ที่มา บางกอกทูเดย์
น.พ.สมชัย นิจพานิช รองอธิบดีกรมควบคุมโรค และคณะประมาณ 10 คน ได้ยกขบวนมาเยี่ยม “บางกอกทูเดย์” ถึงสำนักงาน นำคู่มือการป้องกันโรคหวัดสายพันธุ์ใหม่2009 มาฝากให้ประชาสัมพันธ์แม้จะมาช้าไปนิด แต่ก็เข้าหลักเกณฑ์ “มาช้าดีกว่าไม่มา”คุณไพวงษ์ เตชะณรงค์ บิ๊กบอสที่นี่พร้อมกับผู้สื่อข่าวที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผม ก็ได้มีโอกาสนั่งซักถามความข้องใจทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ “ไข้หวัดนรก” นี้เพราะ....ข้อมูลที่เราได้รับมาก็เท่ากับคนไทยทั้งประเทศที่ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยโรคนี้กี่คนกันแน่ และเสียชีวิตไปแล้ว 30 รายจริงหรือเปล่า??ท่านรองอธิบดี น.พ.สมชัย อธิบายว่า ความจริงแล้วขณะนี้มีผู้ป่วยเป็น “โรคหวัด 2009” ถึง 1,000,000 คน ไม่ใช่หลักแสนแต่ผู้เสียชีวิตมีแค่ 30 ราย!!ในความคิดผมซึ่งเป็นผู้เขียน อัตราส่วนอย่างนี้ยังถือว่าน้อยมาก แต่ก็จะประมาทและมองข้ามไม่ได้!!ท่านรองอธิบดีอธิบายพอให้เข้าใจได้ว่า คนที่ป่วยเป็น“หวัด 2009” ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดมักมี “โรคแทรก”คือ โรคปอด โรคหืดหอบ ถึงจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตนอกนั้นมักจะปลอดภัย!!ด้วยคำอธิบายของคนระดับรองอธิบดีกรมควบคุมโรคซึ่งมาแทนท่านอธิบดีอย่างนี้ ผมก็นึกถึงความล้มเหลวอย่างหนึ่งของรัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข ที่มี คุณวิทยาแก้วภราดัย เป็นรัฐมนตรีความล้มเหลวในการ “ประชาสัมพันธ์” ให้ผู้คนรับรู้
อย่างเป็นระบบ ที่เรียกกันอย่างโก้เก๋ว่า ประชาสัมพันธ์เชิงรุกรัฐบาลมีงบประชาสัมพันธ์มากมายเป็นพันๆ ล้าน โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข จึงน่าจะนำข้อมูลเรื่องราวที่เกี่ยวกับ“ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009” ให้โทรทัศน์ วิทยุและหนังสือพิมพ์ ลงให้ในรูปแบบโฆษณา ปูพรมให้ทั่วถึงคนไทยก็จะได้รู้จักไข้หวัดชนิดนี้มากขึ้น ไม่ต้องมานั่งจินตนาการหรือคิดเองเออเอง??มันจะหมดซักกี่ร้อยล้านหรือกี่พันล้าน น้อยกว่าการสูญเสียใน “บุฟเฟ่ต์ คาบิเนต” ที่ประเทศชาติต้องสูญเสียเงินเป็นหมื่นล้านแสนล้าน??อย่าคิดว่าเป็นการเสียหน้าหรือลอกเลียนแบบอะไรเลยกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของ วิทยา แก้วภราดัยควรจะดูตัวอย่างที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ทำไว้สมัยต่อสู้กับ “ไข้หวัดนก” ที่น่ากลัวกว่านี้หลายเท่า ช่วงเป็นรมว.กระทรวงนี้คุณสุดารัตน์ทุ่มเงินในการทำความเข้าใจให้กับประชาชนเป็นร้อยๆ ล้าน ซึ่งมันถูกเหลือเกินเมื่อเปรียบเทียบกับความปลอดภัยของประชาชนกว่า 63 ล้านในสถานการณ์ที่อึมครึมวังเวงอย่างนี้ ก็ยังมีเรื่องหนึ่งที่พอช่วยให้คนไทยหายใจอึดอัดน้อยลง คือ การโดดลงมากำกับการแสดงเองของ คุณชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ที่เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคนี้มาร่วมกันแสดงความคิดในการป้องกันรักษาเยียวยาไอเดียอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ชวน หลีกภัย ในการคิดริเริ่มให้มี “สาธารณสุขหมู่บ้าน” จะเป็นการช่วยผู้คนที่ยากไร้ในบ้านนอกลึกๆ ไกลปืนเที่ยงให้พอมีลมหายใจต่อไปเป็นการให้โอกาสและแก้ปัญหาอย่างตรงเป้า!!สำหรับรัฐบาล? รีบทำรีบตัดสินใจเสียเถิดครับ ถึงเวลาที่ท่านและพรรคพวกใน ครม. ต้องทำอะไรสักอย่าง ให้คนไทยเชื่อว่าตอนนี้เรายังมีรัฐบาลอยู่!! ■