ที่มา ไทยรัฐ
ตัวเลขยอดคนตายจากไวรัสไข้หวัดใหญ่มฤตยูที่รัฐบาลกั๊กเอาไว้แถลงเป็นรายสัปดาห์
รายงานข่าวล่าสุดยอดทะลุเกิน 30 ราย
ส่วนตัวเลข ส.ส.ที่ติดไวรัสไข้หวัดหุ้นที่ กกต.ยืนยันผลการตรวจสอบ เฉพาะพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียว เสร็จค่อล่อซ่อไปแล้ว 13 ราย
ถ้ารวม ส.ว.ที่เจอพิษไข้หุ้นรุ่นแรกที่ กกต.
ขึ้นบัญชีจำหน่ายไว้แล้ว 16 ราย รวมเบ็ดเสร็จก็เป็น 29 ราย
ก็ยังเหลือเหยื่อไข้หวัดหุ้นรุ่นสุดท้าย ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติจากห้องแล็บ กกต.อีก 44 คน คาดว่าจะประกาศผลได้ภายในสิ้นเดือนนี้แน่นอน
แต่ถ้าเทียบจากมาตรฐานเดียวกัน คาดว่าจะมี ส.ส.ติดเชื้อไข้หวัดหุ้นรุ่นที่ 3 อีก 13 ราย!!
เป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทย 5 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 4 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 2 คน พรรคประชาราช 1 คน และพรรคกิจสังคม 1 คน
สรุปยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดหุ้นทั้ง 3 รุ่น รวมทั้งสิ้น 42 ราย ที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติเนื่องจากถือหุ้นบริษัทคู่สัญญากับรัฐ หรือบริษัทที่รับสัมปทานผูกขาดตัดตอนทั้งทางอ้อมและทางตรง
"แม่ลูกจันทร์" กราบเรียนว่า โอกาสรอดเหลือประตูเดียว...
คือต้องไปลุ้นที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การถือหุ้นของ ส.ส.และ ส.ว.ไม่เข้าข่ายต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ทั้ง 42 รายก็สบายแฮ
แต่ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไปทางเดียวกับมติ กกต. ก็เป็นว่า ส.ส.และ ส.ว.ทั้ง 42 คน ต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งยวง!!
แต่การพ้นตำแหน่งเพราะพิษไข้หุ้นก็ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง
เพราะยังมีสิทธิ์เปิดหวอกลับมาเลือกตั้งซ่อมได้ทันทีภายใน 45 วัน
คือใส่ตะกร้าล้างนํ้ากลับมานั่งเก้าอี้ตัวเดิม
ยกเว้น กรณี "สุเทพ เทือกสุบรรณ" ผู้จัดการรัฐบาล ที่ฉวยโอกาสยื่นใบลาออกจาก ส.ส. เพื่อให้น้องชายลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส. สุราษฎร์ฯแทน
นี่คือการเมืองระบบครอบครัวของแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่อดีต ส.ส.-ส.ว.ทุกคนจะได้กลับเข้าสภาฯ
เพราะ ส.ส.ระบบสัดส่วน กติกากำหนดให้ เลื่อนรายชื่อผู้สมัครลำดับถัดไปให้ดำรงตำ-แหน่งแทน
"แม่ลูกจันทร์" ตรวจสอบล่าสุดพบว่ามี ส.ส.สัดส่วน 7 คน ที่ไปแล้วไปลับไม่ได้กลับคืนสภาฯ แยกเป็น ส.ส.สัดส่วนพรรค ปชป. 2 คน พรรคเพื่อไทย 2 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 1 คน พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คน และพรรคประชาราช 1 คน อยู่ในข่ายต้องหลุดวงโคจร
แต่ประเด็นสำคัญที่ "แม่ลูกจันทร์" ฝากให้พี่น้องประชาชนเจ้าของเงินภาษีอากรช่วยกันใช้สะดือตรอง
คือการที่ ส.ส.และ ส.ว.ต้องพ้นตำแหน่งเพราะถือหุ้นต้องห้ามตามที่กำหนดไว้ในรัฐ-ธรรมนูญ
เมื่อรัฐธรรมนูญเขียนห้ามไว้ชัดเจน ย่อมเป็นหน้าที่ของ ส.ส.-ส.ว.ต้องปฏิบัติตาม การที่ ส.ส.-ส.ว.ยังคงถือหุ้นเอาไว้ ไม่ว่าเจตนา หรือไม่เจตนา
ต้องถือว่าเป็นความบกพร่องผิดพลาดของตัวเอง!!
ถ้าจะโทษว่ารัฐธรรมนูญเขียนไว้ไม่ ชัดเจน ก็ต้องโทษตัวเองที่รู้ว่า รัฐธรรมนูญไม่ชัดเจนยังเสี่ยงถือหุ้นเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญเอาไว้ทำไม??
คำถามก็คือ การที่ ส.ส.-ส.ว.พ้นตำแหน่งเพราะไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ เหตุใดต้องใช้เงินภาษีประชาชนไปจัดเลือกตั้งซ่อมใหม่อีกก้อนโต??
เอาง่ายๆ เลือกตั้งซ่อม ส.ส.ใหม่ 19 เขต บวกกับการเลือกตั้งซ่อม ส.ว.อีก 8 จังหวัด ต้องเสียเงินจัดเลือกตั้งซ่อมอีกห้าร้อยล้านบาทฟรีๆ
ประเทศต้องเสียเงินอีกห้าร้อยล้านบาท เพื่อให้ ส.ส.-ส.ว. 27 คน ที่ทำตัวเองขาดคุณสมบัติได้รับเลือกตั้งซ่อมกลับมานั่งชูคอในสภาฯ
ในฐานะผู้จ่ายภาษี "แม่ลูกจันทร์" เห็นว่าไม่แฟร์!!
ถ้าจะให้แฟร์ ต้องให้ ส.ส.-ส.ว. พวกนี้จ่ายค่าเลือกตั้งซ่อมเอง.
"แม่ลูกจันทร์"