ที่มา Thai E-News
ดร.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.เพื่อไทย อ่านคำสดุดีวีรชนของนายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใหญ่ทำให้ปลีกตัวมาเป็นประธานงานประชุมเพลิง 6 วีรชนไม่ได้
โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ภาพ เฟซบุ๊ค
16 ตุลาคม 2554 งานฌาปนกิจศพ 6 วีรชน 10 เมษายน 2553 ณ วัดบำเพ็ญเหนือ เขตมีนบุรี มี พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยมี ส.ส.พรรคเพื่อไทย., แกนนำ นปช. ทนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ พี่สาวช่างภาพชาวอิตาเลียนที่เสียชีวืตในเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 และคนเสื้อแดงเข้าร่วมงานจำนวนมากประมาณ 5,000 คน ทำให้รถติดในย่านนั้น
นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ที่ปรึกษากฎหมายอดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวสดุดีแก่ผู้เสียชีวิตว่า ทุกคนคือวีรบุรุษที่ควรจดจำ เพราะได้เสียสละชีวิตเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย จากนั้นจึงมอบทรัพย์ส่วนตัวช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิต
ด้าน แกนนำ นปช.กล่าวว่า แม้เพื่อนร่วมอุดมการณ์จะจากไป แต่คนเสื้อแดงจะเรียกร้องประชาธิปไตยต่อไปจนกว่าจะประสบความสำเร็จ
ก่อนหน้านี้แกนนำนปช.แถลงว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะมาเป็นประธานในพิธีประชุมเพลิง นายแพทย์เหวง โตจิราการ ส.ส.เพื่อไทยและแกนนำนปช.เขียนลงในเฟซบุ๊คว่า
ตาม กำหนดการเดิม ท่านนายกยิ่งลักษณ์ท่่านให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธี แต่เนื่องจากปัญหาเรื่องน้ำท่วมที่กำลังรุนแรงอยู่ในขณะนี้ ท่านจึงไม่สามารถปลีกตัวมาได้ แต่ท่านมอบหมายให้ รองนายกรัฐมนตรี โกวิท วัฒนะ มาเป็นประธานในพิธี และท่านรองนายกโกวิท ท่านก็ได้สนทนากับครอบครัววีรชนด้วยความเอาใจใส่ครับนายกฯส่งคำสดุดีวีรชนมาให้อ่านแทนตัว
ดร.จารุพรรณ กุลดิลก ส.ส.เพื่อไทยได้ อ่านคำสดุดีที่นายกฯยิ่งลักษณ์เขียนฝากมาให้อ่านในงานนี้ความว่า
"ขอ แสดงความเสียใจต่อญาติผู้สูญเสีย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ถือเป็นสัญลักษณ์สาำคัญในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย มีจิตใจที่พร้อมจะเสียสละ แม้ต้องแลกมาด้วยชีวิต ดิฉันขอแสดงคำยืนยันอย่างหนักแน่นที่จะสานต่อเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนใน การหวงแหนรักษาประชาธิปไคยเอาไว้ ลงนาม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี"
ในวันเดียวกันนี้ นายกรัฐมนตรีไปเป็นประธานปล่อยเรือประชาอาสาดันน้ำออกสู่ทะเลผ่านแม่น้ำ3สาย เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในเวลานี้
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายและประชุมเพลิงในวันนี้ ประกอบด้วย นายบุญธรรม ทองผุย, นายจรูญ ฉายแม้น, นายสวาท วางาม, นายสยาม วัฒนนุกูล, นายทศชัย เมฆงามฟ้า และนายมนต์ชัย แซ่จอง
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมมีพิธีแห่ศพวีรชนทั้ง 6 รายรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สถานที่ซึ่งเป็นบริเวณที่ทั้งหมดเสียชีวิต ก่อนนำมาทำพิธีประชุมเพลิงในเย็นวันนี้ ท่ามกลางสายฝนที่ตกโปรยปรายตลอดเวลา
(บน)พิธีแห่ศพ 6 วีรชนรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนจะฌาปนกิจในวันที่ 16 ต.ค. (ล่าง) สำราญ วางาม บิดาของสวาท วางาม 1 ใน 6 วีรชนเล่าเหตุการณ์ตอนเอาเสื้อห่อมันสมองลูกชาย ในวันที่ 10 เมษา 53 ด้วยน้ำตานองหน้า และคลิปข่าวลูกของสวาทที่เสียพ่อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จากVOICE TV(ภาพ:facebook ป๋าจอมตั๊บฯ)
ลูก11ขวบวีรชนหยุดพูดหลังสูญเสียพ่ิอ ครอบครัวไม่เคยได้หลับตราบเท่าที่ฆาตกรลอยนวล
พี่สาวสยาม วัฒนนุกูล พบน้องชายในที่ชุมนุมก่อนจากพรากตลอดกาล
ครอบครัวฉายแม้นเปิดใจ ยังร้องไห้ทุกคืน
เปิดใจภรรยาหม้ายวีรชนของบุญธรรม ทองผุย
เส้นทางการต่อสู้ของบุญธรรม ทองผุย พ่อของลูกสองคนที่สุดท้ายต้องจบชีวิตลงในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 ต้องทิ้งให้ภรรยาและลูกเผชิญชะตากรรมที่โหดร้ายเพียงลำพัง
ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับครอบครัวทองผุยส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อ สมาชิกในครอบครัวเป็นอย่างมากหลังจากที่นายบุญธรรม ทองผุยหัวหน้าครอบครัวผู้เป็น สามีและพ่อของลูกสองคนต้องจากพวกเขาไปหลังถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์สลาย การชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อวันที่10เมษายน2553 บริเวณสี่แยกคอกวัว
พี่แดง นางสุภารัตน์ ทองผุย ภรรยา นายบุญธรรมเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกว่า1ปี6เดือนที่ผ่านมาแต่แววตาและ ความรู้สึกที่บรรยายออกมาเหมือนดั่งว่าเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ความรู้สึกที่ต้องขาดเสาหลักของบ้านไปคงไม่สามาถอธิบายผ่านคำพูดได้ทั้งหมด แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถสะท้อนความรู้สึกของพี่แดงได้เป็นอย่างดีคือแววตาที่ ล่องลอย ไม่รู้ว่าชะตากรรมของครอบครัวนี้ใครเป็นผู้กำหนดแต่เมื่อทุกอย่างเป็นเช่น นี้พวกเขาต้องต่อสู้กับความเลวร้ายที่สุดในชีวิตเนื่องจากทุกวันนี้พี่แดง ไม่มีรายได้เลยในแต่ละวัน เขาอาศัยเงินเหยียวยาที่ได้รับใ ช้ในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝันร้ายที่ตื่นมาแล้วทุกอย่างจะจบลงแต่เหตุการณ์ ที่พวกเขาเจอคือความจริงเนื่องจากวันนี้หน้าที่หัวหน้าครอบครัวตกเป็นของเธอ แล้ว เธอต้องเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งของลูกทั้ง2คนให้ได้และจะทำหน้าที่แม่ให้ดี ที่สุด จะส่งลูกให้ถึงฝั่งรอดูวันที่พวกเขาประสบความสำเร็จ
สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวทองผุย พี่แดงรู้สึกโกรธแค้นคนที่กระทำ อยากให้เขาได้รู้สึกถึงความสูญเสียที่เธอได้รับ
แม้วันนี้สามีของเธอต้องเสียชีวิตแต่เธอรู้สึกภูมิใจที่เขาได้ทำในสิ่งที่ เขารัก หากเลือกได้คงไม่มีใครอยากประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายเช่นนี้ แต่ในชะตากรรมของพวกเขาถูกลิขิตให้เป็นเช่นนี้แล้ว สิ่งเดียวที่ทำได้คือสร้างภูมิคุ้มกันให้พวกเขาทั้ง3คนเข้มแข็งและก้าวผ่าน ความเลวร้ายครั้งนี้ไปได้โดยเร็ว