ที่มา มติชน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ตุลาคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้ามายังศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำท่วม ซึ่งสังเกตเห็นได้ว่ามีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ตอนนี้ไปขอตรวจสอบข้อมูลก่อนว่าน้ำจะท่วมเขตพื้นที่ดอนเมือง 1-2 เมตร ตามที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี แสดงความเห็นหรือไม่ เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนกโดยหากเกิดเหตุการณ์จริงรัฐบาล จะเตือนภัยอย่างเป็นทางการในส่วนของ ศปภ. ซึ่งการเตือนภัยของ ศปภ.จะมีการปรับรูปแบบใหม่โดยต้องมีรายละเอียดชัดเจนเพื่อแสดงประชาชนให้ เห็นว่านี่คือแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ
"กราบเรียนพี่น้องประชาชนว่าเราจะไม่อยู่ในความประมาทแต่อยากให้ทุก คนเตรียมตัวเอาไว้และอย่าตื่นตระหนก ศปภ.จะทำหน้าที่ให้เต็มที่ดูแลประชาชนที่ประสบปัญหาทุกพื้นที่รวมทั้ง กทม.ด้วย สถานการณ์ตอนนี้ในส่วนของคลองรังสิตก็ได้มีการเปิดประตูน้ำทั้งหมด จึงอยากขอความกรุณาประชาชนอย่าเข้าไปดึงแนวกั้นน้ำหรือกระสอบทรายออกไม่งั้น จะควบคุมน้ำไม่ได้ ธรรมชาติของน้ำที่เข้ามาเยอะกว่าทุกปีเมื่อระบายไปทางไหนก็จะมีปัญหาแต่ รัฐบาลพยายามป้องกันให้เต็มที่" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
เมื่อถามว่า จากโพลที่ออกมาระบุว่าไม่มั่นใจในข้อมูลของ ศปภ. รัฐบาลจะเรียกความเชื่อมั่นอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมน้อมรับความคิดเห็นของประชาชน แต่ขอความเห็นใจด้วยเพราะตอนนี้ ศปภ.เป็นศูนย์รวมของทุกองค์กรอาจทำให้มีมุมมองแตกต่างกัน และส่งผลให้ประชาชนรับรู้ข่าวสารเกิดความตกใจ ซึ่ง ศปภ.จะปรับปรุงต่อไปและตรวจสอบข้อมูลอย่างรอบคอบเพื่อให้ประชาชนสามารถยึด ถือของข้อมูลของ ศปภ.อย่างเป็นทางการได้
"ยืนยันข้อมูลที่ ศปภ.ได้เข้ามาไม่มีความผิดพลาด แต่บางครั้งขอความกรุณาสื่อมวลชนเวลาสัมภาษณ์หนึ่งคนเดียวอาจจะมีแค่มุม เดียวไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด พอข้อมูลออกไปอาจทำให้ประชาชนตกใจ ดังนั้น เราต้องมาปรับปรุงในส่วนของการแถลงข่าวของ ศปภ.ให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น สื่อมวลชนก็จะได้ไม่แปลงและใช้ข้อเท็จจริงนั้นในการอ้างอิงได้ วันนี้ยืนยันว่าได้พูดความจริงไม่ได้ปิดบังพี่น้องประชาชน แต่ดิฉันต้องบอกว่าครั้งนี้เป็นวิกฤตใหญ่ของประเทศลำพังคนเดียวเราทำไม่ได้ ต้องรวมพลังจากทุกภาคส่วนและต้องเอาเกมการเมืองออกไป เราต้องแก้ไขปัญหาและสร้างขวัญกำลังใจให้กับคนไทย" น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า สำหรับการประสานงานกับ กทม.และกรมชลประสานยอมรับว่ามีมุมมองที่แตกต่างกัน อย่าง กทม.ก็จะมองในส่วน กทม.เช่นเดียวกับกรมชลประทานก็ให้ในส่วนของตัวเองที่เกี่ยวกับการระบายน้ำ ดังนั้น เราต้องเอาทุกหน่วยงานมารวมกันแต่ปัญหานี้เราไม่สามารถประมาณการได้จริงๆ เช่น ปริมาณน้ำฝน ทั้งนี้ บอกตรงๆ ว่าตอบได้ยากมากว่าปริมาณน้ำจะเข้ามาใน กทม.เท่าไหร่ โดยจะขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตอบ เราเองไม่รู้ว่าพายุลูกใหม่ที่อาจจะเข้ามาเป็นอย่างไร วันนี้ประเทศไทยยังไม่มีกระบวนการในการประมาณการปริมาณน้ำที่แม่นยำ
ในตอนท้ายของการให้สัมภาษณ์ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ด้วยน้ำเสียงเข้มเมื่อถูกสื่อมวลชนซักถาม หลายครั้งถึงระดับปริมาณที่จะเข้ามาท่วม กทม.ว่า "ถ้าถามแบบนี้ยิ่งไม่เกิดประโยชน์ต้องขอจริงๆ ถามแบบนี้เราควรต้องนั่งคุยกับผู้ที่มีความรู้ ดิฉันเองเป็นผู้ที่เข้ามาในฐานะนายกรัฐมนตรีประสานงานทุกหน่วยงาน ดังนั้น เราควรจะคุยพร้อมกับผู้มีความรู้ถูกต้อง ขอความกรุณาว่าดิฉันอาจจะไม่สามารถให้ข้อมูลสื่อมวลชนได้ครบเพราะเกรงว่าการ สื่อสารในมุมมองจากความรู้สึกส่วนตัววันนี้หรือการจากการสัมผัสจะทำให้ ประชาชนขาดความมั่นใจและไขว้เขว ขอความกรุณาว่าไม่สามารถให้ได้และจะขอให้ข้อมูลที่เป็นทางการเท่านั้น"