ที่มา ข่าวสด
คอลัมน์ เหล็กใน
โพลทุกสำนักสรุปผลสำรวจไปในทิศทางเดียวกัน
ภายหลังเลิกแถลงรายวัน เปลี่ยนเป็นแถลงสัปดาห์ละครั้ง
นั่นคือ ประชาชนหวาดกลัวอันตรายของโรค และยังสับสน ไม่เข้าใจ ไม่เข้าถึงกระทรวงสาธารณสุข
ประชาชน "เชื่อมั่น" แพทย์ไทย แต่ "ไม่เชื่อมั่น" กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาล??
ขณะเดียวกันบรรดาผู้รู้ ผู้เกี่ยวข้องที่ไม่ค่อยเป็นข่าว ออกมาให้ข้อมูลความเห็นอย่างหลากหลาย
โดยเฉพาะเรื่องวัคซีน!!
ที่น่าสนใจ และแหลมคม เริ่มจากศ.น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล อดีตรมว.สาธารณสุข ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ
"เป็นเรื่องแปลกที่ประเทศไทยที่ไม่เคยผลิตวัคซีนใช้เอง ยกเว้นวัคซีคโรคพิษสุนัขบ้า กลับจะมาผลิตวัคซีนใช้กับโรคที่ระบาดอย่างรุนแรงและมีโอกาสกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา
"กระบวนการผลิตวัคซีนนั้น องค์การอาหารและยาของสหรัฐ จะใช้เวลาทดลองถึง 2 ปี แต่ครั้งนี้รัฐบาลกลับบอกว่าจะใช้เวลาวิจัยแค่ 3 เดือน"
พร้อมเสนอคำแนะนำ
"1.รัฐบาลควรเร่งพัฒนาการให้บริการตรวจชันสูตรไวรัส 2009 ให้ครอบคลุม และควรสร้างห้องวิจัยทั่วประเทศ และรายงานผลภายใน 24 ชั่วโมง
"2.จัดหายา ทามิฟลู (Tamiflu) ให้เพียงพอ และจ่ายยาแก่ผู้ป่วยอย่างทั่วถึง"
ต่อด้วยรศ.น.พ.ทวี โชติพิทยสุนันท์ หัวหน้าทีมวิชาการไข้หวัดใหญ่ 2009 กระทรวงสาธารณสุข
"ไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นโรคที่อุบัติขึ้นใหม่ ยังไม่รู้ว่าจะระบาดรุนแรงขนาดไหนและนานเท่าไร
"ขณะนี้ต้องหันมาป้องกันการสูญเสียชีวิตให้ได้เสียก่อน โดยเปลี่ยนจากควบคุมเป็นการรักษาแทน
"ส่วนวัคซีนป้องกันจะได้ประมาณปลายเดือนตุลาคม เพื่อทดสอบกับคนและจะนำมาใช้ประมาณเดือนธันวาคม
"แต่การใช้วัคซีนจะไม่เป็นคำตอบสุดท้ายในการแก้ปัญหาให้กับผู้ป่วย
"เพราะเคยมีการให้วัคซีนกับเด็ก 2 คน ผลข้างเคียงคือ เด็กคนแรกมีอาการซึมคอตกตลอดเวลา
"ส่วนอีกคนเกิดอาการละเมอทั้งคืน เป็นผลข้างเคียงของยา ที่อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือในอนาคตอาจเกิดการดื้อยาได้"
เป็นข้อมูล ความเห็น ทั้งของคนกันเอง และคนละข้าง
แต่มีจุดประสงค์เดียวกัน
หวังดี และห่วงใย!?