WeLoveOurKing
How to insert weloveking to you website

ทรงพระเจริญ

ขัตติยาอัด คอป แต่งนิทานโยนความผิดเสธ แดง 18 9 55

สถาบันกษัตริย์อยู่ได้ด้วยความจริง

ธงชัย วินิจจะกูล: Truth on Trial

สถาบันกษัตริย์ถึงเวลาต้องปรับตัว

ตุลาการผิดเลน !


ฟังกันให้ชัด! "นิติราษฎร์" ไขข้อข้องใจ ทุกคำถามกรณีลบล้างผลพวงรัฐประหาร





วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ชม.

VOICE NEWS

Fish




เพื่อไทย

เพื่อไทย
เพื่อ ประชาธิปไตย ขับไล่ เผด็จการ

Thursday, July 23, 2009

อนาคต "ข้าวไทย" อาการน่าเป็นห่วง?

ที่มา ไทยรัฐ

ผมนั่งอ่านรายงาน "สกู๊ปข่าวหน้า 1" ของไทยรัฐ ฉบับเมื่อวานนี้ แล้วก็มีอาการไม่สบายใจขึ้นมาตงิดๆ ต้องขออนุญาตนำมาขยายความออกความเห็นเพิ่มเติมในวันนี้

ทีมสกู๊ปข่าวหน้า 1 ซึ่งไปฟังการเสวนาเชิงวิชาการเรื่อง "จำนำ-ประกันราคา-ฤาแก้ปัญหาสินค้าเกษตรไทย" จัดโดยสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย ที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ รายงานตอนหนึ่งว่า...

ผลของการใช้นโยบายรับจำนำข้าวที่ดำเนินการมา 6 ปีแล้ว โดยให้ราคาที่สูงกว่าความเป็นจริง ทำให้ชาวนาหันมาปลูกข้าวมากขึ้น แต่เป็นการปลูกอย่างลวกๆ ง่ายๆ ชนิดปลูกปีละ 3 ครั้ง เพื่อจะได้มีข้าวมาจำนำรัฐบาลเยอะๆ

ด้วยการกระทำแบบนี้ทำให้ข้าวไทยมีคุณภาพตํ่าลงและกลายเป็นข้าวที่ตลาดโลกไม่ให้ราคาและซื้อข้าวไทยน้อยลง

ตัวเลขจากการเสวนาน่าห่วงมาก ไทยส่งข้าวออกลดลง 30% เวียดนามเพิ่มขึ้น 56% และไทยมีส่วนแบ่งตลาดโลกเพียง 22% เท่านั้น ในขณะนี้ โดยเวียดนามไล่จี้มาที่ 20% ใกล้จะทันอยู่รอมร่อ

ผลเสียอีกประการหนึ่งของนโยบายจำนำข้าว เกิดขึ้นจากการที่บุคคลบางกลุ่มฉวยโอกาสนำข้าวจากพม่าและจากเขมรที่ต้นทุนการเพาะปลูกตํ่ากว่าเข้ามาจำนำด้วยเพราะได้กำไรจากการซื้อข้าวพม่าเขมรมาจำนำเป็นเท่าๆตัว

ส่งผลให้ชาวนาพม่าชาวนาเขมรต่างก็ขยายการเพาะปลูกกันยกใหญ่ เพื่อส่งมาขายคนไทยที่จะเอาไปจำนำต่อ

กลายเป็นว่านโยบายรับจำนำข้าวนอกจากจะทำลายข้าวไทยให้กลายเป็นข้าวคุณภาพตํ่าเป็นประการแรกแล้วยังกลายเป็นนโยบายช่วยเหลือชาวนาของประเทศเพื่อนบ้านเป็นประการที่สอง

นี่แหละครับ...สาเหตุที่ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจเมื่ออ่านรายงานชิ้นนี้ ซึ่งเก็บมาจากอภิปรายในเวทีเสวนาที่ว่า

รายละเอียดใครกล่าวว่าอย่างไร ลองกลับไปอ่านไทยรัฐฉบับเมื่อวานกันอีกทีนะครับ อยู่ในหน้า 5 ใกล้ๆกับคอลัมน์ผมนี่แหละ

ในฐานะนักเรียนเศรษฐศาสตร์ ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายประกันราคาข้าว จำนำข้าว หรือแม้แต่แทรกแซงราคามาตั้งแต่แรก...

เพราะอะไรก็ตามที่ไปทำให้กลไกตลาดบิดเบือน ในที่สุดก็จะทำให้ ทุกสิ่งทุกอย่างบิดเบือนและจะเป็นผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจเป็นส่วนรวม

แต่ในทางการเมือง หรือบางครั้งก็อาจกล่าวได้ว่า ในทางมนุษยธรรม... เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นผู้อ่อนด้อยกว่ากลุ่มอื่นๆในสังคม รัฐบาลมักมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการ

โดยทั่วไปแล้วนักเศรษฐศาสตร์ก็มิใช่ใจไม้ไส้ระกำ ถึงกับคัดค้านหัวชนฝา หรือห้ามขาดไปเสียหมด เพราะตระหนักดีว่าสิ่งที่รัฐบาลกระทำลงไปนั้นก็ด้วยเจตนาดี เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

จึงมักไม่ค้านสุดโต่ง แต่ก็จะมีความเห็นตักเตือนรัฐบาลว่า จะต้อง ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด และควรทำเมื่อมีความจำเป็นจริงๆเท่านั้น

สำหรับกรณีที่มีการเสวนากันนี้ เห็นได้ชัดเจนว่าการบิดเบือนได้ส่งผลอย่างกว้างขวางออกไปถึงประเทศเพื่อนบ้านด้วย

หากจะบิดเบือนภายในและรัฐบาลจะต้องขาดทุนสูญเสียไปบ้าง แม้จะ ไม่สมควร แต่หากเสียเพื่อคนไทยที่ยากจน ก็ยังจะกัดฟันทนได้

นี่กลายเป็นเสียเพื่อคนอื่น...ใครจะทนได้ล่ะครับ

พ่อค้าหรือบุคคลที่ร่วมขบวนการบิดเบือน ด้วยการไปนำข้าวจากประเทศอื่นมาจำนำ เพื่อหวังผลกำไรให้แก่ตัวเอง ก็ช่างเป็นคนที่ผมอยากจะใช้คำว่า "สิ้นคิด" โดยสิ้นเชิง
เพราะไม่คิดถึงเหตุผลอะไรเลย นอกจากความร่ำรวยของตัวเองเท่านั้น

ผมจึงเห็นด้วยอย่างยิ่งที่มีข้อเสนอว่า จะต้องทบทวนนโยบายทั้ง หลายแหล่ ไม่ว่าจำนำ ประกัน หรือแทรกแซง ฯลฯ กันอย่างจริงจัง เพราะผลร้ายมันเกิดขึ้นดังกรณีเรื่องข้าวที่กำลังพูดกันอยู่นี้

ที่สำคัญที่สุด ด้วยตัวเลขภาพรวมของการส่งออกข้าว ที่น่าเป็นห่วงมากถึงขนาดว่า เวียดนามขึ้นมาหายใจรดต้นคอและมีสิทธิจะแซงเราได้ ในปีหน้าปีโน้น ที่กล่าวถึงตอนต้น
จะนิ่งดูดายไม่ได้แล้วนะครับ และไม่ควรจะเป็นแค่เสวนาเล็กๆ จัดโดยสมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯของเพื่อนๆผมเท่านั้น

ควรจะเป็นเรื่องใหญ่ระดับ "วาระแห่งชาติ" จัดโดยรัฐบาลไทยด้วยซ้ำไป.

"ซูม"