ที่มา thaifreenews
โดย ลูกชาวนาไทย
"อย่าหาว่าผมพูดเกินความจริงไปเลยนะครับ สภาพของพื้นที่ภาคกลางที่ผมร่วมขบวนกับ อาสาพยาบาลเสืื้อแดง FARED ออกไปช่วยพี่น้องประชาชนชาวลพบุรี มันเป็นทะเลสาบชัดๆ น้ำลึกกว่า 4-5 เมตร ที่ถนนกลางหมู่บ้านที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ มันก็ลึกแค่คอผมแล้ว"
--
ก็ได้ฤกษ์ของ FARED ที่จะออกไปแบ่งปันน้ำใจให้พี่น้องคนไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งที่ 3 เสียที
เมื่อ วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา เรานัดพบกันที่บ้านคุณแมวอ้วนอ้วน โดยมีกำหนดการล้อหมุนเวลา 7.00 น. ผมต้องตั้งนาฬิกาปลุกตั้งแต่ตี 4.30 น. เพื่อจะได้ออกไปช่วยขนของขึ้นรถบรรทุกที่จะไปลพบุรีได้ทันตอน 6.00 น.
ครั้ง นี้เราไปแทบครบทีมครับ ทั้งพี่สี่สาว คุณขุนอินพร้อมลูกชายลูกสวยวัยรุ่น แม่ปังคุง พี่ยงค์ คุณสมเพชร คุณสันติภาพ คุณ Ice Angel คุณกอบชัย พี่บ้านริมคลอง คุณเสื้อน้อย และกลุ่มแพทย์ทีี่เคยเป็นนักศึกษาช่วง 6 ตุลาคม รวมๆ แล้ว 28 ท่านด้วยกัน ก็ต้องช่วยกันขนของขึ้นรถ ไม่เว้นว่าจะเป็นแพทย์หรือเป็นคนอื่น ๆ เพราะเราต้องเป็นทั้งผู้ใช้แรงงาน และผู้นำของไปแบ่งกันให้พี่น้องด้วย เราตัดสินใจไปด้วยรถบรรทุกครับ เอารถส่วนตัวจอดไว้ที่บ้าน เพราะคาดว่าคงลุยน้ำไม่ไหว้ ก็นั่งกันไปท้ายรถบรรทุกส่งสินค้าแบบตู้คอนเทนเนอร์นั่นแหละครับ เหมือนแรงงานพม่าไม่มีผิด เพียงแต่เราไม่ได้ล็อกประตูคอนเทนเนอร์ แต่เปิดเอาไว้เท่านั้นเอง ก็ยังแซวๆ กันอยู่ว่า หากโดนตำรวจจับหาว่าเป็นแรงงานพม่า ร้องเพลงชาติได้ครบทุกคนหรือเปล่า ก็มีคนแซวว่าเดียวนี้เขาให้ร้องเพลงสรรเสริญฯแล้ว (โหแบบนี้เราคงโดนรวบหมดแน่ 5555 )
เราออกไปทางสุพรรณบุรีครับ ขบวนรถติดกันยาว เพราะน้ำท่วมถนนแถวบางบัวทองแล้ว ระหว่างทางก็เจอกับขบวนของ นปช. ทีออกไปช่วยพี่น้องที่ประสบภัยเช่นเดียวกัน ได้ข่าวว่า นปช. ขนขบวนรถไปกว่า 60 คน ก็โบกไม้โบกมือกันด้วยความสนุกสนานที่ได้ร่วมกันทำความดี คือเป็นเสื้อแดงนี่มันสื่อกันได้ด้วยใจ เพราะเจอกันก็รู้สึกว่าเราเป็นพวกกัน พี่น้องกัน ก็ตะโกนถามกันว่าไปช่วยที่ไหน นปช. เขาก็ไปลพบุรีเช่นเดียวกัน
รถ วิ่งได้ช้ามาก กว่าจะไปถึงแถวสิงห์บุรีก็เที่ยงกว่าแล้ว พอรถเริ่มหันออกทางตะวันออกไปทางสิงห์บรี ก็เจอสภาพน้ำนองทั่วท้องทุ่งภาคกลางแล้วครับ
เห็นแล้วรู้สึกอนาถในใจ เพราะมีผู้คน สัตว์เลี้ยงจำนวนมากต้องมาอาศัยนอนบนถนนจำนวนมาก
เห็นห้องน้ำแบบฉุกเฉินตั้งเรียงรายอยู่ริมถนนจำนวนมากเช่นกัน ทั้งคนแก่และเด็กที่ต้องนอนในที่พักชั่วคราวริมถนนตามรายทางเต็มไปหมด
สภาพของภาคกลางตอนนี้ มันคือ ค่ายอพยพขนาดใหญ่ ตามริมถนนเต็มไปหมด
มองพ้นถนนออกไปก็เห็นน้ำท่วมบ้านครึ่งหลังบ้าง ถึงจั่วหลังคาบ้าง เต็นไปตามริ่มข้างทาง
ผม ไม่เคยเห็นสภาพทุลักทุเลของมนุษย์เช่นนี้มาก่อนเลย เคยเห็นภาพคนหอบของหนีการสู้รบในแอฟริกาผ่านทีวี ก็สะท้อนใจพอแล้ว แต่นั่นมันไกลตัว แต่ภาพคนไทยเองกลายเป็นผู้อพยพนี่เพิ่งเคยเห็น
เมื่อรถเข้าเขตอำเภอบ้านหมี่ ถนนก็จมน้ำไปเรียบร้อยแล้วกว่าครึ่งล้อรถบรรทุก รถเล็กผ่านไม่ได้แล้ว
เห็น ชาวบ้านออกมารอรับของบริจาคกระจายเต็มไปสองฝั่งถนน (ที่จริงถนนมันอยู่ใต้น้ำ เรียกว่าคลองน่าจะเหมาะกว่า) พี่บ้านริมคลองก็เอาขนมให้เด็กๆ บ้าง มีชาวบ้านตะโกนถามว่าจะไปแจกที่ไหน ไม่แจกพวกเขาบ้างหรือ เราบอกว่าจะไปที่ลึกเข้าไป เพราะริมถนนด้านนี้ มีผู้มาช่วยเหลือมากแล้ว เพราะรถเข้าถึงได้บ้าง
ก็เห็นข้างเรือท้องแบนที่เขียนว่า บริจาคโดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อยู่หลายลำเหมือนกัน
แสดง ว่าท่านทักษิณ ก็ได้บริจาคช่วยนานแล้ว แต่อาจไม่เป็นข่าว หรือทำเงียบๆ จน โฆษก ปชป. ถามถึง แต่ผมไม่เห็น ชื่อ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเลยนะครับ
รถเราไปถึง ที่โรงสีย่งเส็ง ซึ่งเป็นจุดนัดพบ ที่เราจะขนของขึ้นเรือ ไปให้ชาวบ้าน หมู่ 9,10 ตำท่าวุ้ง กับชาวบ้านที่วัดเขาสมอคอน
ที่ โรงสีย่งเส็งนี้ เจ้าของโรงสีสามารถกันน้ำไม่ให้เข้าโรงสีได้ จึงยังเป็นที่แห้ง เจ้าของโรงสีทำกับข้าวออกไปแจกชาวบ้านในตำบลนี้กว่าเดือนแล้ว ต้องทำกับข้าวทุกวัน วันละ 500-1000 กล่อง ได้ข่าวว่า เจ้เจ้าของโรงสีต้องจ่ายเงินส่วนตัวไปเป็นล้านแล้ว
ที่เรามานี้ก็ ผ่านเจ้ (ผมลืมชื่อไปแล้ว ต้องถามคุณแมวอ้วน) หมู่ 9,10 และวัดเขาสมอคอน ต้องขึ้นเรือจากโรงสีนี้ไปอีก 4.721 กม. (ผมทราบตัวเลขชัดเจน เพราะใช้ GPS ครับ 555) และจากหมู่ที่ 9 และ 10 ไปที่วัดเขาสมอคอนระยะทาง 4.321 กม.
เจ้ เจ้าของโรงสีนัดชาวบ้านไว้ 600 ครอบครัว แต่ FARED เตรียมไว้แค่ 300 ชุด เจ้เลยต้องเอาของโรงสีที่เตรียมไว้ไปอีก 300 ชุด ลำเลียงโดยเรือท้องแบบ ทั้งคนและของหลายลำครับ