ที่มา ไทยรัฐ
ความสำเร็จในการประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน และการประชุมร่วมมือทางด้านความมั่นคงและการเมืองในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ไม่ใช่อยู่ที่เนื้อหาสาระสักเท่าไหร่ แต่อยู่ที่เราได้มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์ ความเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ ได้แค่ไหน อย่างไรมากกว่าเพราะหัวข้อที่หยิบยกมาพูดคุยไม่ค่อยน่าภาคภูมิใจนัก กับตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต บางกรณีกลายเป็นความสะเทือนใจอย่างบอกไม่ถูก
ในความเห็นส่วนตัวผมว่า นายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ใช้โอกาสตรงนี้น้อยไปนิด โดยเฉพาะการสร้างสัมพันธ์ส่วนตัว ยกตัวอย่างที่ผ่านมาเอาใกล้ๆ สมัย คุณสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกฯ มีผู้นำประเทศอื่นมาเยือน คุณสมัครพาไปเลี้ยงข้าวที่บ้านลงมือทำอาหารให้ รับประทานด้วยตัวเอง ก็ดูเป็นกันเองดี
ที่เคยได้ยินผู้ใหญ่เล่าให้ฟัง เวลาไปเจรจางานบ้านงานเมือง เนื้อหาสาระในการพูดคุยจริงๆไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่เป็นการเปิดใจคุยกันมากกว่า ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งมีความสนิทสนมกับผู้นำจีนหลายคนเล่าให้ฟังว่า เวลาไปพบปะกันจริงๆ จะคุยเรื่องเบาๆ อาทิคุยเรื่องละครจอมใจจักรพรรดิบ้าง คุยเรื่องของรักของหวงบ้าง
งานทุกอย่างก็ราบรื่น
เพราะอะไรที่เป็นงานเป็นการ ระดับผู้นำแค่ให้นโยบาย ส่วนผู้ปฏิบัติจะไปว่าในรายละเอียดกันอย่างไรไม่ใช่สาระสำคัญ ประสบการณ์ จะให้บทเรียนที่ดีที่สุด และประสบการณ์จะเป็นการสร้างวิสัยทัศน์ที่ดี ที่สุดเช่นกัน
ความเป็นผู้นำจึงต้องอยู่คู่กับวิสัยทัศน์
ถ้าผู้นำปราศจากวิสัยทัศน์ย่อมจะพาบ้านเมืองล่มจม แน่นอนว่าวิสัยทัศน์จะต้องเกิดจากความคิดที่ยาวไกล ถ้าจำได้ผมเคยพูดถึงผู้นำสหรัฐฯ ประธานาธิบดี โอบามา หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ๆว่า ในระยะยาว โอบามา จะไม่ได้รับความนิยมถาวรจากคนสหรัฐฯและจะเกิดกระแสตีกลับ
เพราะโอบามาติดจะสร้างภาพไปหน่อย
ด้วยประสบการณ์การทำงาน วิสัยทัศน์และการแก้ปัญหาของประเทศไม่ค่อยเก่ง ยังไม่ทันไรวันนี้มีข่าวจาก เอเอฟพี รายงานผลสำรวจความคิดเห็นของ ยูเอสเอ กัลลับ พบว่าคะแนนความพอใจต่อโอบามา อยู่ที่ร้อยละ 55 เท่านั้น เทียบกับ อดีตประธานาธิบดี บุช แล้ว ยังน้อยกว่าด้วยซ้ำไป
ในขณะที่คะแนนความไม่พอใจก็สูงขึ้นและมากกว่าบุช มีแนวโน้มว่าคะแนนนิยมของโอบามา จะดิ่งลงเรื่อยๆ ก็อย่างที่ผมเกริ่นไปแล้วว่า ประชาชนชาวอเมริกาเรียนรู้เร็ว อะไรของจริงหรือสร้างภาพ ดูไม่ยาก จริงอยู่คะแนนนิยมตัวบุคคลก็มีส่วน แต่โลกที่เจริญแล้วเขาจะดูที่ข้อเท็จจริงและผลงานมากกว่า
ผมจึงอยากจะตั้งคำถามถึงรัฐบาลนายกฯอภิสิทธิ์ มีความตั้งใจที่จะบริหารประเทศจริงหรือไม่ แค่คำถามเดียว คณะกรรมการสมานฉันท์และปฏิรูปการเมือง ตั้งกันมาซะใหญ่โต มีอนุกรรมการไม่รู้กี่ชุด สรุปผลออกมาแล้วว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญใน 6 ประเด็น ซึ่งดูแล้วเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพียงแต่ว่าอาจจะกระทบกับพวกที่เข้ามา โดยการลากตั้ง และพวกที่ใช้เครื่องมือกลไกทางกฎหมายเอาเปรียบคนอื่นเท่านั้น ทำยึกๆยักๆซะแล้ว.
หมัดเหล็ก