอย่างที่มีอยู่ แม้จะมีเงินสนับสนุนจากพี่น้้องพันธมิตรฯก็เป็นเพียงเงินส่วนน้อยเมื่อเทียบ กับรายจ่ายที่คุณสนธิต้องแบกรับในแต่ละเดือน จึงเป็นเห็นสุดวิสัยที่คุณสนธิจะหาเงินมาจ่ายค่าดาวเทียมที่ค้างอยู่ จากการยื่นคำขาดของเจ้าของดาวเทียมและได้ทำการตัดการออกอากาศของเราโดยทันที แต่ขอแจ้งว่าขณะนี้ยังมีช่องทางที่ดูได้คือทางอินเทอร์้เน็ต และหวังว่าคนที่รักเอเอสทีวีจะเข้าใจ แม้หัวใจของพวกเราจะยังต่อสู้และอยากทำทีวีที่มีจุดยืนเพื่อชาติบ้านเมือง แต่คำตอบที่่่เราได้รับคือ การสนับสนุนที่เราได้รับไม่เพียงพอที่จะให้เรายืนหยัดต่อสู้ได้อย่างมั่นคง"